“สูตรเสน่หาเดอะมิวสิคัล” ละครเพลงยุคใหม่ สอนผู้ชมผ่านบทเพลงสไตล์ป๊อปมิวสิคัล

“สูตรเสน่หาเดอะมิวสิคัล” ละครเพลงยุคใหม่  สอนผู้ชมผ่านบทเพลงสไตล์ป๊อปมิวสิคัล

ปิดม่านการแสดงไปอย่างสวยงามสำหรับ “ละครเวทีสูตรเสน่หาเดอะมิวสิคัล” ที่แม้ว่าจะเป็นมิวสิคัลค่ายน้องใหม่อย่าง บริษัท บี มิวสิคัล จำกัด แต่งานนี้ต้องขอลุกขึ้นปรบมือดัง ๆ เพราะผลงานที่ออกมาเริ่ด เก๋ ไม่ใช่ย่อย เรียกได้ว่ากระแสตอบรับดีเกินคาดทั้งจากผู้ชมที่เป็นประชาชนทั่วไป หรือแม้แต่แวดวงคนทำละครเวที ทำมิวสิคัล และคนในวงการบันเทิง ก็ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “สูตรเสน่หาเดอะมิวสิคัล” เลือกวัตถุดิบในการปรุงรส คือตัวละครที่แคสติ้งมาอย่างดี และทุกคนสามารถปรุงรสชาติออกมาได้กลมกล่อม เสิร์ฟความสนุกได้ครบทุกรสชาติทั้ง หวาน ขม ผสมด้วยรัก


หากจะพูดถึงวัตถุดิบอีก 1 อย่างของมิวสิคัลที่ขาดไม่ได้ก็คือบทเพลงและบทเพลงบนสเตจของสูตรเสน่หาเดอะมิวสิคัล ก็ทำออกมาได้ดีไม่แพ้การแคสติ้งนักแสดง โดยบทเพลงของมิวสิคัลเรื่องนี้มีกลิ่นไอความเป็นป๊อป ที่ฟังดูเข้าใจง่าย สามารถร้องตามได้อย่างสบาย ความกลมกล่อมของเพลงยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เชฟใหญ่หรือโปรดิวเซอร์ จ๋า - สุดาพิมพ์ โพธิภักติ ได้สอดแทรกข้อคิดดี ๆ ทั้งแง่มุมการใช้ชีวิต และแง่มุมความรักไว้ในทุกบทเพลง เราเลยขอหยิบ 3 บทเพลงน่ารัก ๆ ที่มีข้อคิดดี ๆ มาฝากผู้อ่านกันเลยจ้า

 

เริ่มกันที่บทเพลงแรกกับชื่อเพลงเครื่องเคียงคู่ควร ฉาก ครูกุ๊ก (แสดงโดยเก้ง - เขมวัฒน์) สอน อลิน (แสดงโดยเชียร์ - ฑิฆัมพร) ทำอาหาร โดยมีเนื้อร้องคือ “เครื่องเคียงแม้ไม่สำคัญที่สุด คงไม่แปลกที่ใครจะมองผ่านไป แต่ถ้าไม่มีเราแล้ว เค้าจะเด่นได้อย่างไร เครื่องเคียงนี่แหละที่สำคัญ ที่ส่งให้จานนั้น อร่อยกว่าจานไหน ขอแค่ลองวางใจ ไว้ข้างๆกัน” ข้อคิดของเพลงนี้ก็คือ “อาหารจานหลัก ถ้าไม่มีเครื่องเคียงก็อาจจะขาดรสชาติ ขาดความกลมกล่อม ซึ่งก็เปรียบเหมือนคนเราที่ไม่ควรมองข้ามสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆรอบตัว เพราะสิ่งนั้นอาจจะเป็นสิ่งที่เต็มเติมให้ชีวิตเราสมบูรณ์แบบ”

อีก 1 บทเพลงที่บ่งบอกความเป็นสูตรเสน่หาเดอะมิวสิคัลคือเพลงสูตรเสน่หา ที่เป็นเพลงปิดท้ายฉากการแสดง เราได้เห็นนักแสดงหลากหลายมาเต้นจังหวะน่ารัก ๆ กับเนื้องร้องที่มีว่า “สูตรแห่งความรัก สูตรที่เราสร้างสรรค์จะเป็นอย่างไร ต้องปรับทีละน้อยคอยปรุงกันไป หยิบเอาทั้งสองใจมารวมกันจะเกิดเป็นความรัก สูตรพิเศษจานนี้คือเธอและฉัน แบ่งปันความหวานให้กันและกัน ดื่มด่ำความรักของเราเรื่อยไป ไม่มีจาง” เพลงนี้ถือว่าโดนใจหลาย ๆคน โดยเฉพาะคนมีคู่เพราะมีข้อคิดในแง่มุมความรัก “ที่พูดถึงความรักของคน 2 คนไว้อย่างชัดเจน ว่า ความรักจะกลายเป็นสูตรสำเร็จได้ ก็เพราะคน 2 คนค่อย ๆ ปรับจูนซึ่งกันและกัน และที่สำคัญช่วยเหลือกัน คอยให้กำลังใจกัน เพื่อความรักที่ยั่งยืน”

มาถึงเพลงสุดท้ายคือเพลงปรุงรสด้วยรัก แฟน ๆ มิวสิคัลคงจำฉากนี้กันได้ ที่เราได้ฟังพลังเสียงของ แม่นง (แสดงโดย ม.ล.ขวัญทิพย์ หรือเชฟป้อม) และ โสภิตา (แสดงโดยแจน ) กับฉากที่สอนครูกุ๊กและอลินในเรื่องความรัก โดยมีเนื้อร้องว่า “ถ้ารักต้องยอมลดความคาดหวังที่มี ต้องหมั่นเติมที่ขาดหาย ให้กันจากนี้ มันอาจจะมีขม อาจมีหวาน หากปรุงรักของเราด้วยหัวใจ ต้องได้เจอรสชาติแห่งรัก” ข้อคิดดี ๆของเพลงนี้ได้บอกถึงความรักว่า “หากคนเราจะมีความรัก อย่าพยายามคาดหวังอะไรมากเกินไป และคอยเติมสิ่งที่อีกคนขาดหายให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น ที่สำคัญความรักมีขม มีหวาน แต่ถ้าเราปรุงรสด้วยหัวใจของกันและกัน เราก็จะเจอความรักที่แท้จริง”

สูตรเสน่หาเดอะมิวสิคัล ถือเป็นละครเวทียุคใหม่ ที่สร้างสรรค์ผลงานได้ออกมาได้อย่างดีเยี่ยมตอบโจทย์แฟนละครเวทีรุ่นใหม่ที่ชอบเสพงานศิลป์สบาย ๆ เข้าใจง่าย ทั้งบทละคร บทเพลง ดังนั้นหากจะบอกว่า บริษัท บี มิวสิคัล ถือเป็นผู้สร้างสรรค์ผลงานละครเวทีที่น่าจับตามองอีก 1ราย โดยหากใครอยากชมเพลงเพราะ ๆ หรือ ภาพน่ารัก ๆ สูตรเสน่หา เดอะมิวสิคัล สามารถติดตามได้ที่ Facebook :Bemusical

REALATED NEWS

Comments

Share Tweet Line