Berkeley Lights ประกาศตั้งกลุ่มร่วมมือค้นหาแอนติบอดีสำหรับโรคอุบัติใหม่ทั่วโลก มุ่งสกัดโควิด-19 และไวรัสอื่น ๆ

ด้วยความร่วมมือกับศูนย์การแพทย์ Vanderbilt University Medical Center, สถาบัน La Jolla Institute for Immunology และมหาวิทยาลัย Emory University ขั้นตอนการลบล้างไวรัสบนแพลตฟอร์มของ Berkeley กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาให้เร็วขึ้น เพื่อจัดการกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา

วันนี้ Berkeley Lights ประกาศจัดตั้งกลุ่มความร่วมมือค้นหาแอนติบอดีสำหรับเชื้อโรคอุบัติใหม่ทั่วโลก (Global Emerging Pathogen Antibody Discovery Consortium หรือ GEPAD) ร่วมกับสมาชิกผู้ก่อตั้ง ได้แก่ ดร. James Crowe และ ดร. Robert Carnahan แห่งศูนย์การแพทย์ Vanderbilt University Medical Center, ดร. Erica Ollman Saphire แห่งสถาบัน La Jolla Institute for Immunology และ ดร. Frances Eun-Hyung Lee แห่งมหาวิทยาลัย Emory University ด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อเร่งการค้นพบแอนติบอดีลบล้างจากตัวอย่างเลือดของผู้ป่วย การนำตัวอย่างเลือดที่มีค่าและเซลล์ที่เปราะบางมาตรวจเป็นเรื่องที่ท้าทายกับเทคโนโลยีแบบดั้งเดิม ดังนั้น กลุ่มความร่วมมือนี้จะใช้แพลตฟอร์ม Beacon ของ Berkeley Lights เพื่อการค้นหาแอนติบอดี โดยใช้เลือดจากผู้ป่วยที่หายแล้วเป็นพื้นฐานสำหรับการบำบัดรักษา โดยมีโควิด-19 เป็นเป้าหมายแรก

ขณะที่นักวิจัยทั่วโลกกำลังเร่งหาลักษณะของเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 แต่ความสามารถในการคัดกรองเซลล์ B ชนิดเดี่ยวที่แสดงถึงแอนติบอดีลบล้างเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 นั้น ยังคงเป็นความท้าทายที่มีนัยสำคัญและใช้เวลานาน ในร่างกายมนุษย์มีเซลล์ B หลายพันล้านตัว ซึ่งหลังจากผู้ป่วยฟื้นตัวจากเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 แล้ว พวกเขาจะผลิตเซลล์ B จำนวนมากที่เฉพาะเจาะจงสำหรับไวรัสตัวนี้ อย่างไรก็ดี เซลล์ B บางตัวจะผลิตแอนติบอดีที่ยึดกับไวรัสเท่านั้น แต่ไม่ได้ป้องกัน ดังนั้น การค้นหาเซลล์ B พิเศษที่สามารถกำจัดหรือลบล้างเชื้อไวรัสตัวนี้ได้จึงเป็นเรื่องที่พบได้ยากอย่างยิ่ง เหมือนกับ “การงมเข็มในมหาสมุทร” เทคโนโลยีที่มีอยู่ในขณะนี้สามารถหาได้เฉพาะตัวเชื่อมประสาน (binder) ไม่ใช่ตัวลบล้าง นักวิจัยจึงจำเป็นต้องเรียงลำดับและทำให้แอนติบอดีจากเซลล์ B ที่ไม่เฉพาะเจาะจงปรากฏออกมาอีกครั้ง โดยใช้เวลาและทรัพยากรจำนวนมาก ดังนั้น ระบบ Beacon และการวิเคราะห์การลบล้างไวรัสจึงถูกออกแบบมาเพื่อจัดการกับปัญหาดังกล่าว ด้วยการคัดกรองเซลล์เดี่ยวโดยตรงเพื่อหาคุณสมบัติลบล้างในวันเดียว

