Teen Spirit

Teen Spirit

          Teen Spirit เล่าเรื่องราวอันแสนจรรโลงใจในโลกแห่งเสียงดนตรี หนังพูดถึงการเติบโต ความฝันอันยิ่งใหญ่ และการตามหาเส้นทางของตัวเองที่ไม่ว่าใครก็สามารถมีอารมณ์ร่วมได้


          ตัวละครเอกใน Teen Spirit คือ ไวโอเล็ต (แอลล์ แฟนนิ่ง) วัยรุ่นสาวขี้อายที่มาจากครอบครัวอันแตกร้าวในเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง แต่เธอมีความใฝ่ฝันอยากเป็นศิลปินนักร้องชื่อดัง ด้วยความช่วยเหลือจากครูฝึก (ซลัตโก้ บิวริค) ไวโอเล็ตจึงได้ก้าวเข้าสู่โลกของการแข่งขันร้องเพลงระดับประเทศ การแข่งขันที่จะทดสอบความยึดมั่น ความสามารถ และความทะเยอทะยานของเธอ

แถลงการณ์ของผู้กำกับ

          Teen Spirit เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมือง ไอล์ออฟไวท์ (Isle of White) เกาะเล็กๆ ของประเทศอังกฤษ เมืองที่พ่อของผมเติบขึ้นมา

          พ่อเป็นลูกชายของผู้อพยพชาวอิตาลี ท่านมักจะมาทำงานในร้านกาแฟของที่บ้านหลังจากเลิกเรียนเสมอและทำงานเป็นเด็กส่งไอศกรีมในช่วงสุดสัปดาห์ ถ้ามีเวลาว่าง พ่อจะหันไปเล่นดนตรีกับวงและแต่งเพลง นั่นคือความปรารถนาที่จะสร้างสรรค์ชีวิตของเขาขึ้นมาในเวลาต่อมา

          แม่ของผมออกมาจากฮ่องกงตอนอายุได้ 18 ปีเพื่อเริ่มต้นอาชีพเป็นแดนเซอร์ที่ลอนดอน นั่นคือครั้งแรกที่เธอจากบ้านเกิดมา มันเป็นสิ่งที่แปลกไม่เพียงแค่ในวัฒนธรรมของเธอ แต่แปลกในสายตาของครอบครัวเธอ ซึ่งที่ผ่านมาล้วนประกอบอาชีพแพทย์กันทั้งสิ้น

          บางทีอาจเลี่ยงไม่ได้ที่ผมจะมาสนใจในตัวของ ไวโอเล็ต ตัวละครผู้รู้สึกว่าตัวเองอยู่ผิดที่ผิดทางและพยายามหาทางแสดงถึงความเป็นศิลปินในตัวออกมาเพื่อปลอบประโลมตัวเอง

          ไม่มากไม่น้อย Teen Spirit มีความเป็นเรื่องเล่าตามขนบซึ่งพบเห็นมาช้านาน ดังเช่นเรื่องราวสุดคลาสสิคของซินเดอเรลล่า ภาพยนตร์ตั้งเป้าสร้างความสนุกและทำลายความคิดความเชื่อดังกล่าว ไวโอเล็ตต้องเผชิญกับอุปสรรคนานาตลอดการผจญภัยของเธอ แต่ผมเองหวังว่า Teen Spirit จะไม่พลัดหลงทางหรือลงเอยด้วยความเร้าอารมณ์ที่ไร้ชั้นเชิง แม่ของไวโอเล็ตไม่ได้ป่วยด้วยโรคมะเร็งที่รักษาไม่ได้หรือว่ามีสถานพยาบาลที่ไหนในชุมชนที่อยู่ได้โดยไม่มีปัญหาทางการเงิน ตัวละครและความสัมพันธ์ของพวกเขามีความซับซ้อนและเติมเต็มซึ่งกันและกันภายใต้พื้นที่สีเทาๆ

          ในแก่นแกนของเรื่องนั้นพูดถึงความทรงพลังและความทุกข์อันยิ่งใหญ่ ว่าพวกเราต่างมีเรื่องที่อยากพูด แต่มีความรู้สึกลึกๆ ในใจว่าคงไม่มีใครอยากฟังหรอก บางทีเราอาจไม่ควรได้รับความโดดเด่น เพราะมันเป็นพื้นที่ของคนอื่น ไม่ใช่ของเรา เป็นความรู้สึกที่เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะเด็กจากเกาะเล็กๆ ทั้งทางกายภาพและการถูกตัดขาดจากโอกาสเพราะปัจจัยด้านเศรษฐกิจ

          ด้วยเจตจำนงและความมั่นใจในตัวเองที่ไวโอเล็ตได้พัฒนาขึ้นในหนังตลอดทั้งเรื่อง ไม่เพียงแค่เธอสามารถร้องเพลงได้อย่างสมใจหมาย แต่ยังสามารถปฏิเสธความคิดว่าเธอจำเป็นต้องพึ่งพาความคิดของผู้อื่น นั่นคือหัวใจหลักของเรื่องนี้ และผมหวังว่าหนังจะมอบแรงบันดาลใจให้กับคนที่รู้สึกว่า ความฝันของตัวเองอยู่ห่างไกลจากความเป็นจริงเช่นเดียวกับเธอ เพื่อให้เดินหน้าตามหาเส้นทางของตนเอง

