โตโน่ ยันมีหลักฐานบริจาคเงินให้ ฌอน จริง หวังไม่เป็นอย่างข่าว ยังไม่คิดแจ้งความ

โตโน่ ภาคิณ ชี้แจงหลังโดนโยงดราม่า”ฌอน” บอกขอพูดเรื่องของผมที่บางคนสงสัยว่าเราบริจาคจริงหรือเปล่า ยันบริจาคจริงๆมีหลักฐาน เราโอนผ่านเข้าบัญชีส่วนตัวอีกฝ่าย ไม่ได้ตกใจหลังเห็นข่าวเพราะอยากให้หลักฐานชัดเจนกว่านี้ก่อนจะคิดไปเอง ไม่อยากใจร้อนตัดสินใคร แต่หากเขาเอาที่เราบริจาคไปใช้เองคงเสียความรู้สึก แต่ตอนนี้ก็ยังหวังใจว่าเขาจะไม่เป็นอย่างข่าว ยันไม่ได้แนะนำให้เขาเปิดบัญชีเป็นชื่อตัวเอง แต่ผมแค่โอนเข้าไปบัญชีเขา และให้ไปใช้ประโยชน์ต่อ มองไม่ใช่ปัญหาใหญ่เรื่องบัญชีส่วนตัว แต่อยู่ที่สถานการณ์ ยันตอนนี้ยังไม่คิดแจ้งความ แต่ถ้าเอาไปใช้เพื่อตัวเองจริง ๆ ผิดก็ว่าไปตามผิด รับรู้จักกับเขาเป็นการส่วนตัวจากโครงการเก็บรักษ์ เรื่องทำไมฌอนไม่ออกมาพูด ผมตอบแทนไม่ได้ คิดว่าคงเป็นเรื่องใหญ่ของเขา ที่ไม่ถามเพราะรอให้เขามาชี้แจงเอง ในฐานะคนที่เคยทำเกี่ยวกับเรื่องบริจาค ฝากบอกหลายคนที่หมดศรัทธาในเรื่องนี้ว่า ตนตอบแทนคนอื่นไม่ได้แต่ตนจะทำต่อไป

กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียลอยู่หลายวัน สำหรับไลฟ์โค้ชชื่อดัง “ฌอน บูรณะหิรัญ” โดนดราม่าแฉปมเงินบริจาคช่วยไฟป่าที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีนักแสดงหนุ่มโตโน่ ภาคิณ ร่วมบริจาคด้วยเป็นจำนวนเงินหนึ่งแสนบาท งานนี้เลยไม่วายถูกสงสัยว่าเจ้าตัวบริจาคเงินจริงหรือเปล่า ล่าสุดหนุ่มโตโน่ก็ไม่ยิ่งดูดายออกมาแถงข่าวชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “ขอพูดเรื่องของผมที่บางคนสงสัยว่าเราบริจาคจริงหรือเปล่า ยันบริจาคจริงๆมีหลักฐานการโอน จริงๆเราอยากไปด้วยเองแต่เพราะเป็นช่วงโควิทเลยข้ามจังหวัดไม่ได้ และเราก็เห็นฌอนโพสต์เรื่องนี้เรารู้จักกันเลยบริจาคผ่านเข้าบัญชีส่วนตัวอีกฝ่าย ยังไม่ได้ตกใจหลังเห็นข่าวเพราะอยากให้หลักฐานชัดเจนกว่านี้ก่อนจะคิดไปเอง ไม่อยากใจร้อนตัดสินใคร รับได้คุยกับอีกฝ่ายแต่ไม่ใช่เรื่องเงินเป็นเรื่องปลูกต้นไม้ ด้วยความเป็นห่วงตามประสาเพื่อน ตนรู้จักกับเขาจากปีที่แล้วเขาไดเรกมาหาเราว่าอยากมาช่วยโครงการเก็บรักษ์ พอเราไปเก็บขยะที่เชียงใหม่เขาก็มาช่วยเลยรู้จักกัน และได้ไปสัมภาษณ์กับเขาในรายการต่อ 

ถามว่าเสียความรู้สึกไหมก็ถ้าหากเขาเอาเงินที่เราบริจาคไปช่วยคนเชียงใหม่กลายเป็นเอาไปใช้เองจริงๆผมคงเสียความรู้สึก แต่ตอนนี้เขายังไม่ได้เอาหลักฐานออกม่ชี้แจงเลย ผมก็ยังหวังใจว่าเขาจะไม่เป็นอย่างข่าว แจงที่บอกว่าเราแนะนำให้เขาเปิดบัญชีโอนเงินเป็นชื่อตัวเอง คือผมบอกว่าถ้าผมจะช่วยผมโอนเข้าไปบัญชีฌอนเลย และฌอนเอาไปทำให้เกิดประโยชน์ แต่เขาไปเปิดเป็นชื่ออะไรก็ได้ มองไม่ใช่ปัญหาใหญ่เรื่องบัญชีส่วนตัวแต่อยู่ที่สถานการณ์ หากเราทำถูก ไม่โกง ก็ไม่เป็นไรเพราะถ้าเราบริสุทธิ์ใจจริงๆก็ไม่มีอะไรต้องกลัว อย่างตอนนั้นมันรอไม่ได้ สิ่งสำคัญคือเจตนา ตอนนี้ยังไม่คิดแจ้งความ แต่ถ้าเขาเอาเงินไปทำเผื่อตัวเองจริงๆผิดก็ว่าไปตามผิด ต่อให้เป็นใครทำผิดก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เขาทำแต่เพื่อนก็ยังคงเป็นเพื่อนผมเหมือนเดิม ไม่เลิกคบ เรื่องทำไมฌอนไม่ออกมาพูดต้องไปถามเขา เราตอบแทนไม่ได้ คิดว่าคงเป็นเรื่องใหญ่ของเขา และที่ไม่ถามเพราะรอให้เขามาชี้แจงเอง รับตอนเห็นข่าวก็มีคิดว่าอย่าให้เป็นจริงๆนะ ไม่รู้ข่าวลือที่บอกเขาไม่อยู่เมืองไทยแล้ว เพราะตนก็ทำงาน สุดท้ายในฐานะคนที่เคยทำเกี่ยวกับเรื่องบริจาคฝากบอกหลายคนที่หมดศรัทธาในเรื่องนี่ว่า ตนตอบแทนคนอื่นไม่ได้แต่ตนจะทำต่อไปหากสงสัยก็มาตรวจมาดูผมได้ ไม่หมดกำลังใจ มองว่ายิ่งเจอปัญหายิ่งต้องช่วยกัน”