เป้าหมายหลักของกลุ่ม GEPAD คือการสร้างระบบการรักษาที่รวดเร็วที่สุด เพื่อจัดการกับเชื้อโรคอุบัติใหม่ กลุ่ม GEPAD จึงขอให้ผู้ใดก็ตามที่สนใจในขั้นตอนการลบล้างไวรัส และพัฒนาเทคโนโลยีอันทันสมัยให้ก้าวหน้าขึ้น ออกมาร่วมกับพวกเขาในการสร้างแนวกำแพงป้องกันทั่วโลก เพื่อสู้กับโรคต่าง ๆ ที่มีสาเหตุมาจากเชื้อโรคอุบัติใหม่ สมาชิกจะสามารถค้นพบวิธีการรักษาที่มีศักยภาพได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้ตัวอย่างเลือดปริมาณเล็กน้อยจากผู้ป่วยที่หายแล้ว ทั้งผู้ที่อาการฉับพลันและค่อย ๆ พักฟื้น กลุ่มความร่วมมือนี้กำลังเร่งทดสอบและปรับปรุงขั้นตอนการลบล้างไวรัส โดยใช้แพลตฟอร์มของ Berkeley Lights และหวังว่าจะมีผู้ร่วมมือมากขึ้นเข้ามามีส่วนร่วมในการต่อสู้กับโรคระบาดนี้ และเตรียมตัวให้พร้อมมากขึ้นเพื่อรับมือกับโรคระบาดครั้งต่อไป

ดร.นพ. James Crowe ผู้อำนวยการศูนย์วัคซีน Vanderbilt Vaccine Center กล่าวว่า “เราได้ดำเนินการมานานเพื่อศึกษาความสามารถในการต่อต้านไวรัสของแอนติบอดีที่ได้มาจากเซลล์ B เดี่ยวในคน แต่เครื่องมือและโปรโตคอลสำหรับทำการศึกษาเหล่านี้ไม่มี ดังนั้น การร่วมมือกับ Berkeley Lights ในการพัฒนาวิธีการที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อภารกิจด้านชีววิทยาเซลล์เดียวครั้งนี้ จึงกำลังกลายเป็นจริงในขณะนี้”

“เราได้พัฒนาสื่อแห่งการอยู่รอดแบบพิเศษสำหรับพลาสมาเซลล์ และหวังใช้ประโยชน์ของสิ่งนี้เพื่อเร่งคัดเลือกเพื่อหาแอนติบอดีจากโคลนของเซลล์เดี่ยวที่เป็นเป้าหมายที่หาได้ยาก” ดร. Lee กล่าว “Berkeley Lights ร่วมกับกลุ่มความร่วมมือนี้ จะทำให้วิธีนี้เป็นความจริงขึ้นมาเพื่อแอนติบอดีลบล้างเชื้อโควิด-19 และเราหวังว่า สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์ในโรคระบาดครั้งนี้เพื่อช่วยรักษาชีวิตคน”

“บัดนี้ได้เกิดโอกาสที่จะระดมบางสิ่งได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะสามารถปกป้องเจ้าหน้าที่ด่านหน้า หรือรักษาผู้ที่ติดเชื้อแล้วได้” ดร. Saphire ชี้แจง “ขณะนี้ ยังไม่มีวัคซีน การหาภูมิคุ้มกันในทันทีโดยใช้แอนติบอดีสามารถรักษาชีวิตได้สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน หรือฉีดวัคซีนไม่ได้ หรือถ้าในท้ายที่สุด วัคซีนไม่สามารถป้องกันได้อย่างสมบูรณ์”

“โควิด-19 เป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อสุขภาพของเรา การดำเนินชีวิตของเรา และเศรษฐกิจโลก” ดร. Eric Hobbs ซีอีโอของ Berkeley Lights กล่าว “เรามีพันธกิจต่อการทำหน้าที่ในส่วนของเรา ด้วยการพัฒนาการวิเคราะห์และขั้นตอนการทำงาน ซึ่งนักวิจัยและนักพัฒนาการบำบัดรักษาสามารถนำไปใช้ เพื่อค้นหาแอนติบอดีได้อย่างรวดเร็วซึ่งมีความสำคัญต่อการรักษา”