 

 

สนทนากับผู้กำกับ แม็กซ์ มิงเกห์ลล่า

คุณพอเล่าเรื่องราวในหนังให้ฟังได้ไหม

          Teen Spirit เล่าเรื่องราวของ ไวโอเล็ต วาเลนสกี้ เด็กสาวผู้อพยพมาจากประเทศโปแลนด์ที่อาศัยอยู่กับแม่ใน ไอล์ออฟไวท์ เกาะเล็กๆ นอกชายฝั่งอังกฤษ เธอมีโอกาสได้เข้าไปออดิชั่นประกวดร้องเพลงในชุมชนของเธอ ทำให้หลังจากนั้นไวโอเล็ตตัดสินใจเดินหน้าตามหาความฝันโดยได้รับความช่วยเหลือจากครูฝึก (วแลด) ที่อาจไม่ค่อยเต็มใจช่วยเท่าไหร่ แม้ฉากหลังของเรื่อจะว่าด้วยการประกวดร้องเพลง แต่ตัวหนังบอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร 2 ตัวว่าพวกเขาแต่ละคนส่งผลถึงกันอย่างไร นี่ไม่ใช่แค่หนังที่บอกเล่าเรื่องราวของไก่รองบ่อนแบบที่เคยเป็น ไวโอเล็ตเป็นคนที่เก่งกาจมาตั้งแต่ต้น แต่เธอถูกปีศาจที่อยู่ในใจปิดกั้นตัวเองไว้ไม่ให้ปลดปล่อยความสามารถที่แท้จริง การแข่งขันในครั้งนี้กลายมาเป็นบททดสอบว่าตัวเธอเองมีความสามารถมากเพียงใด

 

การร่วมงานกับ แอลล์ แฟนนิ่ง เป็นอย่างไรบ้าง และเธอเหมาะสมกับบทนี้อย่างไร

          ทั้งแอลล์และไวโอเล็ตต่างเปล่งประกายในจังหวะที่ใช่ มีความน่าหลงใหลและเส้นขนานที่ไม่คาดคิดระหว่างตัวเธอและตัวละครของเธอที่ช่วยยกระดับเรื่องราว เธอมาพร้อมความชัดเจนตั้งแต่ต้นว่าเธอเข้าใจในบทนี้อย่างดีและรู้ว่าจะทำให้ดีขึ้นได้อย่างไร เธอเป็นนักแสดงชั้นยอดอย่างไม่ต้องสงสัยเลยครับ เธอยังเป็นมืออาชีพอย่างมากซึ่งมันสำคัญทีเดียว การถ่ายทำในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เธอทุ่มสุดตัวเพื่อเตรียมพร้อมกับการถ่ายทำในแต่ละวัน

 

แอลล์ มีเสียงที่น่าทึ่งมาก คุณประทับใจในการแสดงของเธออย่างไรบ้าง

          เรารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าแอลล์มีเสียงที่ไพเราะมาก แต่ยังไม่เคยมีคนสำรวจในส่วนนี้เท่าไหร่ อย่างน้อยก็ในหนัง เธอยังกระตือรือร้นและตื่นเต้นที่จะได้ทำงานนี้ด้วย เธอเตรียมความพร้อมหนักมากในการรับบทนำในหนังเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่ในเรื่องของการตีความตัวละครที่เป็นคนโปแลนด์และการเต้น แต่ยังรวมถึงการฝึกการใช้เสียง นักร้องมืออาชีพส่วนมากไม่จำเป็นต้องแสดงหลายเทคเวลาแสดงโชว์ แต่แอลล์สามารถทำทุกเทคให้ออกมาดีได้ทุกครั้ง เวลาเธอร้องเพลง เราจะบันทึกเสียงแบบสดๆ และเป็นสิ่งที่ล้ำค่าอย่างมากในหนังเรื่องนี้ ผมเชื่อเลยว่าคนดูจะต้องทึ่งในการร้องเพลงของเธอ

 

คุณพอจะเล่าได้ไหมว่าบทบาทของ มาริอุส เดอ วรีส์ กับการทำงานร่วมกับแอลล์และการเตรียมความพร้อมของเธอนั้นเป็นอย่างไรบ้าง

          ยอดคอมโพเซอร์และผู้อำนวยการดนตรีในหนังเรื่องนี้ของเรา มาริอุส เดอวรีส์ ถือเป็นยอดวีรบุรุษของผมเลย นอกจากเขาจะสำคัญสำหรับผม ยังสำคัญสำหรับแอลล์ด้วย พวกเขาต่างไว้ใจและเคารพซึ่งกันและกันและมันยังส่งผลถึงความสัมพันธ์บนจอระหว่าง วแลด และ ไวโอเล็ต ด้วย เกิดความเป็นเพื่อนซึ่งผมคิดว่ามันนำไปสู่ความเป็นเอกลักษณ์ในตัวงาน มันจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากปราศจากความเป็นมิตรและความไว้ใจกัน พวกเขาใช้เวลาหลายเดือนช่วยกันพัฒนาเสียงของแอลล์ตั้งแต่ก่อนที่เราจะเริ่มงานสร้างเสียอีก และมันช่วยให้ผมเกิดความรู้สึกทะเยอทะยานในการทำงานมากขึ้นด้วยเมื่อรู้ว่าฐานของเธอมั่นคงดีแล้ว

