“ช๊อคกี้” ขนมเวเฟอร์แบรนด์ไทย ทำยอดขายสูงสุดในเทศกาลช็อปปิง 11.11 ของจีน

“ช๊อคกี้” ขนมเวเฟอร์แบรนด์ไทย ทำยอดขายสูงสุดในเทศกาลช็อปปิง 11.11 ของจีน

เทศกาลช็อปปิง 11.11 ในจีนจบลงไปเป็นที่เรียบร้อย นอกเหนือจากการแข่งขันอันดุเดือดของผู้ประกอบการในจีนแล้ว ผู้บริโภคต่างต้องการอาหารนำเข้าคุณภาพสูงมากขึ้น หนึ่งในสินค้าจากต่างประเทศที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมคือ “ช๊อคกี้” ขนมเวเฟอร์แบรนด์ไทย ซึ่งจับมือเป็นพันธมิตรกับบริษัท Beijing Tian Fu Ying International Trade Company ของจีน โดยทำยอดขายสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในหมวดขนมเวเฟอร์บนเว็บไซต์ Tmall ในระหว่างวันที่ 21 ตุลาคม ถึง 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา 


ผู้บริโภคชาวจีนใส่ใจในคุณภาพอาหารอย่างมากมาแต่โบราณ และอุตสาหกรรมอาหารทานเล่นก็ครองส่วนแบ่งตลาดมหาศาลมานานแล้ว ข้อมูลจาก Frost & Sullivan เผยให้เห็นว่า อุตสาหกรรมขนมขบเคี้ยวของจีนมียอดขายสูงถึง 1.029 ล้านล้านหยวนในปี 2561

ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจจีนที่เฟื่องฟูยังผลักดันให้อาหารนำเข้าเติบโตอย่างสดใสในจีน โดยกรมศุลกากรจีนเปิดเผยว่า ยอดขายอาหารนำเข้าในจีนมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 17.7% ในช่วงปี 2552-2561 และแตะระดับ 5 แสนล้านหยวนในปี 2561

ตลาดการท่องเที่ยวไทยที่เติบโตอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ขนมจากไทยเป็นม้ามืดในเทศกาลช็อปปิง 11.11 ของจีนในปี 2562 โดยมีสามเหตุผลหลักที่ทำให้อาหารจากไทย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “ช๊อคกี้” เป็นที่ชื่นชอบในหมู่ผู้บริโภคชาวจีน ประการแรกคือ ประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ ผู้ประกอบการจึงมีคุณธรรมและให้ความสำคัญกับคุณภาพอาหาร ประการที่สองคือ ผู้ประกอบการจำนวนมากเป็นชาวไทยเชื้อสายจีน จึงสามารถผลิตสินค้าให้เข้ากับรสนิยมของคนจีนพร้อมกับรักษาเอกลักษณ์ความเป็นไทย ประการที่สามคือ แบรนด์ช๊อคกี้จับมือเป็นพันธมิตรกับบริษัท Beijing Tian Fu Ying International Trade Company ซึ่งมีประสบการณ์ในตลาดอาหารจีนมานานกว่า 10 ปี และมีการโปรโมทแบรนด์ช๊อคกี้ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ตลอดสองปีที่ผ่านมา และนี่คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้แบรนด์ขนมจากไทยแบรนด์นี้ได้รับความนิยมอย่างมากในจีน

ความนิยมในแบรนด์ “ช๊อคกี้” ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในจีน สะท้อนให้เห็นว่าอาหารนำเข้าคุณภาพสูงเป็นที่ต้องการมากขึ้น นางสาวศุภรา เสกาจารย์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครกว่างโจว กล่าวว่า ตลาดขนมขบเคี้ยวจีนมีศักยภาพสูงมาก และผู้ประกอบการไทยควรคว้าโอกาสนี้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ โครงการ Belt and Road Initiative และตลาดอีคอมเมิร์ซที่เฟื่องฟูในจีน จะผลักดันให้การค้าไทย-จีนแข็งแกร่งขึ้นในอนาคต

Comments

Share Tweet Line