M.I.S.S.CONSULT เน้นพัฒนาสร้างสุขภาวะผู้บริหาร สร้างสมดุลชีวิตเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

M.I.S.S.CONSULT เน้นพัฒนาสร้างสุขภาวะผู้บริหาร สร้างสมดุลชีวิตเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

บริษัท มิส คอนซัลท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาศักยภาพบุคคลบนพื้นฐานวิทยาศาสตร์ด้วยหลักจิตวิทยาเชิงบวกและประสาทวิทยาศาสตร์ทีพิสูจน์ผลสำเร็จได้  เผยแผนปีหน้าเน้นตลาดพัฒนาศักยภาพบุคคลโดยการสร้างสุขภาวะสำหรับคนทำงาน พร้อมจัดหลักสูตร  CBT for working people/ Executive Wellness / Energy management  โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มผู้บริหารที่เผชิญกับภาวะความกดดันจากการแข่งขัน ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล


ด้วยเห็นความสำคัญของการสร้างสมดุลชีวิตของผู้ทำงานในปัจจุบัน  ที่เป็นยุคแห่งความเครียดและความกดดันต่อการสร้างความสามารถในการสร้างโอกาสในการแข่งขัน  ผู้ทำงานต้องทำงานภายใต้การตอบสนองต่อการแข่งขันที่รวดเร็วและกดดัน  การเปลี่ยนแปลงถือเป็นเรื่องปกติที่ต้องบริหารจัดการให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลต่อภาวะความเครียด ความกดดัน กับผู้ทำงานอย่างมีนัยสำคัญที่ชัดเจน

จากข้อมูลจากบริษัทชั้นนำในระดับโลกด้านการทำวิจัยและพัฒนาการเรียนรู้ชี้ให้เห็นว่าการทำงานในปัจจุบันเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเทคโนโลยีที่เชื่อมโลกเข้าด้วยกันด้วยความรวดเร็วยิ่งขึ้น เกิดสินค้าและบริการใหม่ๆที่เข้ามา Disrupt ธุรกิจและการทำงานในปัจจุบัน เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้องค์กรต้องรีบปรับตัว

ตั้งแต่การสรรหาและพัฒนาพนักงานดาวเด่นที่ตลาดแรงงานมีแนวโน้มจะเป็น Gig Economy, ปรับกระบวนการทำงานให้มีความคล่องตัวแบบ Agile พร้อมปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่มีคุณค่าและตอบโจทย์ความต้องการ, เปลี่ยนแปลงลักษณะการทำงานที่ต้องแข่งกับเวลาและสากล ทีมงานและองค์กรต้องปรับตัวให้ตอบสนองต่อการเคลื่อนที่ ไม่ว่าจะเป็นการปรับโครงสร้างองค์กรที่ควรมีลักษณะเชิงกว้าง การทำงานที่เป็นอิสระได้ด้วยตนเองแต่ยังคงต้องการความสามารถในการทำงานร่วมกับบุคคลอื่น ผู้ทำงานระดับหัวหน้างานมีความจำเป็นที่ต้องคล่องตัวในการเข้าหาทีมงานมากกว่าการรอเพียงทีมงานเข้าหา และแน่นอนว่าทุกองค์กรต้องเน้นทำให้ผู้ทำงานเกิดการ Continuous Learning เพื่อพัฒนาทักษะที่จำเป็นในการสร้างสรรค์ผลงานอยู่ตลอดเวลา

ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ส่งผลให้ผู้ทำงานเกิดความเครียด ความเหนื่อยล้า หรือกระทั่งรู้สึกไม่อยากออกไปทำงาน ซึ่งข้อมูลจาก Wiley พบว่า บริษัทมากกว่า 80% คิดว่าธุรกิจของตนมีความซับซ้อนมาก หรือ แม้นกระทั่งพนักงานในองค์กรก็รู้สึกว่างานที่พวกเขามีความซับซ้อน เข้าใจยาก ระดับความความเครียดเพิ่มสูงขึ้น หากพบว่ามีเพียง 16% ของบริษัท ที่มีโปรแกรมเพื่อช่วยพนักงานให้ทำงานได้ง่ายขึ้น หรือ ช่วยพนักงานบริหารจัดการกับความเครียด และข้อมูลนี้ยังพบว่ามีพนักงานถึง 40% ที่เชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะประสบความสำเร็จทั้งในการทำงานและมีชีวิตครอบครัวที่ดีไปพร้อมกันได้ ที่น่าตกใจที่สุดคือพบว่าจากทั่วโลกมีพนักงานเพียงแค่ 15% เท่านั้น ที่รู้สึกผูกพัน หรือ Engaged กับงานของพวกเขา

กัลยา แก้วประเสริฐ  กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิส คอนซัลท์  ให้ความเห็นว่า   ด้วยปัจจัยจากสภาพแวดล้อมในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลนี้ ทำให้เกิดความเครียดและความกดดันกับคนทำงาน จะเห็นว่าผลการคาดหวังด้านการทำงาน มีผลต่อการสร้างความเครียด และความกดดัน  ซึ่งหมายถึงว่า ระดับการทำงานที่ถูกคาดหวังมาก ยิ่งสร้างความกดดันสูงมากขึ้นเท่านั้น   ดังนั้น เรามักจะพบว่าผู้บริหารส่วนใหญ่มีความเครียดในระดับที่ “สูง” และก็มักจะ “ยุ่ง”  จนแทบไม่มีเวลาเหลือสำหรับสิ่งใด ที่นอกเหนือไปจากงาน   การบริหารความเครียด และการทำให้ผู้ทำงานมีความสามารถในการบริหารจัดการความเครียด ย่อมส่งผลดีทั้งในระดับบุคคล ระดับสังคม และแน่นอน เพิ่มขีดความสามารถในการสร้างการแข่งขันและเป็นส่วนสำคัญในการทำให้ประสบความสำเร็จ