 

สำหรับตัวละคร วแลด ของ ซลัตโก้ บิวริค มีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง

          บทของ วแลด เขียนขึ้นมาเพื่อ ซลัตโก้ เลยครับตั้งแต่ตอนเป็นดราฟท์แรกๆ เขาเป็นตัวเลือกเดียวที่ผมอยากให้มารับบท เขามีความเป็นตัวของตัวเองสูง เป็นคนใจใหญ่ เขาโกหกใครไม่เป็น เขามีความน่าเชื่อถืออย่างมาก มันเหมือนเป็นการวางรากฐานให้กับหนัง และยังมั่นใจได้ด้วยว่าคนดูจะมองเห็นด้านที่น่าเห็นอกเห็นใจในตัวของเขาด้วยอย่างแน่นอน

 

หนังของคุณมาพร้อมนักแสดงสมทบฝีมือดี คุณมีวิธีการคัดเลือกนักแสดงเหล่านี้มาได้อย่างไร

          ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณการช่วยเหลือของ จูลี่ ฮาร์กิ้น ซึ่งเป็นผู้คัดเลือกนักแสดงครับ ผมเป็นแฟนผลงานของเธอมานานแล้ว และเธอมีรสนิยมในการเลือกคนดีมาก ผมไม่อยากให้คนดูหนังรู้สึกว่ามันโดดออกไปจากความเป็นจริง เราเลยพยายามเลือกคนโดยดูจากความเรียบง่ายที่สุด

          ไม่เคยมีความรู้สึกว่ากดดันในการเลือกใครมาแสดงเลยสักคนนะครับ เราเลือกคนที่ใช่มารับบท และเราก็โชคดีมากที่ได้นักแสดงวัยรุ่นที่มีเสน่ห์ ความสามารถ และความเป็นธรรมชาติมาเล่นในหนังเรื่องนี้

          คลาร่าที่รับบทเป็น โรซี่ น่าจะเป็นนักแสดงวัยรุ่นคนแรกที่เราเลือกมา เธอมีเสียงที่โดดเด่นและสัมผัสได้อย่างชัดเจน เธอเป็นคนที่สามารถสร้างผลกระทบให้สั่นสะเทือนไปยังตัวละครอื่นๆ และหนังเรื่องนี้ได้อย่างรวดเร็ว ในทางกลับกันตัวละคร ลุค เป็นคนที่หาค่อนข้างยากและเราต้องใช้เวลานานทีเดียว จนจูลี่ไปเจอ อาร์ชี่ แมดเดอเกว เล่นละครเวทีเข้าเขามีความอ่อนไหวและความเป็นผู้ใหญ่ที่เราตามหาอยู่พอดี ประโยชน์อย่างหนึ่งของการถ่ายทำหนังที่อังกฤษคือเราสามารถเจอคนที่มีความสามารถทั้งทางหน้ากล้องและหลังกล้องเต็มไปหมดเลยครับ

 

คุณยังได้มือฉมังสายดนตรีอย่าง มาริอุส เดอ วรีส์, สตีเว่น กิซิกิ รวมถึงนักออกแบบท่าเต้นอย่าง จอนนี่ และ อาเมียร์ มาร่วมงานด้วย การทำงานกับพวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง

          ผมเคยร่วมงานกับโปรดิวเซอร์มือฉมัง เฟร็ด เบอร์เกอร์ ผลงานที่ผ่านมาของเขาบ่งบอกว่าเขาเป็นคนที่เก่ง และการที่เราได้คนมีความสามารถขั้นสุดยอดมาเล่นหนังเรื่องนี้ ส่วนสำคัญต้องขอบคุณเขาเลยครับ พวกเขาต่างเคยทำงานร่วมกันมาใน La La Land ทีมงานไว้ใจเขา เคารพเขา และด้วยประสบการณ์เหล่านั้นเอง ผมเชื่อว่าผมเองก็น่าจะสามารถทำงานกับเขาได้ดีเช่นกัน ผมคิดว่าพวกเขาต่างมีช่วงเวลาการทำงานที่สนุกสนานบนความท้าทายอย่างมากในครั้งนี้

          กรณีของ จอนนี่ และ อาเมียร์ ถือเป็นตัวเลือกที่น่าตื่นเต้นแม้จะไม่ได้เป็นตัวเลือกที่เห็นได้ชัดในช่วงแรก พวกเขาเคยทำงานสายโอเปร่ามาก่อน และมีความชำนาญอย่างมาก พวกเขาเพิ่งเสร็จงานสร้างเวทีแสดงโอเปร่าเป็นส้วมขนาดยักษ์มาหมาดๆ! พอผมมาคิดถึงหนังเรื่องนี้ คิดถึงดินแดนของการแข่งขันร้องเพลง ผมพยายามทำให้มันน่าสนใจขึ้นมาและผมเชื่อว่าสามารถทำให้มันแตกต่างไปจากสิ่งเดิมๆ ได้ ด้วยการเล่าเรื่องให้เห็นได้ชัดจนอาจจะชัดเจนยิ่งกว่าท่วงท่าเต้นต่างๆ เสียอีก

