เรื่องย่อละคร

มนต์รักหนองผักกะแยง

1 Mins read

มนต์รักหนองผักกะแยง

บทประพันธ์/บทโทรทัศน์               ช.เรเชล

กำกับการแสดง                                 คุณพงษ์พัฒน์           วชิรบรรจง

ผลิตในนาม                                        บริษัท ดูเอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด

ผู้ควบคุมการดำเนินการ                  คุณเอกนรี                  วชิรบรรจง

เรื่องย่อ

            บ้านหนองกะแยงเป็นหมู่บ้านขนาดย่อมอยู่ในภาคอีสานในหมู่บ้านมีหนองน้ำหลายหนองกระจาย

อยู่รอบหมู่บ้านมีผักกะแยงรสเผ็ดกลิ่นร้อนแรงผักโปรดของชาวอีสานบ้านเฮา ขึ้นอยู่ริมหนอง ให้ชาวบ้าน ได้เก็บไปแกง ไปแซ่บได้ตลอดปี ทำให้เป็นที่มาของชื่อหมู่บ้าน

            ธรากร หรือ “เขียว”มีคู่หูคู่ปรับอยู่ข้างบ้าน ชื่อเด็กหญิงชมพู่ ทั้งสองเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก   แต่พอโตขึ้น เขียวย้ายไปเรียนที่กรุงเทพฯ ทำให้ทั้งสองตั้งแยกจากกัน  จากที่เคยเป็นนักเรียนยอดนิยม นักกีฬาตัวเด่นเขียวกลายเป็นไอ้บ้านนอก  ไอ้ลาวเด็กอีสาน   พูดไทยไม่ชัดโดนเพื่อนร่วมชั้น  นอกชั้น

มนต์รักหนองผักกะแยง 65 1

กลั่นแกล้งสารพัด  กลายเป็นตัวตลกในโรงเรียน  ธรากรสติแตก  โทษว่าเป็นความผิดยายที่เป็นคนอีสาน

ทำให้ตัวเองต้องโดนเพื่อนแกล้ง ไม่มีใครยอมรับแบบนี้ ประกาศกร้าวว่าจะไม่กลับไปบ้านหนองกะแยงอีก ยายเพียร เสียใจมากแต่ไม่โกรธโทษหลานรัก ตรงกันข้ามกลับเป็นห่วงหลานอย่างสุดหัวใจ          ธรากรฝึกพูด

ภาษาไทยจนชัดโดยที่ไม่มีสำเนียงอีสาน ได้กลับมาเป็นหนุ่มป๊อปปูล่าร์อีกครั้งหนึ่ง          มันคือชีวิตที่เริ่ดเลอ

เพอร์เฟคของหนุ่มวัยรุ่น

            ชมพู่จบม.6สอบติดคณะเกษตรที่มหาวิทยาลัยประจำจังหวัด ส่วนเขียวได้เข้าเรียน คณะนิเทศศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยชื่อดังในกรุงเทพ  วันรับปริญญาของเขียว  ชมพู่เดินทางเข้ากรุงเทพ เพื่อมาแสดงความยินดี แต่เขาทำเมิน ดูถูกว่าชมพู่เป็นเด็กบ้านนอก ไม่ได้สนิทกัน มาทำไม ชมพู่โกรธและเสียใจมาก

พอเรียนจบ ชมพู่ได้งานเป็นเจ้าหน้าที่เกษตรประจำจังหวัด และภายหลังตัดสินใจลาออกมาลงมือทำ ไร่แบ่งฝันปันรัก ไร่อินทรีย์ สอนและช่วยเหลือชาวบ้านหนองกะแยง ดูแลพ่อและแม่อย่างมีความสุข

