Around Town

ระวัง ‘ข้อเท้าพลิก’ เรื่องที่อาจพลิกชีวิตคุณไปตลอดกาล

1 Mins read

คนส่วนใหญ่คงเคยประสบกับปัญหา ‘ข้อเท้าพลิก’ มาอย่างน้อยสักครั้งในชีวิต เพราะอาการข้อเท้าพลิกสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกวัย ทุกเวลา โดยส่วนใหญ่มักเกิดจากการไม่ทันระวังตัว หลายๆ คนก็อาจจะไม่ได้รับผลกระทบที่รุนแรงมากนัก แต่หลายๆ คนก็เจอผลกระทบขั้นรุนแรงที่ส่งผลถึงการใช้ชีวิตประจำวันไปตลอดเลยก็ได้ ดังนั้น วันนี้เราจึงอยากชวนให้ทุกคนทำความเข้าใจถึงปัญหาข้อเท้าพลิกให้ลึกลงอีกหน่อย เพราะอาการข้อเท้าพลิกธรรมดาๆ นั้นสามารถพลิกชีวิตของคนๆ หนึ่งไปตลอดกาลเลยก็ว่าได้  

สาเหตุของอาการ ข้อเท้าพลิก โดยทั่วไป

ก่อนอื่นเรามาดูถึงสาเหตุของข้อเท้าพลิก อาการข้อเท้าพลิกนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ง่ายๆ จากการใช้ชีวิตปกติประจำวัน และมักพบเห็นบ่อยจากการเดินการสะดุดจนข้อเท้าพลิก โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่ขรุขระ มีผิวต่างระดับ หลายคนมีปัญหาจากการออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง การเตะบอล การเล่นบาสเกตบอล รวมถึงการเล่นกีฬาประเภทอื่นๆ ที่ใช้การเดิน การวิ่ง หรือการกระโดด โดยส่วนใหญ่แล้วอาการข้อเท้าพลิกมักจะมีการกระแทกร่วมด้วย ทำให้เกิดการอักเสบฉีกขาดของเส้นเอ็นข้อเท้า และเกิดอาการปวดบวมฟกช้ำ บ้างก็สามารถสังเกตเห็นเป็นก้อนนูนบริเวณข้อเท้าได้ชัดเจน 

อีกหนึ่งสาเหตุที่พบบ่อยมักเกิดจากใส่รองเท้าส้นสูงหรือรองเท้าส้นแคบแล้วก้าวพลาดทำให้ข้อเท้าพลิก แต่โดยมากจะไม่ค่อยมีอาการรุนแรงนักหากไม่ได้มีปัจจัยอื่นเสริมเช่น ถูกชนจนล้ม เป็นต้น

ข้อเท้าพลิกแบบไหนไม่ควรนิ่งนอนใจ

อย่างที่กล่าวไป ข้อเท้าพลิกเป็นปัญหาที่มักเกิดขึ้นบ่อยครั้งและส่วนใหญ่มักไม่พบอาการบาดเจ็บที่รุนแรง ทำให้คนส่วนมากมองข้ามอันตรายและผลกระทบที่อาจแฝงมาในระยะยาว ดังนั้นในทุกๆ ครั้งที่มีอุบัติเหตุข้อเท้าพลิก เราจึงควรสังเกต และแยกแยะอาการเหล่านี้ ให้ได้อย่างถูกต้อง ว่าระดับไหนที่ควรต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจโดยละเอียดต่อไป ซึ่งโดยทั่วไปอาจแบ่งออกได้ 3 ระดับ