 

เพลงประกอบในเรื่องก็น่าทึ่งไม่น้อย กระบวนการคัดเลือกเพลงมาใช้เป็นอย่างไรบ้าง

          สำคัญมากครับในการทำให้ฉากเล่นดนตรีในแต่ละช่วงผลักดันเรื่องราวให้เดินหน้าต่อไป แล้วช่วยจุดประกายให้กับชีวิตของไวโอเล็ตด้วย เพราะฉะนั้น แต่ละเพลงที่เลือกมานั้นนอกจากจะมีประโยชน์ด้านอารมณ์แล้ว ยังมีประโยชน์ต่อการเล่าเรื่องอย่างมากด้วย

          ผมพยายามจะปล่อยให้แต่ละฉากนั้นควบคุมบทเพลง โดยผมจะคัดเพลงจากในลิสต์ iTune ของผม การนำเพลง Tattooed Heart ซึ่งโรซี่ใช้มันแสดงในช่วงสุดท้ายของเรื่องมาใช้ถือเป็นข้อยกเว้นประการสำคัญ สาเหตุที่มันมาอยู่ในหนังเรื่องนี้เพราะผมรักอัลบั้มแรกของ อาเรียน่า แกรนเด อย่างมาก เพลงนี้ทำให้ผมยิ้มได้และมีความสุขเสมอ

          ทุกเพลงในหนังเรื่องนี้ถูกวางไว้อย่างเฉพาะเจาะจงเอาไว้ในบทแล้วได้ปรากฏอยู่ในหนังในท้ายที่สุดด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมากสำหรับผม ทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นเพราะ สตีเว่น กิซิกิ ที่สร้างปาฏิหาริย์ให้เกิดขึ้นจริง เช่นเดียวกับทาง Interscope ที่เปรียบเสมือนแม่พระที่คอยช่วยเหลือพวกเรามาตลอด

 

หนังเรื่องนี้ดูสวยงามมาก คุณมีการพูดคุยเรื่องการสร้างสุนทรียะกับ ออทั่ม อย่างไรบ้าง พวกคุณกล่าวชื่นชมกับในกองถ่ายบ้างไหม

          ผมว่าเธอคืออัจฉริยะเลยครับ การทำงานกับไฟของเธอน่าทึ่งมาก เราพยายามคิดถึงงานในหลากหลายมุมมอง และเรามองการทำหนังเรื่องนี้ผ่านหลายจุดยืน และการสนทนาของเรานำพาให้เกิดงานที่แสนวิเศษนี้ขึ้นมา เราทั้งคู่รู้จักกันมาพักใหญ่แล้ว เรามักจะแชร์ภารในหัวและไอเดียกันอยู่เสมอตอนจะถ่ายทำ และเราต่างมีความรู้สึกถึงรสนิยมของกันและกันในมุมมองของแต่ละฝ่าย มันกลายเป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างมากเลยครับในการทำงานด้วยเวลาที่แสนสั้น

 

ดูเผินๆ ถือเป็นหนังที่ทะเยอทะยานอย่างมากสำหรับการเป็นหนังเรื่องแรกของคุณ คุณพบเจออุปสรรคอย่างไรบ้าง

          ผมเจอเรื่องท้าทายมาเยอะเลยครับ แต่ผมก็โชคดีได้เจอเรื่องดีๆ บ่อยเหมือนกัน เราโชคดีในทุกขั้นตอนที่ได้คนเก่งๆ มาทำงานในหนังเรื่องนี้และมีคนคอยสนับสนุนอีกมาก ผมไม่เคยคิดว่าหนังจะสำเร็จขึ้นมาได้เลย บทหนังดราฟท์แรกเขียนขึ้นในปี 2009 แต่ตอนนี้ก็ 9-10 ปีเข้าไปแล้ว มันถือเป็นการเดินทางที่ยาวนานจริงๆ การที่หนังสามารถออกมาอย่างที่ผมอยากให้มันเป็นได้ ต้องขอบคุณเฟร็ด เบอร์เกอร์ อย่างมากครับ เขารับเครดิตเป็นผู้อำนวยการสร้างคนเดียวของหนังและมีเหตุผลสำคัญที่เป็นเช่นนั้น ทุกคนคิดว่าหนังเรื่องนี้ไม่มีทางเป็นรูปเป็นร่างได้ แต่เขาพยายามผลักดันมันเสมอ เขาคอยอยู่เคียงข้างผมในทุกขั้นตอนเป็นทั้งผู้สนับสนุนและคอยท้วงติงเพื่อเตือนสติผมอยู่เสมอ ผมเป็นหนี้บุญคุณเขาเยอะเลยครับ

 

 

ประวัตินักแสดง

 

แอลล์ แฟนนิ่ง (ไวโอเล็ต)

