สกพอ.จับมือ UNIDO แสดงศักยภาพการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน Circular Economy

สกพอ.จับมือ UNIDO แสดงศักยภาพการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน Circular Economy

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนา “Seminar during the 35th ASEAN Summit in Thailand on Circular Economy, Waste Management and Sustainability” จัดขึ้นร่วมกันโดยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) องค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ (The United Nations Industrial Developments Organization-UNIDO)และองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (อบก.) เพื่อแสดงศักยภาพและความก้าวหน้าการพัฒนาพื้นที่ EEC ให้เกิดความยั่งยืนทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม บนหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และแลกเปลี่ยนประสบการณ์การดำเนินงานของภาครัฐและภาคเอกชนของไทยในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การจัดการขยะ และการพัฒนาที่ยั่งยืนโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ก่อนที่จะมีการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 2-4 พฤศจิกายน 2562 ที่ประเทศไทยในฐานะประธานอาเซียน เป็นเจ้าภาพ


การประชุมสัมมนา ฯ ครั้งนี้ สกพอ. UNIDO และอบก. จะได้ร่วมกันเผยแพร่ต้นแบบการดำเนินงาน Circular Economy การพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน การพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศน์ ที่มีการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC เป็นต้นแบบ รวมทั้ง นำเสนอกลยุทธ์การดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมของ EEC ที่จะมีแนวทางการกำจัดขยะ การจัดการน้ำ และการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับภูมิภาค ซึ่งจะช่วยยกระดับการส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมาย ที่คู่ไปกับการนำระบบ Circular Economy มาปรับใช้อย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ การพัฒนาพื้นที่ EEC ได้ออกแบบการใช้พื้นที่ให้สอดคล้องกับการเคลื่อนย้ายประชากร และผลักดันให้บรรลุเป้าหมายทางสิ่งแวดล้อม เช่น การบริหารจัดการน้ำ การลดก๊าซเรือนกระจก และที่สำคัญคือการร่วมขับเคลื่อนจัดการปัญหาขยะ กับภาคประชาชน ภาคเอกชน ผู้นำท้องถิ่น อย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันได้เริ่มดำเนินการเป็นรูปธรรม เช่น การบริหารจัดการขยะแบบครบวงจร ในพื้นที่ จังหวัดระยอง หรือ Rayong Model ที่ใช้รูปแบบของโรงไฟฟ้าขยะชุมชน และโครงการ EEC square ที่สกพอ.ได้เข้ารณรงค์ สร้างความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมในระดับสถานศึกษา เพื่อปลูกฝังให้เยาวชนร่วมเป็นเครือข่ายในการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนในอนาคต เป็นต้น

REALATED NEWS

Comments

Share Tweet Line