การบินไทยชวนเที่ยวเซนได เช็คอินกับ 8 สถานที่ท่องเที่ยวสุดคูล

การบินไทยชวนเที่ยวเซนได เช็คอินกับ 8 สถานที่ท่องเที่ยวสุดคูล

“การบินไทย” ได้จัดโปรโมชั่น “Sawasdee Sendai” (สวัสดี เซนได) เปิดประสบการณ์เส้นทางบินตรงจาก กรุงเทพฯ – เซนได ด้วยบัตรโดยสาร ไป-กลับ ราคาเริ่มต้นเพียง 13,775 บาท/ท่าน หากเดินทาง 4 ท่านขึ้นไป ราคาเริ่มต้นที่ 13,175 บาท/ท่าน เปิดจองแล้ว วันนี้ – 31 ส.ค. 62 แล้วแพ็กกระเป๋าเดินทางตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. – 20 ธ.ค. 62 เพียงคลิก https://bit.ly/33efrut


ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศญี่ปุ่น (Japan) ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทย เพราะเป็นประเทศที่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ทั้งในเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม บ้านเมืองสะอาด ปลอดภัย อาหารแสนอร่อย ที่สำคัญสามารถไปเที่ยวได้ตลอดปีไม่ว่าจะไปชมดอกไม้ ชมสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ หรือไปร่วมงานเทศกาลท้องถิ่นในเมืองต่างๆ และที่สำคัญชาวญี่ปุ่นมีอัธยาศัยไมตรีเป็นเลิศ 

ทุกวันนี้ การไปเที่ยวประเทศ ญี่ปุ่น ก็แสนจะสะดวกสบาย เพราะ “การบินไทย” ได้ให้บริการบินตรงจากกรุงเทพฯ ด้วยบัตรโดยสารต่อเที่ยวราคาสบายกระเป๋า ลัดฟ้าแลนดิ้งเมืองท่องเที่ยวสำคัญของประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ ซัปโปโร, โตเกียว (นาริตะ), โอซากา (คันไซ), นาโกยา, ฟุกุโอกะ ใช้เวลาเดินทางเพียงประมาณ 6 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งมีสถานที่สุดฮิต ที่นักเดินทางอยากไปปักหมุดมากมาย รวมถึงอีกหนึ่งเมืองที่น่าสนใจอย่าง “เซนได” (Sendai) เมืองหลวงของจังหวัดมิยะงิ ตั้งอยู่ในเกาะฮอนชู ห่างไปทางทิศเหนือของกรุงโตเกียวประมาณ  350 กิโลเมตร

โอกาสนี้ “การบินไทย” ได้จัดโปรโมชั่น “Sawasdee Sendai” (สวัสดี เซนได) เปิดประสบการณ์เส้นทางบินตรงจาก กรุงเทพฯ – เซนได ด้วยบัตรโดยสาร ไป-กลับ ราคาเริ่มต้นเพียง13,775 บาท/ท่าน หากเดินทาง 4 ท่านขึ้นไป ราคาเริ่มต้นที่ 13,175 บาท/ท่าน เปิดจองแล้ว วันนี้ – 31 ส.ค. 62 แล้วแพ็กกระเป๋าเดินทางตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. – 20 ธ.ค. 62 เพียงคลิกhttps://bit.ly/33efrut