          เมื่อปี 2013 แอลล์ แฟนนิ่ง เคยได้เข้าชิงรางวัล Critics’ Choice Award จากการแสดงในหนังเรื่อง Ginger & Rosa ของแซลลี่ พอตเตอร์ เธอเคยรับบทเป็นเจ้าหญิงนิทราใน Maleficent ประกบคู่กับ แองเจลิน่า โจลี่ ซึ่งทำรายได้เกิน 750 ล้านดอลลาร์ทั่วโลก ผลงานเรื่องเด่นๆ ของเธอยังประกอบด้วย Super 8 ของผู้กำกับ เจเจ อับรามส์, Somewhere ของ โซเฟีย คอปโปล่า, Neon Demon ของ นิโคลัส วินดิ้ง เรเฟิ่น ซึ่งได้เข้าฉายในเทศกาลหนังเมืองคานส์เมื่อปี 2016 นอกจากนั้นยังมี Live By Night ของ เบน อัฟเฟล็ค, 20th Century Women ของ ไมค์ มิลส์, The Beguiled ที่เธอกลับมาร่วมงานกับ โซเฟีย คอปโปล่า อีกครั้ง และผลงานชิ้นล่าสุดของเธอคือ Galveston ผลงานการกำกับของ เมลานี่ โลร็องต์ และ Teen Spirit เรื่องนี้ของผู้กำกับ แม็กซ์ มิงเกห์ลล่า

 

ซลัตโก้ บิวริค (วแลด)

          นักแสดงรุ่นใหญ่จากโครเอเชีย เขาเกิดเมื่อปี 1953 จบการศึกษาด้านการแสดงมาจาก Dramski Studio เมื่อปี 1973 ก่อนย้ายไปอยู่ประเทศเดนมาร์กเมื่อปี 1981 เขามักได้เล่นหนังเดนมาร์กเรื่องเด่นๆ ในช่วงยุค 1990s ถึง 2000s โดยผลงานที่สร้างชื่อที่สุดของเขาคือ Pusher ของ นิโคลัส วินดิ้ง เรเฟ่น, Dirty Pretty Things ของ สตีเฟ่น เฟรียส์ และ 2012 ของ โรแลนด์ เอ็มเมอร์ริช

 

แอกเนียสก้า โกรว์ชอว์สกา (มาร์ลา)

          หนึ่งในนักแสดงชาวโปแลนด์ที่น่าจับตาที่สุดในเวลานี้ บทบาทเด่นที่สุดของเธอคือการรับบทนำในหนังเรื่อง In Darkness ซึ่งได้รางวัลออสการ์ เคยรับบทนำในหนังการเมืองเข้มข้น Walese: Man of Hope และ Child 44

 

รีเบคก้า ฮอลล์ (จูลส์)

          นักแสดงสาวชาวอังกฤษมากความสามารถ มีผลงานทั้งหนังอาร์ตเฮ้าส์เล็กๆ และหนังบล็อกบัสเตอร์ชื่อดังมากมาย ผลงานก่อนหน้านี้ของเธอประกอบด้วย The BFG, Iron Man 3, The Gift, The Awakening, Vicky Christina Barcelona, The Town, Frost/Nixon และอื่นๆ อีกมากมาย โดยผลงานล่าสุดของเธอคือ Holmes and Watson หนังตลกของ อีธาน โคเอน นำแสดงโดย วิลล์ เฟอร์เรล และ จอห์น ซี ไรลี่ย์ และนอกจากจะแสดงหนังแล้ว เธอยังรับแสดงละครเวทีด้วย เธอรับบทนำในละครเรื่อง Animal ที่หนังสือพิมพ์ New York Times กล่าวชื่นชมว่าห้ามพลาดเด็ดขาด และกำลังจะได้เล่นละครระดับบรอดเวย์เรื่อง Machinal เป็นครั้งแรก

 

คลาร่า รักการ์ด (โรซี่)

          นักแสดงสาวหน้าใหม่จากประเทศเดนมาร์ก เธอใช้เวลาในช่วงยังเด็กเล่นและเก็บประสบการณ์จากละครเวทีในโคเปนเฮเกนเกิดมาตั้งแต่อายุ 12 ปี ก่อนหน้านั้นเธอได้เล่นหนังเล่นละครผ่านทาง Disney Channel จากนั้นเธอได้เล่นหนังเรื่อง The Lodge เมื่อปี 2016 และในปีเดียวกันยังได้เล่นซีรี่ส์โทรทัศน์ทางช่อง ABC เรื่อง Still Stars Crossed ของ ชอนด้า ไรมส์ สำหรับผลงานเด่นๆ ของเธอในระยะหลังนี้ เธอได้ให้เสียงพากย์ภาษาเดนมาร์กเป็น โมอาน่า ในอนิเมชั่นเรื่อง Moana เวอร์ชั่นที่ไปฉายที่เดนมาร์ก, ได้รับบทเด่นใน Teen Spirit ของ แม็กซ์ มิงเกห์ลล่า และเตรียมจะได้ประกบคู่ ฮิลลารี่ สแวงค์ ใน I Am Mother หนังไซ-ไฟจากประเทศออสเตรเลีย

 

อาร์ชี่ แมเดอเกว (ลุค)