  1. ระดับไม่รุนแรง หากเจอเหตุการณ์ข้อเท้าพลิก หรือมีอาการเจ็บข้อเท้าโดยที่ไม่ได้เกิดจากสาเหตุรุนแรง เช่นการล้มลง การตกจากที่สูงและมีการกระแทก โดยส่วนมากแล้วอาการปวดควรจะค่อยๆ ดีขึ้นภายในเวลา 1-2 สัปดาห์  
  • ระดับที่มีผลกระทบในระยะสั้น ระดับนี้จะแบ่งแยกชัดถึงอาการบาดเจ็บและผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นหลังมีการ ข้อเท้าพลิก  ซึ่งบางรายจะพบว่า ข้อเท้าบวมมากทันทีหลังจากพลิก มีอาการปวดปานกลาง อาจจะไม่สามารถลงน้ำหนักเท้าข้างที่บาดเจ็บได้เป็นการชั่วคราว ซึ่งหากได้รับการปฐมพยาบาลอย่างถูกวิธีและมีการพักการใช้งานชั่วคราว โดยมากอาการควรทุเลาลง และไม่ควรมีอาการหลงเหลือ นานกว่า 1 เดือน
  • ระดับที่รุนแรงและอาจส่งผลกระทบในระยะยาว ในระดับนี้ ส่วนมากจะเกิดจากสาเหตุ ข้อเท้าพลิกจาก อุบัติเหตุที่รุนแรง ไม่ว่าจะเป็นจากการเล่นกีฬา การออกกำลังกาย การประสบอุบัติเหตุโดนชนอย่างรุนแรง ทำให้เกิด อาการปวด บวม อักเสบ ข้อเท้าอาจผิดรูปอย่างเห็นได้ชัด  ซึ่งควรมีการเข้าพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อที่จะทำการตรวจร่างกายวินิจฉัย เพื่อตรวจดูอาการโดยละเอียด รวมถึงการให้คำแนะนำในการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม ซึ่งบ่อยครั้งต้องมีการตรวจเอกซเรย์ หรือ MRI เพื่อให้แพทย์มีข้อมูลที่แม่นยำในการวินิจฉัย และทำการรักษาให้ตรงสาเหตุ ซึ่งจะเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดอาการเรื้อรัง จนอาจลุกลามถึงขั้นที่เกิดภาวะข้อเท้าไม่มั่นคงหรือภาวะข้อเท้าเสื่อมในอนาคตได้

อย่ารอให้ข้อเท้าพลิกบ่อยๆ เพราะไม่รู้ว่า พลิกครั้งหน้าอาจพลิกชีวิตคุณไปตลอดกาล

แน่นอนว่าคงไม่มีใครอยากข้อเท้าพลิก และส่วนมากจะมาในรูปแบบที่ไม่ทันคาดคิด แต่อย่างไรก็ดี ข้างล่างนี้เป็นคำแนะนำที่คุณสามารถนำไปปรับใช้ได้ เพื่อลดโอกาสและความเสี่ยงในการเกิดข้อเท้าพลิกอย่างเห็นผล

  • การเลือกใส่รองเท้าที่ถูกสุขลักษณะ เหมาะกับขนาดและรูปเท้าของตัวเอง ควรเป็นรองเท้าที่มีส้นกว้างและไม่สูงเกินไป อาทิ รองเท้าออกกำลังกายหรือรองเท้ากีฬา หรือรองเท้าหนังส้นเตี้ย
  • ควรบริหารเส้นเอ็นด้านข้างข้อเท้าอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะก่อนการออกกำลังกายหรือการเดินมากๆ  เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของข้อเท้าด้านข้าง ลดโอกาสในการเกิดข้อเท้าพลิก
  • ใช้อุปกรณ์เสริมสนับข้อเท้า โดยเฉพาะสำหรับคนที่เคยมีประวัติข้อเท้าพลิกมาแล้ว เพื่อช่วยพยุงเสริมความมั่นคงเอาไว้ในขณะทำกิจกรรม

และทั้งหมดนี้คือเรื่องราวเกี่ยวกับอาการข้อเท้าพลิก ที่หลายคนมักคิดว่า นิดเดียว เดี๋ยวก็หาย แต่ในบางครั้งอาจรู้สึกเจ็บลึก เจ็บนาน เกิดอาการข้อเท้าบวมเรื้อรัง จนกลายเป็นสาเหตุในการบั่นทอนคุณภาพชีวิตของคุณได้  ซึ่งหวังว่าคำแนะนำที่ให้นี้จะช่วยคุณให้สามารถแยกแยะอาการเหล่านี้ได้ และไม่มองข้ามความปลอดภัยในระยะยาว