“เซนได” (Sendai) เป็นหนึ่งในเจ็ดของเมืองใหญ่ที่สุด บนเกาะที่ใหญ่ที่สุดของ ประเทศญี่ปุ่น เป็นเมืองศูนย์กลางทางด้านการเมือง และเศรษฐกิจของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และรู้จักกันดีในฉายา “เมืองแห่งต้นไม้” ในฤดูร้อนมีการจัดเทศกาลเซนไดทานะบะตะ ส่วนในฤดูหนาวช่วงเดือนธันวาคม ต้นไม้จะได้รับการตกแต่งด้วยดวงไฟนับพันดวง ในงานเทศกาลPageant  of  Starlight เมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นของญี่ปุ่นแล้ว เซ็นไดเป็นเมืองที่มีอากาศอบอุ่น อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 12.1 องศาเซลเซียส ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับสี่ฤดูกาลที่สวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งใบไม้เปลี่ยนสี ในฤดูใบไม้ร่วง และทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยหิมะ ในฤดูหนาว จุดเด่นขอ เมืองเซนได คือ ความสวยงามของธรรมชาติ อย่าง อ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima) ก็ถูกจัดให้เป็น  1 ใน 3 แหล่งท่องเที่ยวที่มีทิวทัศน์สวยงามที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งสามารถล่องเรือชมเกาะต่างๆ และนกนางนวลได้ สำหรั บจุดชมวิวของเมือง และถือเป็นสัญลักษณ์ คือ ปราสาท เซนได หรือ ปราสาทโอบะ (Aoba) ซึ่งสามารถมองเห็นวิวของเมืองเซนไดในมุมมองแบบพาโนรามา

เล่าให้เห็นภาพรวม และความน่าสนใจของเมืองนี้กันไปแล้ว หากใครมีแพลนจะไปเที่ยวเมืองนี้และยังไม่รู้จะไปเที่ยวจุดไหนดี ขอแนะนำ 8 สถานที่หรือสิ่งที่จะเติมความสุข และไม่ควรพลาดใน “เซนได” ที่ไปแล้วต้องเช็คอิน ดังนี้

1. เที่ยวชมเทศกาลเซนไดทานาบาตะ : เป็นงานเทศกาลที่ให้นักท่องเที่ยวแวะถ่ายรูป เดินชมงาน โดยภายในงานจะมีการประดับประดาด้วยไม้ไผ่สูง และกระดาษหลากสี เพื่อขอพร  งานนี้จะจัดขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคม 3 วัน 3 คืน

2. ย่าน “คกคุบุงโจ” ถนนโจเซ็นจิ : ย่านที่เต็มไปด้วย ร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ เก๋ๆ น่านั่ง แล้วถ่ายรูปชิลล์ๆ อัปขึ้นโซเชียล “คกคุบุงโจ” ถนนโจเซ็นจิ เต็มไปด้วยสีสันยามราตรี ที่นี่ไม่มีคำว่าเหงา และหากมาในตอนกลางวันตลอดสองข้างทางก็มีแหล่งช้อปปิ้งให้เพลิดเพลินกันสุดๆ ไปเลย

3. แช่ออนเซ็น ซาคุนามิ และ อะคิอุ : เพลิดเพลินผ่อนคลายไปกับการแช่น้ำพุร้อน ที่จะได้ยินเสียงน้ำไหล ช่วยให้ผ่อนคลาย ขจัดความเหนื่อยล้าที่สะสม ให้ได้ฟินในบรรยากาศที่โอบล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ และธรรมชาติที่สมบูรณ์

4. ลิ้มรส ลิ้นวัวย่าง : ลิ้นวัวย่าง (Gyutan) เป็นอาหารเลื่องชื่อของญี่ปุ่น และมีต้นกำเนิดที่เมืองเซนไดนี่เอง เป็นเมนูนี้ที่ไม่ควรพลาดลิ้มลองความนุ่มกรุบกรอบ และกลิ่นหอมกรุ่นของถ่าน อันเป็นเอกลักษณ์รสชาติต้นตำรับ จนหลายคนติดใจ ซึ่งร้านอาหารดังๆ ในเซนได ทุกแห่ง จะต้องมีเมนูลิ้นวัวย่างไว้บริการ