          ชายผู้รับบทเป็นคนรักของตัวละครที่ แอลล์ แฟนนิ่ง สวมบทบาทใน Teen Spirit เขาถือเป็นนักแสดงหนุ่มมาแรง ก่อนหน้านี้เคยรับบทสำคัญในซีรี่ส์เรื่อง Hang Ups ซึ่งรีเมคมาจากซีรี่ส์อังกฤษเรื่อง Web Therapy ของ ลิซ่า คัดโรว์ และได้รับการยกย่องว่าเป็นนักแสดงแห่งอนาคต (Screen International Stars of Tomorrow) เมื่อปี 2017 ไม่นานนี้เขาเพิ่งถ่ายหนังเรื่อง Informer ร่วมกับ แพดดี้ คอนสิไดน์ และเบล พาวลี่ย์ เสร็จสิ้นไป และท้ายที่สุด เขาจะได้รับบทนำในมินิซีรี่ส์เรื่อง Les MIserables ซึ่งจะออกอากาศทางช่อง BBC

 

รัวรี่ โอ’คอนเนอร์ (เคยัน)

          รัวรี่ โอ’คอนเนอร์ ได้เรียนด้านการแสดงจากสถาบัน Lir National Academy of Dramatic Art และได้แสดงในหนังครั้งแรกเรื่อง What Richard Did เมื่อปี 2012 ผลงานเด่นเรื่องอื่นๆ ของเขายังมีซีรี่ส์ Netflix เรื่อง Can’t Cope, Won’t Cope, My Mother and Other Strangers, หนังเกย์เรื่อง Handsome Devil ของผู้กำกับ แอนดรูว์ สก็อตต์ และล่าสุดคือ Teen Spirit ของ แม็กซ์ มิงเกห์ลล่า

 

จอร์แดน สตีเฟ่นส์ (รอลโล่)

          ศิลปินฮิปฮอปชื่อดัง งานการแสดงเรื่องเด่นเรื่องแรกของ จอร์แดน สตีเฟ่นส์ คือมินิซี่ส์เรื่อง Glue เมื่อปี 2014 ซึ่งออกอากาศทาง E4 ผลงานของเขาที่ผ่านมามีทั้งหนังฟอร์มใหญ่ หนังเล็กๆ และซีรี่ส์โทรทัศน์ ไม่ว่าจะเป็น Rogue One: A Star Wars Story, Access All Area, Tucked และ Been So Long เป็นต้น

 

เออร์ซูล่า ฮอลลิเดย์ (ลูอิส)

          เออร์ซูล่า ฮอลลิเดย์ เข้าวงการการแสดงมาจากการเล่นหนังสั้นเรื่อง We Love Moses ผลงานการเขียนบทและกำกับโดย ดิออนน์ เอ็ดเวิร์ด เมื่อปี 2016 เธอยังตามผู้กำกับที่แจ้งเกิดเธอไปเล่นซีรี่ส์ทางโทรทัศน์ของเขาเรื่อง That Girl ซึ่งเป็นหนึ่งในตอนย่อยของซีรี่ส์เรื่อง On the Edge ออกอากาศทางช่อง Channel 4 ปัจจุบัน เธอกำลังถ่ายทำซีรี่ส์เรื่อง The Feed ซีรี่ส์ไซ-ไฟผสมจิตวิทยาของผู้สร้างซีรี่ส์ The Walking Dead

 

มิลลี่ เบรดี้ (อนาสตาเซีย)

          นักแสดงสาวดาวรุ่งน่าจับตา มิลลี่ เบรดี้ เธอเข้าวงการบันเทิงผ่านการแสดงซีรี่ส์ทางโทรทัศน์ Mr.Selfridge ออกอากาศทางช่อง ITV เมื่อปี 2014 สำหรับหนังจอใหญ่ เธอได้รับบทสมทบใน Pride and Prejudice and Zombies เมื่อปี 2016 และได้ประกบกับ ชาร์ลี ฮันแนม ใน King Arthur: Legend of the Sword เมื่อปี 2017

 

โอลีฟ เกรย์ (ลิซ่า)

          โอลีฟ เกรย์ เพิ่งรับบทนำในซีรี่ส์เรื่อง Home From Home จากตอนไพล็อตที่สร้างขึ้นเพื่อออกฉายทางช่อง BBC Two เมื่อปี 2016 แล้วปัจจุบันได้รับเลือกให้มาฉายทางช่อง BBC One แทน ผลงานเด่นๆ ของ เกรย์ มักจะเป็นซีรี่ส์ทางโทรทัศน์เสียมากกว่า ไม่ว่าจะเป็น Eastenders (2007-08) The Story of Tracey Beaker (2006) Half Moon Investigations (2009) และ Uncle (2017) เป็นต้น

          สำหรับ Teen Spirit นั้น ถือเป็นการแสดงหนังเรื่องแรกของเธอ โดยจะรับบทเป็นเพื่อนสนิทของตัวละครที่ แอลล์ แฟนนิ่ง สวมบทบาท

 

 

 

ประวัติทีมงาน

แม็กซ์ มิงเกห์ลล่า (ผู้กำกับ / เขียนบท)

