สปสช. ผนึก ธ.ก.ส. จับมือ สวทช. ผลิตเครื่องตรวจวัดสุขภาพฯ ป้องกันโรคไม่ติดต่อ

สปสช. ผนึก ธ.ก.ส. จับมือ สวทช. ผลิตเครื่องตรวจวัดสุขภาพฯ ป้องกันโรคไม่ติดต่อ

นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และนายกษาปณ์ เงินรวง ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ร่วมแถลงข่าวลงนามความร่วมมือ การพัฒนาและผลิตเครื่องตรวจวัดสุขภาพเบื้องต้นอัตโนมัติ ตามโครงการ “รู้เท่าทันเท่ากับการป้องกันโรคไม่ติดต่อเฉลิมพระเกียรติ” เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมี ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ ปิยะสกล สกลสัตยาทร  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.ประจักษวิช เล็บนาค รองเลขาธิการ สปสช. ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ โถงชั้น 1 ทาวเวอร์ C อาคารกลุ่มนวัตกรรม 2 (INC2) อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ปทุมธานี


ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวเปิดการแถลงฯ ว่า การพัฒนาระบบบริการสุขภาพที่ดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นองค์รวมต้องดำเนินด้วยการอาศัยสนับสนุนความร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชนเพื่อการพัฒนาระบบบริการทางการแพทย์และสาธารณสุข ดังเช่นที่ สปสช. สวทช. และ ธ.ก.ส. ร่วมมือระหว่างหน่วยงานของรัฐนอกเหนือองค์กรสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทของ สวทช. หน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์ถือว่าสำคัญในการสร้างนวัตกรรมทางการแพทย์และสาธารณสุข ลดการนำเข้าเครื่องมือจากต่างประเทศ ช่วยเศรษฐกิจของประเทศให้มั่นคง บทบาทของ ธ.ก.ส. ในการสร้างความมั่นคงทางการเงินที่ใกล้ชิดประชาชนกลุ่มเกษตรกร ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดที่ต้องมีสุขภาพดี และบทบาทของ สปสช. ในการสร้างการเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพมาตรฐานให้กับประชนชนคนไทย

ซึ่งทั้ง 3 หน่วยงานล้วนแต่สร้างคุณูปการในการช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิต ทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์โดยตรง     ทั้งในตรวจการคัดกรอง ประเมินภาวะสุขภาพได้ด้วยตนเอง รู้และตระหนักเรื่องการป้องกันดูแลและสร้างเสริมสุขภาพตนเองให้สุขภาพดีอย่างสม่ำเสมอ ไม่เป็นภาระแก่ครอบครัว ชุมชน หรือหน่วยงานของรัฐ

นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า โครงการดังกล่าวฯ เกิดขึ้นภายหลังจาก สปสช. ได้ร่วมมือกับ ธ.ก.ส. เสนอโครงการ “รู้เท่าทันเท่ากับการป้องกันโรคไม่ติดต่อเฉลิมพระเกียรติ” เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการฝ่ายโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ สำนักนายกรัฐมนตรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนรู้เท่าทันด้านสุขภาพและตระหนักเรื่องการป้องกันดูแลและสร้างเสริมสุขภาพตนเองให้สุขภาพดีและเข้ารับการรักษาอย่างเหมาะสม ตามยุทธศาสตร์การสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (Promotion and Prevention : P&P) ของการสร้างหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อสนับสนุนการลดอัตราการเจ็บป่วยด้วยโรคที่ป้องกันได้ทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตยืนยาวขึ้น

