งานเสวนาโครงกระดูกวรรณกรรมไทย ยุคสมัยแห่งความ(สิ้น)หวัง

งานเสวนาโครงกระดูกวรรณกรรมไทย ยุคสมัยแห่งความ(สิ้น)หวัง

บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด(มหาชน) จัดงานเสวนา “โครงกระดูกวรรณกรรมไทย ยุคสมัยแห่งความ(สิ้น)หวัง” โดยสองนักเขียนชื่อดังแห่งยุค เจน จิกับผลงานเล่มใหม่ล่าสุด “โครงกระดูกแม่มด สุขฆาตกรรมแห่งความรัก” นิยายรักร่วมสมัย และ จิดานันท์ เหลืองเพียรสมุท นักเขียนรางวัลซีไรต์ ประจำปี 2560 จากผลงานเรื่อง สิงโตนอกคอก กับผลงานเล่มใหม่ในชื่อ “ยุคสมัยแห่งความสิ้นหวัง” ร่วมวิพากษ์ทิศทางวงการวรรณกรรมไทยสมัยใหม่ ณ เวทีเอเทรียม ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  ภายในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 47 และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 17   


เจน จิ กล่าวถึงแรงบันดาลใจในงานเขียนว่า “โครงกระดูกแม่มด สุขฆาตกรรมแห่งความรัก ทุกตอนจะเป็นเรื่องราวหนังสือซ้อนหนังสือ แรงบันดาลใจมาจากการที่เราถามตัวเองว่ายุคสมัยที่มีช่องทางสื่อสารมากมาย เรายังอ่านหนังสือวรรณกรรมไทยไปทำไม นั่นเพราะวรรณกรรมทำให้เราเจอชีวิต เจอคำตอบ และความรู้สึกบางอย่าง ที่ในชีวิตประจำวันเราไม่สามารถบรรยายมันออกมาได้ หนังสือเล่มที่ใช่จะถ่ายทอดความรู้สึกของมันและบอกแทนความรู้สึกของคนอ่านได้ชัดเจนกว่าที่เรารู้สึกเสียอีก หนังสือโครงกระดูกแม่มดฯ จึงบอกเล่าเรื่องราวผ่านฉากหลังที่เป็นร้านหนังสือเก่า ใครที่เข้าไปในร้านนี้จะได้รับหนังสือที่มีเล่มเดียวในโลก ซึ่งจะช่วยแก้ปมชีวิตของเขาได้บางอย่าง เป็นแนวลึกลับที่แบ่งการดำเนินเรื่องเป็นคดี แม้ชื่อเรื่องจะทำให้คนเข้าใจว่าเป็นแนวแฟนตาซี แต่แม่มดในที่นี้เป็นไปได้ทั้งความหมายทางตรงและเชิงสัญลักษณ์เปรียบเปรย เพราะผู้หญิงทุกคนในเรื่องนี้และชีวิตจริงสามารถเป็นได้ทั้งแม่มด นางเอก และนางร้ายในคนเดียวกันนั่นเอง”

จิดานันท์ เหลืองเพียรสมุท  กล่าวถึงผลงานเล่มล่าสุดนี้ว่า “ยุคสมัยแห่งความสิ้นหวัง ผู้อ่านอาจจะมองว่ามีความเป็นดิสโทเปียคล้ายสิงโตนอกคอก จริง ๆ มันตีความได้หลายแบบ เขาอาจมองว่าวัฒนธรรมหรือระบบอาชีพในเรื่องนี้มันทำให้สังคมสิ้นหวัง เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นงานดิสโทเปียได้ แต่ในมุมผู้เขียนมองว่ามันเป็นแนวแฟนตาซีไซไฟ (Fantasy Sci-fi) และสตรีมพังค์ (Steampunk) คืองานที่ดำเนินเรื่องในอดีต อย่างเรื่องนี้อยู่ในยุควิกตอเรีย แต่มีวิทยาการที่โลกเราไม่มี และดำเนินเรื่องผ่านตัวละครเอกคือ โจเอล ยังก์ ซึ่งเป็นนักนอน (Sleeper) ในยุคสมัยที่มีเทคโนโลยีโอนถ่ายการนอนให้กัน โดยใช้ถ่านที่เรียกว่า สลีปน็อก ถ่ายทอดพลังงานการนอนมาจากคนชนชั้นล่าง ในโลกที่คนรวยต้องการซื้อสิ่งนี้และคนจนต้องการขายมัน เท่านั้นยังไม่พอ นางเอกของเรายังเป็นหุ่นยนต์ที่เหมือนคน แต่สถานะคือเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งเป็นชนชั้นที่ล่างลงไปอีกยิ่งกว่านักนอนเสียด้วยซ้ำ เป็นการสะท้อนภาพความแตกต่างระหว่างโครงสร้างชนชั้นในสังคม”

ทัศนะต่อวงการวรรณกรรมไทยที่ถ่ายทอดผ่านผลงานเขียนโดยนักเขียนสมัยใหม่ทั้งสองท่าน  ยังสะท้อนให้เห็นถึง ประเด็นในสังคมที่วงการสิ่งพิมพ์ถูกมองว่ากำลังอยู่ในยุคสมัยแห่งความสิ้นหวังจริงหรือไม่ไว้ได้อย่างแยบยล 