          จากนักแสดงสู่คนทำหนังเบื้องหลัง แม็กซ์ มิงเกห์ลล่า เคยแสดงหนังคุณภาพเยี่ยมเรื่อง The Ides of March ซึ่งกำกับและนำแสดงโดย จอร์จ คลูนี่ย์, Agora ของอเลฮานโดร อาเมนาบาร์ และ The Social Network ของผู้กำกับ เดวิด ฟินเชอร์ ปัจจุบัน

          สำหรับงานเบื้องหลัง เขาเคยชิมลางงานด้วยการเขียนบทและอำนวยการสร้างหนังเรื่อง The 9th Life of Louis Drax ของผู้กำกับ อเล็กซานเดอร์ อาจา ก่อนที่จะหันมาเป็นผู้กำกับเต็มตัวใน Teen Spirit ซึ่งถือเป็นงานกำกับเรื่องแรกของเขาด้วย

 

เฟร็ด เบอร์เกอร์ (อำนวยการสร้าง)

          ผู้อำนวยการสร้างผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์และเคยได้รางวัลลูกโลกทองคำมาครองจากหนังเรื่อง La La Land ของผู้กำกับเดเมี่ยน ชาเซลล์ โดยนอกจากหนังจะกวาดรางวัลใหญ่มาจากหลากหลายสถาบัน หนังยังทำเงินทั่วโลกไม่ต่ำกว่า 450 ล้านดอลลาร์

          สำหรับผลงานเรื่องอื่นๆ ที่เบอร์เกอร์เคยอำนวยการสร้างนั้นประกอบด้วย Lost in Translation และ Marie Antoinette ของโซเฟีย คอปโปล่า, Operation Finale ของผู้กำกับคริส ไวซ์, Destroyer ซึ่งนำแสดงโดย นิโคล คิดแมน, I Think We’re Alone Now ของ โมเรโน่, Against All Enemies ของผู้กำกับ เบเนดิกต์ แอนดรูว์, The Autopsy of Jane Doe ของผู้กำกับอังเดร ออฟเรดัล และอื่นๆ อีกมากมาย

 

ออทั่ม ดูรัลด์ อาร์คาพอว์ (กำกับภาพ)

          ออทั่ม ดูรัลด์ อาร์คาพอว์ เคยได้รับจากนิตยสาร Variety ให้เป็น 1 ใน 10 ผู้กำกับภาพที่น่าจับตามองประจำปี 2014 และถูกคาดหมายว่าเป็นคนทำงานเบื้องหลังดาวรุ่น (On the Rise) ในปี 2014 จากเว็บไซต์ Indie Wire เช่นกันจากการกำกับหนังสั้นให้กับ เจมส์ แฟรงโก้ นอกจากนั้น ปีเตอร์ เดอบรูจ นักวิจารณ์แถวหน้าจาก Variety ยังเคยกล่าวชมว่าเธอคือผู้กำกับภาพหญิงที่มีพรสวรรค์อย่างสูง

          สำหรับผลงานของอาร์คาพอว์นั้น เมื่อปี 2015 เธอเคยกำกับภาพให้กับหนังเรื่อง One & Two ผลงานการกำกับของ แอนดรูว์ ดรอซ พาเลอร์โม่ ซึ่งนำแสดงโดย ทิโมธี่ ชาลาเมต์ และเคียร์แนน ชิปก้า เธอยังเป็นตากล้องให้กับหนังเรื่อง Untogether ซึ่งเป็นหนังเรื่องแรกที่นักเขียนนิยาย เอ็มม่า ฟอร์เรสต์ กำกับด้วย ทั้งนี้ หลังจากเสร็จสิ้นการกำกับภาพใน Teen Spirit ให้กับ แม็กซ์ มิงเกห์ลล่า เธอจะไปถ่ายหนัง The Star is Also a Star ให้กับผู้กำกับ ไร รุสโซ่ ยัง เป็นเรื่องต่อไป

 

เคฟ ควินน์ (ออกแบบงานสร้าง)

          นักออกแบบงานสร้างชาวอังกฤษเข้าสู่วงการหนังตั้งแต่ช่วงต้นยุค 1990s เขาเคยออกแบบงานสร้างให้กับ Shallow Grave หนังเรื่องของ แดนนี่ บอยล์ ซึ่งหนังได้รางวัลหนังอังกฤษยอดเยี่ยมจาก BAFTA ด้วย นับแต่นั้น เขากลายเป็นมือดีประจำหนังของบอยล์ ได้ร่วมทำหนังเรื่อง Trainspotting และ A Life Less Ordinary ด้วย

          เคฟ ควินน์ ยังไปออกแบบงานสร้างในหนังของผู้กำกับคนอื่นด้วย เรื่องเด่นๆ ได้แก่ Layer Cake ของผู้กำกับ แมทธิว วอห์น, Is Anybody There? ของ จอห์น ครอว์ลี่ย์, The Woman in Black ของ เจมส์ วัตกิ้นส์, Diana ของโอลิเวอร์ เฮิร์ชบีเกิ้ล, The Brother Grimsby ของ หลุยส์ เลทเทอร์เรียร์ และ Teen Spirit ของ แม็กซ์ มิงเกห์ลล่า เรื่องนี้