ถึงแม้ว่าเทคโนโลยี จะเป็นปัจจัยสำคัญให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อองค์กรธุรกิจและเข้ามาทดแทนแรงงานคนได้ในหลายสาขาอาชีพ  อย่างไรก็ตาม  “คน”   ก็ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีค่าสำหรับองค์กร  ซึ่งองค์กรควรให้ความสำคัญและลงทุนกับการพัฒนาบุคลากรโดยเน้นเรื่อง “การเรียนรู้”   ปรับทักษะ (re skill ) เปิดรับและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี  ผู้ทำงานที่จะประสบความสำเร็จได้ก็ต้องมีพฤติกรรมที่แสดงออก และนำไปสู่การกระทำที่ส่งผลถึงความสำเร็จให้เห็นได้อย่างเป็นรูปธรรม  งานทางด้าน HR จะถูกกำหนดให้เป็น นักกลยุทธ์ และลงทุนในคนมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้าน Soft skill    คนจะได้เปรียบ AI เพราะความสามารถทางด้านการสื่อสารและความคิดสร้างสรรค์ การให้ความสำคัญในเรื่อง EQ การจัดการสภาวะทางอารมณ์ของผู้ทำงานจะเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจมากขึ้น  องค์กรต้องเน้นในเรื่องของการสร้างพลังหรือสุขภาวะของร่างกายและจิตใจ Healthy Mind ที่มีส่วนในการสร้างความแข็งแกร่งของบุคคล  เพื่อส่งผลไปถึงทีมงานให้มี Healthy Team  หรือความสามารถในการอยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจภายใต้ความแตกต่างทางความรู้สึกนึกคิดและปัจจัยแวดล้อมของแต่ละบุคคล เพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกันโดยปราศจากความกดดัน ความขัดแย้ง และนำไปสู่ความสำเร็จขององค์กรที่ยั่งยืนต่อไป

ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของเรา ในเรื่องของการพัฒนาโดยใช้หลักจิตวิทยา  เราจึงวางโปรแกรมการพัฒนาในเรื่องการบริหารความเครียดสำหรับผู้บริหาร นี้ไว้หลายหลักสูตร และพร้อมเปิดตัวในปีหน้า  อาทิ หลักสูตร CBT for Working People เน้นการเรียนรู้พลังงานภายในของตนเอง และการบริหารพลังเพื่อเสริมศักยภาพในการทำงาน พร้อมการประเมิน Energy Management profile ของผู้บริหารแต่ละท่าน ที่จะได้เรียนรู้สไตล์ และเทคนิคการปฏิบัติเฉพาะของตนเอง   เพื่อนำไปปรับใช้ในการทำงาน   เข้าใจระบบความคิดที่เป็นปัญหาของตนเอง เพิ่มสมดุลทางอารมณ์และความคิด สามารถเพิ่มประสิทธิภาพความแข็งแกร่งของทั้งร่างกายและจิตใจ

และยังมีระดับ Advance โดยใช้เทคนิค  MC speed up habit ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ มิสคอนซัลท์ พร้อมทั้งการประเมินสุขภาพร่างกายของผู้บริหาร  Body analysis โดยเครื่องมือมาตรฐานทางการแพทย์ รวมทั้ง เทคนิค Hypnosis ที่ปรับสมดุลทางด้านจิตใจและร่างกาย หรือโปรแกรมเฉพาะด้าน  Executive Wellness /  Mind Programming Coach for Executive / Top Management  เป็นต้น

เราคาดหวังว่า จะเป็นผู้นำทางด้านการพัฒนาสุขภาวะของผู้บริหารระดับสูง  ซึ่งเรามองว่าเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดต่อผลสำเร็จขององค์กร หรือธุรกิจ  กัลยา กล่าวสรุป

นอกจากนี้ มิส คอนซัลท์ ยังได้ลิขสิทธิ์เป็นตัวแทนแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย สำหรับโปรแกรมที่มีมาตรฐานระดับสากล The Five BehaviorsTM และ Everything DiSC® ที่เรายังคงเน้นพัฒนาให้กับองค์กร อย่างต่อเนื่อง  และเป็นบริษัทเดียวที่สามารถให้ใบรับรองคุณวุฒิ  Everything DiSC®  Workplace Certification จาก A Wiley Brand

ซึ่ง The Five BehaviorsTM  เป็นโปรแกรมที่จะเข้ามาตอบโจทย์สมดุลการทำงาน ด้วยการสร้างวัฒนธรรมความเป็นทีมที่เหนียวแน่น ด้วยแบบประเมินที่จะทำให้เข้าใจ 5 พฤติกรรมพื้นฐานที่สำคัญ ซึ่งได้ช่วยทำให้หลายองค์กรในระดับสากล ประสบความสำเร็จในการพัฒนาทีมผู้บริหารที่เหนียวแน่นมาแล้ว เช่น  Microsoft, Amazon, CISCO, P & G เป็นต้น

REALATED NEWS

Comments

Share Tweet Line