ส่วนเขียวพอเรียนจบ ก็ได้งานเป็นผู้กำกับละครตั้งแต่อายุยังน้อย ได้แฟนชื่ออลิซ เป็นนางร้าย เขียวรักมาก หลงมาก รับงานที่ผ่านเข้ามาทำงานหามรุ่งหามค่ำ เพื่อผ่อนคอนโด หลักหลายล้าน ที่ทำสัญญาซื้อ ในชื่อของอลิซ ตั้งใจจะใช้เป็นเรือนหอ และใช้สู่ขอแฟนสาว  ระหว่างที่เขียวกำลังฝันหวาน  อลิซก็นำโฉนดไปแล้ว  เท่านั้นยังไม่พอ อลิซประกาศแต่งงานกับชายอื่น แบบสายฟ้าแล่บ  เขียวช็อกแทบบ้า  เงินไม่เหลือ ติดต่ออลิซไม่ได้ สุดท้ายเขียวจึงจำใจ กลับบ้านหนองกะแยงในที่สุด

            เขียวมาถึงบ้านหนองกะแยงวันงานบุญของหมู่บ้าน โดยมีชมพู่ขับรถมารรับ ปิดหน้าปิดตาจนเขียวจำไม่ได้  ที่สำคัญ กว่าจะกลับถึงบ้าน ก็ต้องพบกับเรื่องราวมากมาย เกินบรรยาย  จนเขียวถึงกับร้องไห้ออกมา ทั้งยายเพียร  มานิต พิไล น้าพิลา  ต่างดีใจที่เขียวกลับมาบ้าน    แต่เขียวกลับมองว่า หากวันหนึ่ง เขาขายที่ดิน ซึ่งเป็นสมบัติของครอบครัวได้เมื่อไหร่ จะหอบเงินกลับไปตั้งหลักที่กรุงเทพฯให้ได้

            ชมพู่มาเช่าที่ดินของยายเพียร เพื่อทำไร่เกษตรอินทรีย์ มีชื่อว่า “ไร่แบ่งฝัน ปันรัก”  ไร่อินทรีย์แห่งนี้มีการจัดสรรพื้นที่ให้มีการทำนา ปลูกผักหมุนเวียน ปลูกผลไม้หลายชนิด ที่ผลัดกัน ออกผลผลิตครบทุกฤดู เลี้ยงไก่อินทรีย์ เลี้ยงไส้เดือน ใช้ปุ๋ยมูลสัตว์ ปุ๋ยหมักเศษอาหาร และน้ำหมักชีวภาพ ไร่นี้ไม่มีลูกจ้าง อาศัยแรงงานอาสาสมัครชาวบ้าน ครูและนักเรียน มีการตอบแทนแรงงานด้วยตะกร้าอาหาร ผลผลิตจากไร่ อาสาสมัครตัวหลักประจำไร่ คือ ครูริช ครูอาสาชาวอเมริกัน สอนภาษาอังกฤษ ณ รร.บ้านหนองกะแยง หนุ่มรูปหล่อ นิสัยดี เป็นคนติดดิน พูดอีสานได้ ชอบวัฒนธรรม อาหารอีสาน แถมยังชอบสาวอีสานที่ชื่อชมพู่อีกด้วย

            ชมพู่เปิดตัวว่าเป็นเจ้าของโครงการไร่ เขียวเจรจาขอให้เธอยกเลิกสัญญา ชมพู่จึงมีข้อแม้ ให้เขียวเรียนรู้เรื่องการทำเกษตร จนครบทุกด่านเสียก่อน  แล้วเธอจะยอมคืนไร่แบ่งฝันปันรักให้   การกลับมาครั้งนี้ เขียวได้พบกับเพื่อนเก่าอย่างยอด  และส้มแป้น  ซึ่งตอนนี้ยอด กลายเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว   หลังจากที่กระเจี๊ยบ เมียของเขาทิ้งไปมีสามีใหม่ ส่วนส้มแป้น ก็เปิดร้านขายส้มตำ เลี้ยงดูลูกสาวฝาแฝดสองคน เพราะสามีเอาแต่กินเหล้า  และติดการพนัน จนต้องแยกทางกัน