 

เมียร์เรน กอร์ดอน-โครเซียร์ (ออกแบบเครื่องแต่งกาย)

          เมียร์เรน กอร์ดอน-โครเซียร์ เป็นชาวอังกฤษ จบการศึกษาด้านแฟชั่นและการถ่ายภาพจาก Parsons School of Design ที่เมืองนิวยอร์ค ในเวลาต่อมาได้ย้ายไปอยู่นครลอสแองเจลิส แล้วทำงานในฐานะนักออกแบบเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายให้กับหนังและซีรี่ส์โทรทัศน์หลายเรื่อง สำหรับผลงานginjv’gfjoq ของ กอร์ดอน-โครเซียร์ นั้นประกอบด้วย I Think We’re Alone Now ซึ่งนำแสดงโดย ปีเตอร์ ดิงค์ลาจ และ แอลล์ แฟนนิ่ง, Meadowland ซึ่งนำแสดงโดย โอลิเวียร์ ไวลด์, The Glass Castle ที่นำแสดงโดย บรี ลาร์สัน และ Unicorn Store ผลงานการกำกับเรื่องแรกของ ลาร์สัน ที่เธอรับบทนำเองด้วย

 

มาริอุส เดอ วรีส์ (อำนวยการสร้างด้านดนตรี / ดนตรีประกอบ)

          หนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลในวงการเพลงในช่วง 3 ทศวรรษหลังนี้ มาริอุส เดอ วรีส์ เขาเป็นเจ้าของรางวัลดนตรีประกอบยอดเยี่ยม BAFTA 2 สมัย, ได้รางวัล Ivor Novello และได้รางวัลแกรมมี่มาครอง 1 ตัวจากการเข้าชิงทั้งหมด 5 ครั้ง เขารับหน้าที่ผู้กำกับดนตรีให้กับ La La Land ของผู้กำกับ เดเมี่ยน ชาเซลล์ แล้วได้รางวัลไปครองทั้ง 2 สาขาด้านดนตรี และอื่นๆ อีกมากมาย

          เดอ วรีส์ เริ่มต้นอาชีพสายเสียงเพลงจากการเป็นมือคีย์บอร์ดให้กับวง The Blow Monkeys ในช่วงยุค 1980s นอกจากเล่นดนตรีให้กับวงตัวเองแล้ว เขายังมีโอกาสได้ไปเขียนคำร้อง และโปรดิวซ์เพลงให้กับศิลปินชื่อดังก้องโลกหลายคนไม่ว่าจะเป็น เดวิด โบวี่, มาดอนน่า, บียอร์ค, วง U2 และอื่นๆ อีกมากมาย เขายังเข้าสู่โลกของการทำดนตรีประกอบหนังและละครเวที เคยประพันธ์ดนตรีให้กับผู้กำกับหนัง ผู้กำกับละครเวทีอีกหลายงาน ไม่ว่าจะเป็นงานของ บาซ เลอห์แมน, จอร์จ ลูคัส, แอนดรูว์ ลอยด์ เว็บเบอร์, แซค สไนเดอร์, แดเนียล เครเมอร์, เออาร์ ราห์มาน และอื่นๆ อีกหลายคน โดยหนังและละครเวทีเรื่องเด่นๆ ที่เขาได้ทำดนตรีประกอบให้นั้นประกอบด้วย Moulin Rouge, Kick-Ass, Sucker Punch, Phantom of the Opera และ Strange Magic เป็นต้น

 

สตีเว่น กิซิกิ (ควบคุมดูแลงานดนตรี)

          ผู้คร่ำหวอดในวงการเพลง เจ้าของรางวัลแกรมมี่ ผลงานของ สตีเว่น กิซิกิ ที่หลายคนน่าจะรู้จักกันมากที่สุดก็คือ La La Land ของผู้กำกับ เดเมี่ยน ชาเซลล์ ซึ่งได้รางวัลทั้งออสการ์และลูกโลกทองคำ ทั้งในสาขาดนตรีประกอบยอดเยี่ยมและเพลงประกอบยอดเยี่ยม ผลงานเรื่องอื่นๆ ของเขาคือ Smallfoot อนิเมชั่นของค่าย Warner ซึ่งให้เสียงพากย์โดย แชนนิ่ง เททั่ม, เซนดาย่า และคอมม่อน และเป็นหนึ่งในผู้ดูแลงานด้านดนตรีในหนังเรื่อง Crazy Rich Asians

          กิซิกิ ยังเป็นผู้บริหารดูแลงานด้านดนตรีให้กับทาง Lucasfilm มาเป็นเวลากว่า 5 ปีแล้ว และยังดูแลดนตรีให้กับ Disney Animation ด้วย เขายังอยู่ในวงการแผ่นเสียง เป็นผู้บริหารของ PolyGram Records และ Virgin Records ซึ่งที่นั่นเขาทำงานร่วมกับแถวหน้าของวงการดนตรีอย่าง เดวิด โบวี่, เลนนี่ คราวิทซ์ และวง Sex Pistols ปัจจุบันเขาอาศัยอยู่ในลอสแองเจลิส

Comments

Share Tweet Line