ซัมซุง เตรียมพร้อมก้าวสู่โลกแห่งอนาคต นำเสนอสุดยอดนวัตกรรมที่งาน CES 2020

ซัมซุง เตรียมพร้อมก้าวสู่โลกแห่งอนาคต นำเสนอสุดยอดนวัตกรรมที่งาน CES 2020

ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ประกาศแสดง 5 สุดยอดโครงการนวัตกรรมจาก C-Lab Inside รวมไปถึงผลิตภัณฑ์จาก 4 สตาร์ทอัปโดย C-Lab Outside ที่งานคอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ โชว์ ประจำปี 2563 (CES 2020) มหกรรมที่รวบรวมเทคโนโลยีและอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลกมาไว้ในที่เดียว


“เราสนับสนุน C-Lab ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่แสดงออกถึงเทรนด์ล่าสุดของตลาดและความต้องการของลูกค้า ซึ่งเราจะจัดแสดงทั้งโครงการและสตาร์ทอัปที่น่าสนใจจาก C-Lab ในนิทรรศการระดับโลกต่างๆ” คุณอินกุก ฮาน รองประธานและหัวหน้าศูนย์นวัตกรรมสร้างสรรค์ ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าว

จากโครงการ C-Lab Inside สู่ความสำเร็จเกินความคาดหมาย

C-Lab Inside คือโครงการบ่มเพาะธุรกิจซึ่งสนับสนุนและส่งเสริมไอเดียนวัตกรรมของพนักงานซัมซุง โดยโครงการนี้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2555 โดยโครงการจาก C-Lab Inside ที่นำมาเปิดตัวเป็นครั้งแรกในงาน CES ปีนี้ เน้นไปที่การส่งมอบความสะดวกสบายและการสร้างสุขภาพที่ดี ไม่ว่าจะเป็น SelfieType โซลูชันแป้นพิมพ์เสมือนจริงโดยใช้กล้องหน้า Hyler ปากกาเน้นข้อความอัจฉริยะที่สามารถแปลงตัวอักษรบนกระดาษให้เป็นตัวอักษรดิจิตอล Becon โซลูชันดูแลหนังศีรษะและป้องกันผมร่วงด้วยตนเองจากที่บ้าน SunnySide แสงแดดประดิษฐ์ในรูปทรงหน้าต่าง และ Ultra V เซนเซอร์ตรวจจับแสงอัลตราไวโอเลต

นับตั้งแต่เริ่มจัดตั้งโครงการ ปัจจุบันมีโครงการภายใต้ C-Lab กว่า 40 โครงการที่ได้รับทุนสนับสนุนเต็มจำนวนและตั้งตัวแยกออกมาเป็นบริษัทสตาร์ทอัป ซึ่งในงานครั้งนี้ ได้มี 8 บริษัท ซึ่งประกอบไปด้วย Linkflow, Welt, Linkface, Lululab, Mopic, Monit, AnaloguePlus, และ Luple นำผลงานนวัตกรรมล่าสุดของตนเองมาจัดแสดง เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตที่มากขึ้น ซึ่ง Linkface ถือเป็นหนึ่งในบริษัทที่โดดเด่นมากที่สุด จากการได้รับการเสนอชื่อรับรางวัลนวัตกรรมดีเด่นประจำงาน CES 2020 ด้วยการนำเสนอหูฟัง “Dear” ที่มาพร้อมกับเซนเซอร์ตรวจจับสัญญาณชีวภาพเพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการสูญเสียการได้ยินในเด็ก

รายละเอียดของโครงการ C-Lab Inside

1. SelfieType คือ คีย์บอร์ดเสมือน (Virtual Keyboard) ที่ทำงานด้วยการใช้กล้องหน้าของสมาร์ทโฟน ผสานเข้ากับการใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์การเคลื่อนไหวของนิ้วมือให้เป็นตัวอักษร ตามตำแหน่งของแป้นพิมพ์ ‘เควอร์ที’ (QWERTY keyboard) โดย SelfieType สามารถประยุกต์ใช้ได้กับอุปกรณ์ที่หลากหลาย เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และแล็ปท็อป โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริม

2. Hyler คือ ปากกาเน้นข้อความอัจฉริยะ (Smart highlighter) ที่เปลี่ยนข้อความบนหน้ากระดาษให้เป็นตัวอักษรในอุปกรณ์ดิจิตอลเพียงแค่ไฮไลท์ข้อความ โดยผู้ใช้ยังสามารถใช้อุปกรณ์นี้จัดเก็บข้อมูลจากหน้ากระดาษเพื่อจัดการข้อมูลภายหลังผ่านแอปพลิเคชัน รวมถึงการค้นหาข้อมูลโดยตรงผ่านโหมด “search” ใน Hyler ด้วยอ้างอิงจากเครื่องมือค้นหาและพจนานุกรมที่เชื่อมต่ออยู่กับ Hyler

3. Becon คือ บริการดูแลหนังศีรษะเพื่อป้องกันผมร่วง พร้อมการแนะนำวิธีการแก้ไขปัญหาโดยอ้างอิงจากผลการวิเคราะห์สภาพหนังศีรษะของแต่ละบุคคล โดย Becon จะประกอบด้วยอุปกรณ์พกพาที่ทำงานร่วมกับแอปพลิเคชัน โดยเครื่องมือนี้จะทำการวิเคราะห์หนังศีรษะแบบเรียลไทม์ได้ถึง 10 ด้าน ทั้งในด้านความหนาแน่นของเส้นผม เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว (Dead skin) ความบอบบางของผิว อุณหภูมิและความชื้น ด้วยการวิเคราะห์จากอัลกอริทึม Machine Learning โดยตัวเครื่องจะแนะนำวิธีการแก้ไขปัญหาหนังศีรษะที่ดีที่สุดหลังจากการประเมินผลวิเคราะห์ พร้อมทั้งยังสามารถแสดงถึงการพัฒนาของหนังศีรษะผ่านทางแอปพลิเคชันได้อีกด้วย

4. SunnySide คือ อุปกรณ์ให้แสงสว่างที่มาในรูปร่างคล้ายหน้าต่าง โดยสามารถสร้างแสงแดดจำลอง ซึ่งทำให้ผู้ใช้เพลิดเพลินไปกับแสงแดดที่เปลี่ยนไปตามแต่ละช่วงเวลาของวัน ผ่านการจำลองสเปกตรัมของแสงอาทิตย์จริง รวมถึงยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถสังเคราะห์วิตามินดีได้จากภายในบ้านหรือที่ใดก็ตามที่มีแสงแดดไม่เพียงพอ โดยไม่ต้องกังวลว่าแสงแดดจะทำร้ายผิว โดย Sunnyside สามารถติดตั้งได้อย่างง่ายดายคล้ายกับการติดตั้งภาพแขวนผนัง

5. Ultra V คือ เซนเซอร์ชนิดใหม่ที่มาพร้อมการบันทึกแสงอัลตราไวโอเลตในแต่ละวัน โดยตัวเซนเซอร์มีตัวรับที่มีมุมกว้างที่ทำให้ง่ายต่อการติดตั้งเข้าไปในอุปกรณ์สวมใส่ต่างๆ ด้วย Ultra V ผู้ใช้งานจะสามารถตรวจสอบและจัดการสภาพผิว รวมถึงปริมาณการผลิตวิตามิน D ของผิวที่ได้สัมผัสกับรังสียูวีจากแสงอาทิตย์

4 สตาร์ทอัปสุดโดดเด่น แห่ง C-Lab Outside

ครั้งแรกกับการนำเสนอ 4 สตาร์ทอัปจาก C-Lab Outside พร้อมกับเหล่าโครงการจาก C-Lab Inside ภายในงาน CES นับตั้งแต่การก่อตั้ง C-Lab Outside ขึ้นเป็นครั้งแรกในเดือนตุลาคม ปี 2561 ในฐานะโครงการที่ช่วยผลักดันอีโคซิสเต็มสำหรับสตาร์ทอัป และสร้างตำแหน่งงานด้านเทคโนโลยีให้มากขึ้นในประเทศเกาหลีใต้ พร้อมเป็นการขยายการสนับสนุนด้านไอเดียและนวัตกรรมภายนอกเครือข่ายของซัมซุง โดยสตาร์ทอัปที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการ C-Lab Outside จะได้รับการสนับสนุนทั้งด้านการเงิน การร่วมมือทางธุรกิจ และโอกาสในการนำเสนอผลงานบนเวทีระดับโลกเคียงข้างซัมซุง

