Snapask ประกาศเพิ่มทุน ขยายตลาดแอปพลิเคชันเพื่อการศึกษา พร้อมพัฒนาระบบ AI

Snapask ประกาศเพิ่มทุน ขยายตลาดแอปพลิเคชันเพื่อการศึกษา พร้อมพัฒนาระบบ AI

Snapask (สแนปอาสค์) แอปพลิเคชันเพื่อการศึกษาชั้นนำ ประกาศเพิ่มทุนครั้งล่าสุดอีก 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 1,050 ล้านบาทจากกลุ่มผู้ลงทุนใหม่: Asia Partners สิงคโปร์ และ Intervest เกาหลีใต้ คิดเป็นเงินลงทุนรวมมากกว่า 1,500 ล้านบาท โดยเงินทุนใหม่นี้จะนำมาลงทุนเพื่อขยายตลาด และนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใช้วิเคราะห์การเรียนรู้ด้วยตนเองให้แม่นยำมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการยกระดับบริการด้านสื่อการสอนในรูปแบบวิดีโอเพื่อการศึกษาที่ครบครัน เดินหน้าเป็นสตาร์ทอัปเพื่อการศึกษาแห่งแรกในเอเชียที่ประสบความสำเร็จอย่างมั่นคง โดยล่าสุด มูลค่ากิจการทะยานเกิน 6,000 ล้านบาทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


นายชวัล เจียรวนนท์ ซีอีโอ บริษัท สแนปอาสค์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบัน Snapask ได้ให้บริการแก่นักเรียนมากกว่า 3 ล้านคนในเอเชีย ครอบคลุม ฮ่องกง, ไต้หวัน, สิงคโปร์, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ไทย, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ซึ่งสำหรับในประเทศไทยจัดว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงทันทีที่เปิดให้บริการ มีนักเรียนกว่าล้านคนจากทั่วประเทศเข้ามาใช้บริการภายในเวลาเพียง 2 ปี ส่วนมากเป็นผู้ใช้ระดับชั้นมัธยมศึกษาในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น ชลบุรี และสงขลา โดยบริการยอดนิยมอย่าง “SnapTutor ถามตอบ” เป็นบริการแรกเริ่มที่สามารถตอบโจทย์เด็กยุคใหม่ที่ต้องการบริหารเวลาไปพร้อมกับการใช้โทรศัพท์มือถือให้เกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนั้น ส่วนผสมความสำเร็จของบริษัทฯ ตลอด 2 ปีที่ผ่านมานี้ มาจากระบบการคัดเลือกติวเตอร์ที่เข้มข้น ผู้สมัครจากทั่วประเทศต้องส่งเอกสารสำคัญต่างๆ และทำแบบทดสอบวัดระดับความสามารถในการสอนเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้ทุกคนจะได้รับความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องไปพร้อมๆ กับประสบการณ์การเรียนที่ดี โดยติวเตอร์ที่ผ่านการคัดเลือกมีช่วงอายุที่แตกต่างกันตั้งแต่นักเรียนทุนจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ ไปจนถึงอาจารย์เกษียณอายุที่มีประสบการณ์การสอนกว่า 30 ปี

จากแบบอย่างความสำเร็จในประเทศไทยประกอบกับการเพิ่มทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ พร้อมเติบโตแบบก้าวกระโดดทั้งในประเทศและในเอเชียโดยตั้งเป้าขยายตลาดสู่ประเทศเวียดนาม ยิ่งไปกว่านั้นเงินลงทุนใหม่นี้ จะถูกนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใช้วิเคราะห์การเรียนรู้ด้วยตนเองให้มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น (AI) เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับการจัดหาติวเตอร์ให้เด็กนักเรียนได้อย่างเหมาะสมและรวดเร็วมากขึ้น ผนวกกับการนำข้อมูลการใช้ที่ได้รับจากนักเรียนมาประเมินศักยภาพส่วนบุคคลเพื่อให้นักเรียน โรงเรียน หรือ ผู้ปกครองนำไปต่อยอดให้กับตนเองหรือบุตรหลาน รวมไปถึงนำมาพัฒนาสื่อในรูปแบบวิดีโอสำหรับการศึกษา เพื่อยกระดับองค์ความรู้ให้ดียิ่งขึ้นไป”

“พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังทำความเข้าใจผู้ใช้อย่างลึกซึ้งเพื่อตอบรับความต้องการทางการเรียนทั้งจากผู้เรียนเองและจากผู้ปกครองโดยการจัดกิจกรรมสนับสนุนต่างๆ รวมไปถึงความร่วมมือกับโรงเรียนในประเทศอย่างสม่ำเสมอ ช่วยเตรียมความพร้อมให้นักเรียนสามารถแข่งขันเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยที่ใฝ่ฝัน และพัฒนาทักษะเฉพาะตัวเพื่อสร้างจุดแข็งในการประกอบอาชีพในอนาคต บริษัทฯ จึงนำเสนอบริการล่าสุดที่เปิดทดลองให้บริการเฉพาะในกรุงเทพฯ คือ การนัดเรียนตัวต่อตัวกับติวเตอร์ (SnapTutor ติวนอกสถานที่) ด้วยราคาที่สมเหตุสมผล โดยมุ่งหวังให้นักเรียนได้รับการเรียนรู้ที่ครบวงจร ทั้งการเรียนออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน และการเรียนออฟไลน์แบบดั้งเดิม โดยในปี 2563  บริษัทฯ วางแผนขยายฐานผู้ใช้ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมไปถึงตอบสนองความต้องการทางการเรียนรู้ที่สามารถนำไปใช้นอกห้องเรียนได้จริง ไม่ใช่เพียงวิชาสามัญอีกต่อไป” นายชวัล กล่าวเพิ่มเติม

มร.นิค แนช ผู้ร่วมก่อตั้งและหุ้นส่วนผู้จัดการของ Asia Partners หนึ่งในกลุ่มทุนใหม่ กล่าวว่า “Asia Partners มุ่งมั่นช่วยเหลือบริษัทด้านเทคโนโลยีเกิดใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ต้องการเงินทุนเพื่อต่อยอดความสำเร็จ โดย Snapask นับเป็นแบบอย่างที่ชัดเจนของคำว่า ‘Rhinos Startup’ ซึ่งคือบริษัทสตาร์ทอัปที่มีสินค้าที่โดดเด่น มีสินค้าที่ตอบโจทย์กับผู้ใช้งาน พร้อมขยายสู่ตลาดอย่างรวดเร็วและเติบโตได้อย่างมั่นคง มีความสามารถในการทำกำไรที่ชัดเจน เสมือนแรดที่มีความหนักแน่นและมีนอเป็นอาวุธแนบกายที่แข็งแกร่ง พร้อมฝ่าฟันและเอาชนะทุกสิ่งกีดขวาง อีกทั้งแอปพลิเคชัน Snapask ยังเป็นการปฏิรูปครั้งใหญ่ให้กับวงการการศึกษา เน้นย้ำความเป็นผู้นำในตลาดเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาของเอเชียโดยส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยตนเอง เราจึงพร้อมที่จะให้การสนับสนุน Snapask ในด้านเงินทุนเพื่อทำการขยายตลาดและพัฒนาระบบเพื่อผู้ใช้งาน”

 

Comments

Share Tweet Line