ทั้งนี้ในโครงการดังกล่าวฯ สปสช. และ ธ.ก.ส. ยังผนึกกำลังในการทำงานร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีความสามารถอันเหนือชั้นด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาช่วยในการพัฒนาและผลิตเครื่องตรวจวัดสุขภาพเบื้องต้น และเป็นที่มาของการลงนามความร่วมมือทั้ง 3 หน่วยงานในครั้งนี้ โดยเครื่องวัดดังกล่าวฯ ประกอบไปด้วย การวัดความดันโลหิต ชั่งน้ำหนัก วัดดัชนีมวลกาย ทั้งนี้เมื่อตรวจวัดเสร็จแล้วผลของการวัดที่ได้จะถูกแปลค่าและให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวได้ อีกทั้งข้อมูลจะถูกถ่ายโอนเข้าสู่ Cloud ซึ่งเชื่อมโยงกับ Smart phone ของผู้วัด ซึ่งสามารถนำผลดังกล่าวในการเฝ้าระวังการป่วยเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง Non-communicable diseases หรือ NCDs ได้ หรือหากพบอาการผิดปกติก็สามารถนำข้อมูลไปปรึกษาแพทย์ได้

“จากข้อมูลในปี 2558 มีผู้ป่วยเสียชีวิตจากกลุ่มโรคไม่ติดต่อ NCDs โดยเฉพาะ 4 กลุ่มโรคหลักประกอบด้วย โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง และโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง ถึงร้อยละ 71.3 ของการเสียชีวิตทั้งหมด ซึ่งจำเป็นที่จะต้องมีนโยบายป้องกันโรคระดับปฐมภูมิ (primary prevention)  ทั้ง 2 หน่วยงาน จึงได้ผนึกกำลังร่วมมือกับ สวทช. ให้มาช่วยพัฒนาและผลิตเครื่องตรวจวัดสุขภาพเบื้องต้น จำนวน 100  เครื่อง เพื่อนำไปติดตั้งยัง ธ.ก.ส. และสถานที่เป้าหมายในพื้นที่ทั่วประเทศ 10 จังหวัดๆ ละ 10 แห่ง โดยจะเริ่มส่งมอบเครื่องฯ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2562 อันเป็นเดือนแห่งการเฉลิมพระชนมพรรษาครบรอบ 66 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว”

เลขาธิการ สปสช. กล่าวด้วยว่า ความร่วมมือครั้งนี้ สปสช. พร้อมสนับสนุนการพัฒนาเครื่องตรวจวัดสุขภาพเบื้องต้นอัตโนมัติให้สอดคล้องกับความต้องการใช้ประโยชน์ได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพ โดย สปสช. จะจัดเตรียมข้อมูลเพื่อใช้สำหรับการดูแลและเฝ้าระวังสุขภาพ และให้ข้อมูลการแปลผลพร้อมคำแนะนำในการดูแลสุขภาพของผู้ถูกวัดสุขภาพจากเครื่องตรวจวัดสุขภาพเบื้องต้นอัตโนมัติ และพร้อมเป็นผู้ให้ข้อมูลด้านสถานที่ติดตั้งแก่ ธ.ก.ส. เพื่อให้ประชาชนได้รับการคัดกรอง ประเมินภาวะสุขภาพได้ด้วยตนเอง ในกรณีประชากรกลุ่มเสี่ยงสูง ได้รับการติดตามดูแลสุขภาพไม่เป็นผู้ป่วยโรคเรื้อรังรายใหม่สามารถดูแลสุขภาพกลับไปเป็นกลุ่มปกติได้ และในประชากรกลุ่มป่วยได้รับคำแนะนำให้เข้ารับบริการรักษาตามมาตรฐานต่อไป

ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า สวทช. โดย ศูนย์วิจัยเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกและเครื่องมือแพทย์ มีทีมวิจัยที่พร้อมวิจัย พัฒนาและผลิตเครื่องตรวจวัดสุขภาพเบื้องต้นอัตโนมัติ ซึ่งเครื่องฯ ดังกล่าว จะเชื่อมต่อกับระบบคลาวด์ (Cloud) สามารถกระจายข้อมูลไปยังเครื่องอื่นๆ ได้หลายเครื่องพร้อมกัน ทำให้สามารถประชาสัมพันธ์ข้อมูลต่างๆ ด้านสุขภาพและการป้องกันโรคให้ประชาชนรับทราบได้อย่างทันที  

