“กิฟ-บูม”แท็กทีม”มิ้งค์-โน่-ตาต้าร์”บุก จ.อุดรธานี เรียนรู้แพทย์แผนไทย

 “กิฟ-บูม”แท็กทีม”มิ้งค์-โน่-ตาต้าร์”บุก จ.อุดรธานี เรียนรู้แพทย์แผนไทย

  มูลนิธิ LOVE TO CARE ร่วมกับ สมาคมแพทย์ไทยบูรณาการและการบริบาลแห่งประเทศไทย จัดงานแถลงข่าว อุดรโมเดล เมืองสุขภาพ ไร้เข่าเสื่อม ไร้โรคร้าย ไร้ความพิการ พร้อมเปิดคลินิกการแพทย์ไทยบูรณาการ ในโครงการ 1 ตำบล 1 การแพทย์ไทย ได้รับเกียรติจาก พลเอก รุ่งโรจน์ จำรัสโรมรัน ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธี  มี นายวันชัย จันทร์พร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ,นายอิสระ เจียวิริยบุญมา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมะเร็ง ให้การต้อนรับ

พร้อมกันนี้ยังมี ดร.ภูมิรวิชญ์ ชัยภูริหิรัณยกุล นายกสมาคมแพทย์ไทยบูรณาการและการบริบาลแห่งประเทศไทย และประธานโครงการ 1 ตำบล 1 การแพทย์ไทย ,นายภัทร ศรีกายกุล ประธานมูลนิธิ LOVE TO CARE ,ดร.อนิวัธติ์ ศิริเดชวราวงศ์ ประธานที่ปรึกษา มูลนิธิ LOVE TO CARE  ,  บูม-กิตต์ก้อง ขำกฤษ ,กีฟ-ดราภดา โสตถิพิทักษ์  2 นักแสดงจากช่อง 7 ,  ตาต้าร์-ชาติชาย ชินศรี (พระเอกไทยบ้านเดอะซีรีส์)  ,โน่-ภูวเนตร สีชมพู และ ครูมิ้งค์-เพ็ญจันทร์ วงศ์สมเพชร ผู้กำกับภาพยนตร์ เรื่อง เล่าฤาสื่อIV หรือ THE MESSAGE เข้าร่วมงาน ณ โรงพยาบาลมะเร็งอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี


ซึ่งในงานดังกล่าวยังมีการเสวนาเรื่อง การแพทย์ไทยก้าวไกลสู่ระดับโลก ตามแผนยุทธศาสตร์ของประเทศ โดยมีหัวข้อที่น่าสนใจ อาทิ การใช้กัญชาทางการแพทย์  มีนักวิชาการและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ มาให้ความรู้แก่ประชาชน นอกจากนี้ทางโครงการ 1 ตำบล 1 การแพทย์ไทย ยังได้เปิดลงทะเบียนสำหรับผู้ป่วยยากไร้จำนวน1,000 คน ที่มีปัญหาสุขภาพ ปวดเข่า ข้อเข่าเสื่อม สามารถเข้ารักษาฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

บูม กิตต์ก้อง ได้เผยถึงการมาร่วมโครงการในวันนี้ว่า “บูมเป็นคนที่ชอบสนุนไพรอยู่แล้ว ชอบที่การใช้สนุนไพรมันจะไม่มีสารตกค้างในร่างกาย ถึงแม้เราไม่ได้เจ็บป่วยอะไรก็ใช้ได้ ยิ่งมาในงานวันนี้ มีหลายบูธ หลายกระบวนการรักษาที่เกี่ยวกับสนุนไพรก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจมาก  วันนี้ที่ชอบที่สุดคือเป็นบูธที่มีการนวดเพื่อการรักษา ได้เจอกันคุณหมอที่เก่งๆ หลายท่าน คือตัวบูมมีปัญหาเกี่ยวกับแขนข้างซ้าย รู้สึกชาที่ปลายนิ้วก้อย แขนก็เหมือนไม่ค่อยมีแรง คุณหมอก็ได้ให้คำปรึกษา ได้แนะนำ แล้วก็ได้มีการนวดเบื้องต้นแล้ว   ตอนนี้รู้สึกโล่งมาก ไม่ว่าจะเป็นการยกแขนหรืออะไร ตอนแรกยอมรับว่าเจ็บมาก แต่หลังจากที่เราได้นวดไปจากคุณหมอที่มีประสบการณ์ คือเป็นการนวดเพื่อรักษาจริงๆ ตอนนี้รูสึกดีขึ้นมาก หลังจากนี้คงรักษาอย่างต่อเนื่องครับ

ส่วน กีฟ ดราภดา  เผยว่า “ถ้าโครงการ 1 ตำบล 1 การแพทย์ไทย สามารถกระจายไปได้ทุกตำบลในประเทศไทยจริงๆ มันก็จะเป็นผลดีต่อประชาชนเพิ่มมากขึ้น เพราะต่อไปไม่ว่าฉันจะอยู่ตำบลไหน จะมีคนช่วยชีวิตฉันในช่วงเวลาที่ฉันต้องการ  และอีกอย่างคือโครงการนี้เป็นเรื่องของการให้นะ หมายถึง เขาไม่ได้ให้แค่เราหายจากโรคอย่างเดียว แต่เขาให้อาชีพอีกคนในการสนับการแพทย์แบบนี้ด้วย ซึ่งกีฟว่ามันเป็นอะไรที่ดีมากๆ  ปัญหาปัจจุบันที่ยังมีคนไม่ค่อยรู้หรือเปิดใจเข้าใจเรื่องแพทย์ทางเลือกหรือแพทย์แผนไทย ส่วนหนึ่งเพราะยังไม่มีใครออกมาให้ข้อมูลพวกเขาว่าเรามีแพทย์ทางนี้ สามารถทำอะไรได้บ้าง รักษาโรคอะไรได้บ้าง อีกอย่างคือวัยรุ่นมักจะคิดว่าการรักษาด้วยสนุนไพร มันจะดูล้าหลัง ดูแก่ กูเชย กีฟอยากให้เปิดใจดู ลองดูตรงนี้ก่อน สนุนไพรมันไม่มีทางที่จะทำร้ายเราแน่นอนค่ะ”

Comments

Share Tweet Line