รายละเอียดของสตาร์ทอัป C-Lab Outside

1. Circulus (http://pibo.circul.us) ได้จัดแสดงหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ หรือหุ่นยนต์เคลื่อนไหวคล้ายมนุษย์ ที่มีชื่อว่า ‘piBo’ ซึ่งเหมาะสำหรับบ้านที่มีการอยู่อาศัยคนเดียวหรือครอบครัวขนาดเล็ก (single-person households) โดย piBo สามารถให้
ใช้งานได้อย่างหลากหลาย ทั้งการสนทนาทั่วไป ข่าว สภาพอากาศ ผลการค้นหาต่างๆ พร้อมทั้งยังสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้ผ่านการวิเคราะห์อารมณ์จากการแสดงออกทางใบหน้า และเนื้อหาของการสนทนา พร้อมสื่อสารกลับด้วยวิธีการที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นทางคำพูด เสียงเพลง และการเต้น โดยผู้ใช้สามารถเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ โดยดาวน์โหลดจากสโตร์ได้

2. FITT (http://www.fitt.kr) คือแพลตฟอร์มการบันทึกสุขภาพส่วนบุคคล (PHR – Personal Health Record) เพื่อเก็บข้อมูลทางสุขภาพจากการทดสอบทางร่างกาย (Exercise test) 3 รูปแบบคือ การทำงานของหัวใจและปอด ท่าทาง และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ  โดยหลังจากการทดสอบ ผู้ใช้งานจะได้รับโปรแกรมออกกำลังกายเฉพาะบุคคลที่เหมาะสมกับสุขภาพของผู้ใช้งานในปัจจุบันโดยเปรียบเทียบกับผู้ใช้อื่นในช่วงอายุและเพศเดียวกัน นอกจากนี้ FITT ยังช่วยคาดการณ์โอกาสที่จะเกิดโรคในอนาคต เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจวาย และโรคหลอดเลือดหัวใจ เป็นต้น รวมไปถึงแนะนำโปรแกรมออกกำลังกายที่เหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคได้อีกด้วย

3. Vtouch (http://vtouch.io/) ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ โดยไม่ต้องสัมผัส ผ่านการตรวจจับสายตาและปลายนิ้วมือของผู้ใช้งาน ด้วยสิทธิบัตรคอมพิวเตอร์วิทัศน์หรือการวิเคราะห์ภาพนิ่ง (Computer vision) และซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ที่่เลียนแบบการทำงานของระบบโครงข่ายประสาทในสมองมนุษย์ (Deep-learning technology) โดย Vtouch สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในหลายอุตสาหกรรม เช่น รถยนต์อัจฉริยะ บ้านอัจฉริยะ หรือป้ายอัจฉริยะ เป็นต้น

4. Smoothy (https://smoothy.co/) คือ แอปพลิเคชันวิดีโอแชทเป็นกลุ่มที่สามารถใช้งานได้พร้อมกันสูงสุดถึง 8 คน ซึ่งสิ่งที่ทำให้ Smoothy แตกต่างจากแอปพลิเคชันอื่น คือ วิดีโอแชทจะถูกตั้งค่าเป็นโหมดงดการสนทนา (Silent mode) ยามเมื่อต่อสายครั้งแรก เพื่อให้ผู้ใช้สามารถรับสายได้ทุกที่ทุกเวลาที่ต้องการ นอกจากนี้ Smoothy ยังสามารถใช้ Samsung AR Emoji ได้ในระหว่างการสนทนา ซึ่งเมื่อผู้ใช้ได้สร้างอวตารของตัวเองแล้ว AR Emoji จะสามารถแสดงสีหน้าและท่าทางของผู้ใช้ได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งจะทำให้วิดีโอแชทสนุกมากขึ้น

REALATED NEWS

Comments

Share Tweet Line