คันนา ร่วมด้วยช่วยดับไฟป่า มอบหน้ากากอนามัย แด่ มูลนิธิกระจกเงา รวมมูลค่า 350,000 บาท

เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ทาง About PR ได้ขออาสาช่วยองค์กร ร้านอาหาร และแบรนด์ต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตครั้งนี้ในการช่วยเขียนข่าวประชาสัมพันธ์ และกระจายข่าวประชาสัมพันธ์ให้แก่สื่อมวลชน โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ .. จึงขออนุญาตฝากพิจารณาข่าวประชาสัมพันธ์ คันนา ร่วมสนับสนุนภารกิจดับไฟป่า มอบขนมเพื่อสุขภาพและหน้ากากอนามัย แด่ มูลนิธิกระจกเงา รวมมูลค่า 350,000 บาท ดังรายละเอียดต่อไปนี้

• บริษัท คันนา โกรเซอรีส์ จำกัด โดย ณชา จึงกานต์กุล มอบขนมคันนาเพื่อสุขภาพ, หน้ากาก N95 และสิ่งของจำเป็นมูลค่ารวมกว่า 350,000 บาท ให้แก่ “มูลนิธิกระจกเงา” เพื่อส่งต่อความช่วยเหลือไปยังอาสาดับไฟป่าภาคเหนือ นอกจากนี้ สิ่งของส่วนหนึ่งยังได้ส่งไปยังชุมชนในจังหวัดทางภาคเหนือที่ได้รับผลกระทบจากภัยโควิด-19 โดยครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 5 ของการบริจาคให้หน่วยงานต่างๆ “คันนา” ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจที่มุ่งหวังในการส่งไปช่วยเหลือชุมชนที่ห่างไกลในจังหวัดต่างๆ เพื่อให้ผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความยากลำบากนี้ไปด้วยกัน

• ณชา จึงกานต์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท คันนา โกรเซอรีส์ จำกัด กล่าวว่า ทาง “คันนา” ได้นำถุงยังชีพที่ภายในบรรจุขนมและอาหารแห้งเพื่อสุขภาพแบรนด์คันนาชนิดที่ให้พลังงานสูง เช่น กล้วยตากอบแห้งพร้อมทาน , มะม่วงอบแห้ง, หมูฝอย และ หน้ากาก N95 ไปมอบให้มูลนิธิกระจกเงา โดยสิ่งของเหล่านี้จะถูกส่งต่อไปมอบแด่อาสาดับไฟป่า มูลนิธิกระจกเงา สำนักงานเชียงราย ที่จนถึงวันนี้อาสากว่า 30 ชีวิตที่มารวมตัวกันจากทั่วสารทิศยังคงทำงานทุกวันเพื่อปกป้องผืนป่าของพวกเรา โดยอาหารจำพวกผลไม้แห้งนั้นเหมาะเป็นตัวช่วยในการนำติดตัวเข้าไปในพื้นที่ดับไฟป่า เพราะให้พลังงานได้อย่างรวดเร็วจะได้ไม่ต้องห่วงพะวงเรื่องอาหารการกิน

• อีกส่วนจะนำไปส่งต่อให้บางพื้นที่ในต่างจังหวัดที่หลายหน่วยงานยังเข้าไม่ถึง เพราะสุดท้ายสิ่งที่จะทำให้สังคมเดินต่อไปได้ไม่ใช่แค่การออกมาตรการของรัฐบาล แต่สังคมเราประกอบด้วยภาคส่วนเล็กๆ ชุมชน อำเภอ จนถึงภาคใหญ่ของแต่ละจังหวัด จึงต้องมีความเข้มแข็งเพียงพอที่จะพาพื้นที่ของตัวเองจับมือก้าวไปด้วยกันจนกว่าจะผ่านวิกฤต บางครั้งเม็ดเงินอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ แต่เป็นเรื่องของ “กำลังกายกำลังใจ” สุขภาพ สุขภาวะขั้นพื้นฐานของแต่ละชุมชนต้องมีกำลังเพียงพอในการต่อสู้ด้วย เมื่อใดที่คนเราเข้มแข็งก็มีแรงเพียงพอที่จะสู้ต่อ และส่งต่อไปยังชุมชน หรือ หมู่บ้านใกล้เคียง สุดท้ายเราจะเห็นได้ว่า “ประเทศไทยไม่ได้เข้มแข็งแค่ระบบสาธารณะสุข แต่ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยน้ำใจที่สร้างเป็นพลังเชิงบวกให้กับคนทุกคน”

• “คันนามุ่งหวังว่าในช่วงวิกฤตเราจะเป็นแบรนด์ที่ขออยู่เคียงข้างชุมชน ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นลูกค้าเราหรือไม่ก็ตาม เราจะต่อสู้และส่งพลังไปด้วยกัน เมื่อโควิดหายเราค่อยมาคิดกันว่าจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นได้อย่างไร และในภาวะวิกฤตเราไม่ได้มุ่งหวังแต่กำไร เพราะเรารู้สึกว่า “กำไร” ของเราในช่วงเวลานี้คือ การทำให้ทุกคนเดินข้างๆ กันไปให้ตลอดรอดฝั่งจนเจอแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ให้ได้” ณชา กล่าวทิ้งท้าย