พีซีเอส ขานรับ พ.ร.บ. ธุรกิจรักษาความปลอดภัยของภาครัฐ

พีซีเอส ขานรับ พ.ร.บ. ธุรกิจรักษาความปลอดภัยของภาครัฐ

 


บริษัท รักษาความปลอดภัย พีซีเอส และ ฟาซิลิตี้ เซอร์วิสเซส จำกัด เครือโอซีเอส กรุ๊ป ปรับกลยุทธ์ธุรกิจเพื่อรองรับพระราชบัญญัติธุรกิจรักษาความปลอดภัย พ.ศ.2558 โดยหนึ่งในสาระสำคัญของ พ.ร.บ. นี้คือพนักงานรักษาความปลอดภัย หรือ รปภ. ต้องผ่านการฝึกอบรมเกี่ยวกับความรู้ที่จำเป็นทั้งภาคทฤษฎี   และปฏิบัติ ตามมาตรฐานหลักสูตรการรักษาความปลอดภัย และนั่นคือกลยุทธ์สำคัญของพีซีเอสในการเปิด “ศูนย์ฝึกอบรมรักษาความปลอดภัยพีซีเอส ซึ่งเป็นศูนย์ฝึกต้นแบบ เพื่อยกระดับมาตรฐานธุรกิจรักษาความปลอดภัยไทยสู่สากล"   

 

นายกิตติ นครชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท รักษาความปลอดภัย พีซีเอส และ ฟาซิลิตี้ เซอร์วิสเซส จำกัด กล่าวว่า “ทางพีซีเอส เห็นด้วยอย่างยิ่งกับ พ.ร.บ. ธุรกิจรักษาความปลอดภัยของภาครัฐบาลเพราะธุรกิจการให้บริการรักษาความปลอดภัยนั้น มีความเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับความปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของประชาชน โดยปัจจุบันนี้มีผู้ประกอบธุรกิจการให้บริการรักษาความปลอดภัยจำนวนกว่า 3,000- 4,000 บริษัท แต่มีมาตรฐานในการประกอบธุรกิจแตกต่างกัน และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประมาณ 450,000 คนทั่วประเทศ แต่ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายกำหนดประมาณ 200,000 คนเท่านั้น เมื่อมี พ.ร.บ. ธุรกิจรักษาความปลอดภัย ก็จะเป็นการยกระดับมาตรฐานธุรกิจรักษาปลอดภัย และเสริมสร้างศักยภาพของพนักงานรักษาความปลอดภัย อันจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้บริการ และช่วยเสริมสร้างความสงบเรียบร้อยของสังคมอีกด้วย โดย พ.ร.บ. ฉบับนี้ กำหนดให้ผู้ที่ต้องการจะประกอบอาชีพ รปภ. และผู้ปฏิบัติหน้าที่ รปภ. อยู่แล้วเข้ารับการฝึกอบรมจากสถานฝึกอบรมที่นายทะเบียนกลางรับรองและจัดเก็บค่าธรรมเนียมการฝึกอบรมในอัตรา ไม่เกิน 6,000 บาทต่อคน

 

หากพูดถึงในส่วนการฝึกอบรมพัฒนาทักษะวิชาชีพ รปภ. เป็นเรื่องที่บริษัทฯ ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องนับเป็นระยะเวลา 50 ปีที่บริษัทได้เปิดดำเนินการในประเทศไทย โดยใช้หลักสูตรที่ได้มาตรฐานสากลจากประเทศอังกฤษ ซึ่งเนื้อหาการฝึกอบรมก็เป็นไปตามมาตรฐานหลักสูตรการรักษาความปลอดภัยของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเช่นกัน จึงเป็นเหตุผลสำคัญในการปรับกลยุทธ์ของธุรกิจ ชูศักยภาพของพีซีเอส ในฐานะผู้นำด้านธุรกิจรักษาความปลอดภัย ด้วยการเปิดศูนย์ฝึกอบรมรักษาความปลอดภัยพีซีเอส นอกจากสนองนโยบายของรัฐบาลแล้ว ยังแบ่งเบาภาระของ รปภ. พีซีเอส โดยไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งปัจจุบันพีซีเอสมีการฝึกอบรม รปภ. เฉลี่ยเดือนละประมาณ 600-800 คนและมีจำนวน รปภ. ทั่วประเทศราว 15,000 คน ด้วยเหตุนี้เราจึงตระหนักถึงสวัสดิการของพนักงานในทุกด้าน

 

พีซีเอส คือหนึ่งในไม่กี่บริษัทที่ได้รับใบอนุญาตเปิดศูนย์ฝึกอบรมรักษาความปลอดภัย จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติและถือเป็นศูนย์ฝึกต้นแบบ ด้วยระยะเวลาการดำเนินธุรกิจและประสบการณ์ด้านการรักษาความปลอดภัยมายาวนานถึง 50 ปีในประเทศไทยและ 118 ปีในประเทศอังกฤษ รวมถึงมาตรฐานอื่นๆ อาทิ ครูผู้ฝึกมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการฝึกอบรมทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ

 

โดยตั้งเป้าเปิด 4 ศูนย์ฝึกครอบคลุมทุกภาคของประเทศ รองรับ 21 สำนักงานของพีซีเอสตามจังหวัดต่างๆ เช่น เชียงใหม่ สงขลา ภูเก็ต ชลบุรี ขอนแก่น เป็นต้น ที่ใช้เป็นพื้นที่ในการรับสมัครงาน                รปภ.- แม่บ้าน พร้อมทั้งการบริหารจัดการด้านสวัสดิการ สวัสดิภาพของบุคลากรอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้ระยะเวลาการฝึกอบรมไม่น้อยกว่า 40 ชั่วโมง ประกอบด้วยภาคทฤษฎี 16 ชั่วโมงและภาคปฏิบัติ 24 ชั่วโมง อาทิ กฎหมายเบื้องต้นเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย การรักษาความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน การปฐมพยาบาลเบื้องต้น การจัดการจราจร และการฝึกภาคสนาม ตามมาตรฐานหลักสูตรการรักษาความปลอดภัย หรือหลักสูตร รปภ. ที่รัฐบาลกำหนด หากผ่านการฝึกอบรมก็จะได้รับหนังสือรับรองการฝึกอบรม หลักสูตรการรักษาความปลอดภัยจากบริษัทพีซีเอส หรือเข้าใจง่ายๆ ก็คือใบอนุญาตให้สามารถประกอบอาชีพเป็น รปภ.ได้”  นายกิตติ กล่าวทิ้งท้าย 

 

ปัจจุบันรายได้ของพีซีเอสยังมาจากบริการรักษาความปลอดภัยเป็นหลัก คิดเป็น 60% อีก 25% มาจากบริการแม่บ้านทำความสะอาด และ 15% ด้านบริหารจัดการอาคารในระดับสากลแบบครบวงจร ( Integrated Facilities Management : IFM ) ที่เข้ามาปรับใช้เพื่อยกระดับการผลิตและการบริการ และแบ่งเบาภาระงานด้วยการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ อาทิ งานด้านการรักษาความปลอดภัย งานแม่บ้าน ให้บริการ ระบบรักษาความปลอดภัยแบบอิเล็กทรอนิคส์ ระบบเตือนภัย ระบบโทรทัศน์วงจรปิด รวมถึงการบริหารงานสถานที่จอดรถยนต์ งานวิศวกรรมระบบประกอบอาคาร บริการกำจัดแมลงและสัตว์รบกวนและบริการสุขอนามัยในห้องน้ำ

Comments

Share Tweet Line