5. ตลาดปลา มัตสึชิม่า : ตลาดนี้ ต้องเดินทางออกนอกเมืองเล็กน้อยแต่ก็คุ้มค่าที่ได้ไปเยือน โดยเฉพาะคนรักซูชิ เชื่อว่าแม้จะไกลแค่ไหน เพียงได้ลิ้มลองความสดก็แสนคุ้ม เพราะมีปลามากมายหลายแบบให้เลือกสรร จะรับประทานแบบซูชิ หรือ ข้าวหน้าปลาดิบ สด อร่อย แถมยังราคาประหยัดอีกด้วย

6. เซนไดไดแคนนอล : ที่แห่งนี้มีเอกลักษณ์ที่ การประดิษฐานรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม ด้วยความสูงถึง 100 เมตร ซึ่งนับว่ามีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก ทั้งยังสามารถเดินเข้าไปในรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมได้ เพราะมีความสูงถึง 12 ชั้น ภายในมีความโอ่โถง สวยงาม ให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมอย่างเพลิดเพลิน

7. หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอก : เป็นสถานที่เรียกว่า นักท่องเที่ยว ไม่นึกไม่ฝันว่า จะได้เห็นการเลี้ยงสุนัขจิ้งจอกเต็มไปหมด แถมยังเชื่อง วิ่งคลอเคลีย ให้กับนักท่องเที่ยวเก็บภาพเป็นที่ระลึก แต่ก็มีข้อตกลง ที่ต้องทำตามกฎที่เคร่งครัดก่อนเข้าชม

8. ปราสาทเซนได หรือปราสาทโอบะ (Aoba) : เป็นสถานที่สามารถมองเห็นวิวของเมืองเซ็นไดในมุมมองแบบพาโนรามา ที่นี่มีรูปปั้นที่มีชื่อเสียงของ ดาเตะ มาซะมูเนะ อยู่บนหลังม้า มองไปที่เมืองเซนได นอกจากนี้ ภายในยังมีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับสิ่งของของเอโอบะ และร้านจำหน่ายของที่ระลึกท้องถิ่น ให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อติดไม้ติดมือกลับไปที่ระลึกหรือเป็นของฝากญาติมิตร 

เล่ามาถึงตรงนี้ นี่แค่น้ำจิ้ม เพราะเมืองเซนไดยังมีสิ่งที่น่าสนใจมากมายให้สัมผัส สำหรับคนที่รักธรรมชาติ ส่วนใครที่สนใจจะบินไปพักผ่อนหรือท่องเที่ยวเพื่อให้รางวัลตัวเอง วันนี้สามารถบินตรงสู่ “เซนได” กับโปรโมชั่น “Sawasdee Sendai” (สวัสดี เซนได) ด้วยสายการบินไทย  ที่มีเที่ยวบินสัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน (เที่ยวไป อังคาร, พฤหัสบดีและเสาร์ ) ไม่ว่าจะบินไปคนเดียว บินไปกับครอบครัว บินยกก๊วนชวนกันเที่ยวกับเพื่อน ด้วยราคาสุดคุ้ม โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง ด้วยบัตรโดยสาร ไป-กลับ ราคาเริ่มต้นเพียง 13,775 บาท/ท่าน และหากเดินทาง 4 ท่านขึ้นไป ราคาเริ่มต้นที่ 13,175 บาท/ท่าน เปิดจองแล้ว วันนี้ – 31 ส.ค. 62 เดินทางได้ระหว่างวันที่ 29 ต.ค. – 20 ธ.ค. 62 #เซนไดใกล้กว่าที่คิด สนใจเพียงคลิก  https://bit.ly/33efrut

หรือเที่ยวเซนไดแบบสุดคุ้มเมื่อจองแพ็คเกจ Ohayo Sendai  กับทัวร์เอื้องหลวง ราคาบัตรโดยสารพร้อมที่พัก 2 คืน เริ่มต้นที่ 16,500 บาท/ท่าน ได้วันนี้! เพียงคลิกhttps://bit.ly/2ThgyoC

REALATED NEWS

Comments

Share Tweet Line