องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกพร้อมยื่นหมื่นรายชื่อยุติการผสมพันธุ์เสือในกรงเลี้ยง

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกพร้อมยื่นหมื่นรายชื่อยุติการผสมพันธุ์เสือในกรงเลี้ยง

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกเปิดเผยว่าได้รวบรวมรายชื่อผู้สนับสนุนแก้ไข พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า เพื่อให้ครอบคลุมการยุติการผสมพันธุ์เสือในกรงเลี้ยงเกิน 10,000 รายชื่อแล้ว พร้อมยื่นให้รัฐสภาพิจารณาเร็วๆ นี้ หลังจากที่ยื่นริเริ่มเสนอแก้ไขกฎหมายไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยได้รับแรงสนับสนุนจากภาคประชาสังคมและประชาชนทั่วไปมากมาย


นายปัญจเดช สิงห์โท ที่ปรึกษาด้านนโยบาย องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย กล่าวว่า “การผสมพันธุ์เสือในกรงเลี้ยงในประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ทางการค้าโดยการป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เห็นได้จากการนำเสือมาให้นักท่องเที่ยวถ่ายเซลฟี่ ป้อนอาหาร หรือเอามาฝึกแสดงโชว์ ซึ่งสร้างความทุกข์ทรมานให้กับเสือมากมายตลอดชีวิตของพวกมัน สภาพความเป็นอยู่ในสถานที่เหล่านี้ก็คับแคบ หลายตัวถูกล่ามโซ่ และควบคุมด้วยอุปกรณ์สร้างความเจ็บปวด  ขาดอิสรภาพและไม่มีโอกาสได้แสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติของพวกมัน”

องค์กรฯ ยืนยันด้วยว่าการผสมพันธุ์เสือในกรงเลี้ยงไม่มีประโยชน์ด้านการอนุรักษ์หรือพัฒนาสายพันธุ์ตามที่คนบางกลุ่มอ้างแต่อย่างใด เพราะเสือที่ถูกผสมพันธุ์เพื่อการท่องเที่ยวและความบันเทิงส่วนใหญ่ไม่ใช่สายพันธุ์ท้องถิ่นของไทย จึงไม่สามารถปล่อยสู่ป่าไทยได้ นอกจากนี้ ยังเป็นการผสมพันธ์แบบเลือดชิดส่งผลให้เสือที่ถูกผลิตออกมามีโอกาสมีร่างกายไม่สมบูรณ์ พิการ หรืออายุสั้นมากกว่าเสือตามธรรมชาติ 

นอกจากนี้ การผสมพันธุ์เสือยังเป็นช่องโหว่ที่อาจทำให้เกิดการค้าชิ้นส่วนเสือแบบผิดกฎหมายได้ด้วย นายปัญจเดชกล่าวว่า  “แม้จะยังไม่มีหลักฐานชัดเจนกับการผสมพันธุ์ในสถานที่เหล่านี้เพื่อการค้า แต่สามารถสันนิษฐานได้ว่านอกจากการผสมพันธุ์เสือเพื่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและความบันเทิงแล้วเสือที่เสียชีวิตอาจถูกนำชิ้นส่วนไปขายด้วย เช่น การทำยาแผนโบราณ เครื่องประดับราคาแพง เป็นต้น”

ปัจจุบัน ประเทศไทยมีเสือในกรงเลี้ยงราว 1,500 ตัว โดยในสถานที่ที่จัดแสดงโชว์เสือเพื่อความบันเทิงแห่งหนึ่งมีเสือมากถึง 400 ตัว และมีลูกเสือเกิดใหม่อยู่เป็นประจำ แม้ว่าการผสมพันธุ์เสือเพื่อการค้าจะอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) ซึ่งเมื่อปี พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมา คณะกรรมการ CITES ได้มีหนังสือแจ้งเตือนมายังรัฐบาลไทยให้ควบคุมปริมาณเสือในกรงเลี้ยง เนื่องจากมีจำนวนมากเกินความจำเป็น และอาจเกิดการลักลอบค้าชิ้นส่วนอย่างผิดกฎหมายได้ 

ทั้งนี้ การเรียกร้องยุติการยุติผสมพันธุ์เสือในกรงเลี้ยงในครั้งนี้ไม่รวมถึงการผสม พันธุ์เพื่อการอนุรักษ์ เช่น การผสมพันธุ์เสือสายพันธุ์ถิ่นโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สวนสัตว์ของรัฐ หรือหน่วยงานวิจัยอื่นๆ ที่น่าเชื่อถือ 

การเรียกร้องยุติการผสมพันธุ์เสือในกรงเลี้ยงอยู่ภายใต้โครงการสัตว์ป่าไม่ใช่นักแสดง (Wildlife. Not Entertainers.) ขององค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก เป็นการรณรงค์ให้ต่อต้านการนำสัตว์ป่ามาหาประโยชน์ทางธุรกิจทั่วโลก โดยเฉพาะในกรณีที่เป็นการสร้างความทุกข์ทรมานให้กับสัตว์ป่าเหล่านั้น ตั้งแต่เสือ ช้าง ลิง หมี โลมา และอื่นๆ

โดยเน้นย้ำจุดยืนสำคัญว่าสัตว์ป่าไม่ใช่สินค้าหรือเครื่องมือหาเงินของคน พวกมันสมควรจะได้อยู่ในป่า และมีโอกาสใช้ชีวิตตามธรรมชาติอย่างอิสระ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกได้ที่ www.worldanimalprotection.or.th

REALATED NEWS

Comments

Share Tweet Line