“จุดเด่นของเครื่อง คือ ข้อมูลที่วัดได้จะถูกส่งไปที่ระบบคลาวด์ (Cloud) ซึ่งจะเก็บข้อมูลของผู้ถูกวัดแต่ละคนไว้ สำหรับการติดตามความคืบหน้าระบบสุขภาพที่เป็นระบบข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เช่น สปสช. อาจจะประกาศนโยบายให้ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี เมื่อประชาชนได้รับข้อมูลแล้ว ทาง สปสช. ก็จะสามารถติดตามได้ว่า หลังจากประกาศนโยบายไปแล้ว 1 ปี มีอัตราการป่วยโรคไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างไรบ้าง โดยข้อมูลเหล่านี้สามารถทำเป็นระบบเพื่อรายงานผลให้ผู้กำหนดนโยบาย นำไปกำหนดนโยบายสุขภาพที่เหมาะสมกับชุมชนแต่ละพื้นที่แต่ละภูมิภาคได้ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

ดร.ณรงค์ กล่าวต่อว่า สำหรับเครื่องดังกล่าว ประกอบไปด้วย การวัดความดันโลหิต ชั่งน้ำหนัก วัดดัชนีมวลกาย โดยเมื่อตรวจวัดเสร็จ ผลของการวัดที่ได้จะถูกแปลค่าและประเมินระดับความเสี่ยงด้านสุขภาพ มีข้อมูลให้คำแนะนำการปฏิบัติตัว รวมทั้งมีคำแนะนำให้พบแพทย์ตามสถานพยาบาลในพื้นที่ใกล้เคียงด้วย อย่างไรก็ตามระบบระบบคลาวด์ (Cloud) จะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือช่วยเสริมการจัดเก็บข้อมูลที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. ได้ทำอยู่แล้วนั้นให้เป็นระบบมากขึ้น ทั้งนี้ในอนาคตทีมวิจัยจะพัฒนาต่อยอด ให้เครื่องฯ มีฟังก์ชันเซ็นเซอร์เพิ่มเติม เช่น เซ็นเซอร์การตรวจวัดสารพิษในร่างกายให้แก่กลุ่มเกษตรกรที่เป็นลูกค้าหลัก ของ ธ.ก.ส. ซึ่งล้วนแต่เป็นข้อมูลสำคัญที่จะสามารถนำมาวิเคราะห์เพื่อการกำหนดนโยบายการป้องกันสุขภาพ           แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้  ซึ่งเครื่องนี้จะเป็นการผลักดันให้เกิดการทำวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถต่อยอด นำไปสู่การใช้งาน และตอบโจทย์เทคโนโลยีที่จะช่วยในการมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

ด้าน นายกษาปณ์ เงินรวง ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ธ.ก.ส. ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนงบประมาณในการพัฒนาและผลิตเครื่องตรวจวัดสุขภาพเบื้องต้นอัตโนมัติ พร้อมทั้งพื้นที่ของ ธ.ก.ส. เป็นสถานที่ติดตั้ง ที่ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงเครื่องวัดได้ด้วยตนเองและนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์สำหรับให้การดูแลและเฝ้าระวังสุขภาพของผู้ถูกวัดได้ด้วยตัวเอง ร่วมกับ สปสช. และ สวทช. เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว  และเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนรู้เท่าทันด้านสุขภาพและตระหนักเรื่องป้องกันดูแลและสร้างเสริมสุขภาพตนเองให้สุขภาพดีเบื้องต้น ให้กับลูกค้า ธ.ก.ส. ประชาชนทั่วไป 

ทั้งนี้ ธ.ก.ส.ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของ ธ.ก.ส. ในการเพิ่มขีดความสามารถเกษตรกรไทย ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกรที่ดี รู้เท่าทันด้านสุขภาพและตระหนักเรื่องป้องกันดูแลและสร้างเสริมสุขภาพตนเองให้สุขภาพดี

Comments

Share Tweet Line