ในมุมมองของ เจน จิ กล่าวว่า “โครงกระดูกเปรียบเสมือนวรรณกรรม แค่เราอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง เปิดใจให้มากพอ ในเวลาที่มีปัญหาในชีวิตจริง วรรณกรรรมมันจะเสนอทางออกให้กับเราได้ กล่าวคือเวลาเราอ่านหนังสือเห็นตัวละครเลือกแบบนี้ ถ้าเป็นเราจะเลือกแบบไหน เป็นแรงบันดาลใจให้ในชีวิตจริงเรามีอำนาจมากพอที่จะเป็นแบบในตัวละครหรือไม่เป็นแบบนั้น เพราะมันมีตอนจบในนิยายหลายแบบ การอ่านนี่เองที่จะทำให้เราคอนโทรลชีวิตตัวเองได้ดีขึ้นค่ะ”

ด้าน จิดานันท์ กล่าวปิดท้าย “โลกของเราถูกครอบงำด้วยภาษา ฉะนั้นในอาชีพนักเขียนถ้าคุณเก่งพอ คุณจะมีชีวิตรอดได้โดยไม่ถูกฆ่า เพราะยุคสมัยแห่งความสิ้นหวังมันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แน่นอนว่ามีบางอย่างตายไป แต่มันก็ทำให้เหลือพื้นที่สำหรับสิ่งใหม่ ๆ ในหนังสือยุคสมัยแห่งความสิ้นหวังก็เช่นกัน มันเหมือนจะไม่มีทางออกแต่สุดท้ายมันมีทางออกเสมอ เช่นเดียวกับวงการวรรณกรรมและสถานการณ์ประเทศของเรา เราจะโอดครวญหรือก่นด่ามันก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้ เพราะจริง ๆ แล้ว ความหวังเกิดใหม่ได้เสมอ ขึ้นอยู่ว่าเราจะมองมันอย่างไร ส่วนคุณค่าของวรรณกรรมมันยังเป็นการจำลองชีวิตให้คุณได้รู้ว่าไม่ได้รู้สึกเช่นนี้คนเดียว ยุคสมัยแห่งความสิ้นหวัง ยังเป็นภพสะท้อนคนชนชั้นกลางระดับสูงในประเทศไทย คุณอาจจะไม่เห็นใจคนชั้นล่าง หรือคุณเห็นใจแต่คุณอาจมีกรอบบางอย่างในสังคมมากมายที่ทำให้คุณแสดงออกไม่ได้ แต่พอมาเป็นหนังสือแล้ว คุณจะเห็นใจตัวละครได้นั่นเพราะคุณไม่มีกรอบ เพราะฉะนั้นเราต้องการเป็นอีกเสียงที่อยากละลายกรอบเหล่านี้ในสังคมชีวิตจริงค่ะ”

โครงกระดูกแม่มด สุขฆาตกรรมแห่งความรัก

เรื่องย่อ : นวนิยายรักร่วมสมัยเล่มล่าสุดของ เจน จิ นำเสนอเรื่องราวความรักด้วยเรื่องเล่าเหนือจริง ผ่านน้ำเสียงการเล่าที่ละเมียดละไม ลึกซึ้ง สวยงาม หากบางตอนก็ตลกเสียดสี เยาะหยัน แต่ท้ายสุดแล้วก็นำไปสู่โศกนาฏกรรมความรักตัวตัวละครผู้หญิงที่เหมือนจะตกอยู่ในน้ำมือของตัวละครผู้ชาย ผู้โฉดชั่วด้วยความเจ้าชู้  สร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้ฝ่ายหญิง ซึ่งรอวันที่จะได้ชำระแค้น     

 

ยุคสมัยแห่งความสิ้นหวัง

เรื่องย่อ : นวนิยาย 13 ตอน แนวแฟนตาซีดิสโทเปียนของจิดานันท์ เหลืองเพียรสมุทร นักเขียนรางวัลซีไรต์จากเรื่อง "สิงโตนอกคอก"

"ยุคสมัยแห่งความสิ้นหวัง" เป็นวรรณกรรมที่มีกลิ่นอายบรรยากาศของยุควิคตอเรียนกับโลกอนาคต นำเสนอถึงความแตกต่างของชนชั้นและความพยายามที่จะมีชีวิตรอดของชนชั้นล่าง ภายในเมืองสมมติที่ประกอบไปด้วยพวกขุนนางชั้นสูง หุ่นยนต์มนุษย์ และชนชั้นล่าง ผู้คนยากจน ขาดแคลนอาหาร  บ้างเจ็บป่วยล้มตายลงด้วยโรคประหลาด โดยตัวละครหลักในเรื่อง อย่าง โอลิเวอร์ เลียม ผู้เป็นขุนนาง เป็นพวกชนชั้นสูง พยายามลงมาใช้ชีวิตกับพวกคนชั้นล่าง  เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับโจเอล ยังค์ หนุ่มนักนอน (Sleeper) เมแกน หุ่นยนต์เด็กสาวคนใช้ที่อยากเป็นมนุษย์  และมิสเตอร์สแกนแลน ผู้เฒ่าเคราแดง โดยตัวละครทั้งหมดนี้เชื่อมโยงเข้าหากันด้วยความรัก มิตรภาพ และความเอื้ออาทร แม้เรื่องราวจะดูหดหู่ในตอนแรก แต่ทุกอย่างก็คลี่คลายลงอย่างงดงามในตอนท้าย ไม่สิ้นหวังดังชื่อเรื่อง   

Comments

Share Tweet Line