            ถึงแม้เขียวจะไม่เต็มใจ ทำงานในไร่นัก  แต่กาลเวลา  ก็ทำให้เขาเกิดความรัก ความผูกพันกับบ้านเกิดอีกครั้ง  ความสัมพันธ์อันเอื้อเฟื้อ มีจิตใจอันงดงามของผู้คนที่บ้านหนองผักกะแยง ทำให้เขียวเริ่มเปลี่ยนไป   เขียวเริ่มเรียนรู้วิถีชีวิตที่แท้  ทั้งเรื่องการทำนาข้าวอินทรีย์  การเลี้ยงใส้เดือน  การปลูกผักอินทรีย์  การทำน้ำส้มควันไม้  การเลี้ยงไก่อารมณ์ดี การทำน้ำหมักหลากสูตร  อีกทั้งประเพณีของชาวอีสานอีกต่าง ๆ มากมาย  ที่แสดงถึงความรักสามัคคีที่มีต่อกัน

            จากคนที่ไม่อยากพูดภาษาอีสาน  เขียวกลับมาพูดภาษาอีสานอีกครั้ง อย่างภาคภูมิใจ ส่วนครูริช ก็ยังคงหลงรักชมพู่  โดยไม่ได้หันไปมองครูน้ำฝนเลย ว่าเธอเอง ก็รักและหวังดีต่อครูริชเช่นเดียวกัน    เขียวเริ่มตัดใจจากคนรักเก่าได้แล้ว   และเริ่มรู้ตัวว่าหลงรักชมพู่เข้าให้แล้ว   ทั้งพิลา พิไล ยายน้อย มานิต สมศักดิ์  ต่างเชียร์ให้ชมพู่และเขียวรักกัน   เขียวเห็นว่าชมพู่สนิทสนมกับครูริชมาก ก็ลังเล  และนึกน้อยใจ   โดยที่ไม่มีใครรู้เลย ว่าชมพู่นั้น  รักเขียวมาตั้งแต่วัยเด็ก   และหัวใจของเธอก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง รอคอยวันที่เขียว จะกลับมาที่บ้านหนองกะแยงอีกครั้ง

            ครูริชได้รับรู้หัวใจของชมพู่ในที่สุด  ว่าทั้งสี่ห้องของเธอ  มีแต่เขียวเพียงคนเดียวเท่านั้น  ครูน้ำฝน ปลอบใจครูริช   จนทำให้ครูริชใจอ่อน ยอมเปิดใจให้กับครูน้ำฝน ส่วนยอดและส้มแป้น ก็มาช่วยงานที่ไร่แบ่งฝันปันรักเสมอ   หัวใจที่เคยอ้างว้าง ผิดหวัง  ของทั้งสองคน  ต่างเติมเต็มซึ่งกันและกัน ทำให้ทั้งสองครอบครัว หล่อหลอมหัวใจเป็นหนึ่งเดียว

            รวงข้าวในนาเริ่มตั้งท้อง มองไกลๆเห็นเมล็ดข้าวสีเขียว สีเหลืองอ่อน สลับกับสีทองระยิบระยับ แล้ววันหนึ่ง มอส ก็ยกกองถ่ายทำ มาที่บ้านหนองกะแยง โดยมีอลิซมาด้วย  อลิซเลิกกับสามีแล้ว และตามกลับมาขอคืนดีกับเขียว   เขียวสับสนว่าจะเลือกทางไหน  ส่วนชมพู่ก็ร้องไห้เสียใจ   ยิ่งเมื่อยายเพียรและครอบครัว รู้ความจริง ว่าเขียวจะขายที่ ทำให้ทุกคนผิดหวัง เสียใจมาก   ชมพู่คืนสัญญา การเช่าไร่แบ่งฝันปันรักให้ แล้วเดินจากเขียวไปแบบหัวใจสลาย

มนต์รักหนองผักกะแยง 7

            สุดท้ายเขียวจะทำเช่นไร   เขาจะเลือกกลับไปใช้ชีวิตหรูหราที่กรุงเทพฯ กับคนรักเก่า หรือจะใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านหนองกะแยง ที่ไร่แบ่งฝันปันรักแห่งนี้   ติดตามกันต่อไป

หนุ่มวายสาววายไม่อยากพลาดความเคลื่อนไหวคลับYเพิ่มเพื่อน หมวดซี่รี่ย์Y https://lin.ee/lBAOXiY
คอละคร!ห้ามพลาดเกาะติดความเคลื่อนไหวเพิ่มเพื่อน หมวดละคร https://lin.ee/GMiL8hx