รายการโทรทัศน์

ชีวิตนี้ไม่เคยคบซ้อน เคลลี่ ธนะพัฒน์ พร้อมขอยกให้ความรักที่ผ่านมาทุกครั้งนับว่าเป็นของขวัญที่สอนให้มีประสบการณ์

1 Mins read

ลักกี้อินเกมส์เป็นที่สุด ณ เวลานี้สำหรับ เคลลี่ ธนะพัฒน์ ที่ถึงแม้จะไม่ได้ลักกี้อินเลิฟสุขสมหวังก็ไม่เป็นไร เมื่อได้มาแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการClub Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 หนุ่มเคลลี่ ก็ได้เปิดใจหมดทุกเรื่องในชีวิตตั้งแต่ที่เริ่มมีความรักก็จะจบลงเมื่อคบ 4 ปี แต่สำหรับทุกความรักกับทุกคนที่ได้คบตัวเองไม่เคยคิดจะเลิกเลยเพราะเมื่อรักใครก็อยากจะรักคนคนนั้นไปให้ตลอด แต่เมื่อเราไม่ใช่สำหรับเขาเราก็ต้องทำใจพร้อมขอยกให้ความรักที่ผ่านมาทุกครั้งนับว่าเป็นของขวัญที่สอนให้มีประสบการณ์แต่ยังกลัวที่จะมีรักครั้งใหม่ และเปิดความลับทิ้งอาชีพหมอมาเป็นพระเอก 

ภาพ บรรยากาศในรายการ 1 1

เคลลี่ ธนะพัฒน์ ตอนจบปริญญาตรีจบชีวเคมีว่าเราจะไปเรียนต่อ แต่ตอนนั้นมันก็เริ่มมีความคิดแล้วว่าเราจะเรียนต่อเป็นหมอดีไหม เหมาะกับเราไหม ถ้าเป็นหมอผมต้องเรียนต่ออีก 6 ปี ต้อง Intern ต้องนี่นั่น กว่าจะจบเป็นหมออีก 10 ปี อุ๊ย !! อีก 10 ปีก็มีครอบครัวไม่ได้ ไม่ได้แต่งงาน 10 ปี มันนานมากมันนานไปไหม โห … ใครจะไปรู้ว่าเป็นนักแสดงนี่นานกว่าอีก 20 ปี ตอนนั้นก็เริ่มลังเลแล้วผมเป็นคนเซนซิทีฟผมเลยมองว่า ถ้าผมเป็นหมอแล้วคนไข้เกิดเสียชีวิตต่อหน้าผม ผมจะเอากลับไปคิดเอางานกลับไปที่บ้านจะเครียดกับมัน ก็เลยมีความคิดที่จะลังเลในการเรียนต่อเรื่องการเรียนต่ออยากเป็นหมอ ก็เป็นช่วงจังหวะที่เรากลับมาเมืองไทยเที่ยวกับเพื่อนที่ชื่อ โทมัส กะมาอยู่ 10 วัน เอากระเป๋ามาสองใบคือ ใบหนึ่งก็ใส่ของใช้ส่วนตัวของเรา อีกใบก็ของฝาก ก็จาก 10วันจนทุกวันนี้ก็คือ 23 ปีแล้วครับ ผมได้กลับไปที่โน้นประมาณ 2 ครั้ง 

ถาม ที่มาที่เมืองไทยเราไม่ได้แพลนที่จะมาอยู่ แต่จะมาเที่ยวเท่านั้น อะไรที่ทำให้เปลี่ยนใจอย่างยิ่งใหญ่ขนาดนั้น

เคลลี่ ธนะพัฒน์ ด้วยหลายอย่างคืออาจจะแสงสีแสงด้วย คือ ผมอยู่ลอสแอนเจลิสเป็นเมืองใหญ่ก็จริง แต่ก็จะเป็นเมืองที่อยู่ห่างกันสไตล์เมืองนอกก็จะเป็น Zoning ครับ บ้านก็พอตกเย็นมันก็จะเงียบๆเราไม่ได้อยู่ในเมืองแบบนิวยอร์ก แต่พอเรากลับมากรุงเทพฯ คือ มันแบบ busy มันเปิด 24 ชั่วโมง อยากทานอะไรก็ทานได้ตลอดเวลามันก็ตื่นเต้นเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับผม แล้วก็ผมมาเจอคนไทยด้วยคนไทยเฟรนด์ลีดีจัง ทำไมเขาดีกับผมจังก็เลยอยากลองใช้ชีวิตอยู่ ส่วนหนึ่งอย่างที่บอกครับว่ายังไม่ได้ตัดสินใจว่าเราจะทำงานต่อ เราจะเรียนต่อไหมหรือจะทำงานในด้านไหนดี มันก็เป็นช่วงตัดสินใจของชีวิตครับ เพราะจริงๆแล้วผมก็ไม่ได้คิดเข้าวงการนะครับ ตอนอยู่อเมริกาก็มีคนเคยบอกว่า ทำไมไม่กลับไปเมืองไทยไปลองเดินแบบ ไปลองถ่ายแบบดูแต่ตอนนั้นผมก็ตอบเขาไปว่าผมยังเรียนอยู่ผมต้องเรียนจบก่อนผมไม่ได้สนใจด้านนี้เลย และอย่างที่บอกพอมาเมืองไทยตอนที่ตัดสินใจอยู่ผมก็ไปเปิดพวกหนังสือพิมพ์แล้วก็ไปหน้าที่หางานทำ ผมก็จะไปสมัครงานเหมือนคนทั่วไปนั่นแหละครับ แต่เนื่องจากเราก็เป็นคนที่เฟรนด์ลีเราก็จะเจอคนง่ายก็มีเจอเพื่อนฝูงแล้วเขาก็ชักชวนไปเดินแบบก่อนได้ทำงานเป็นนายแบบก่อน แล้วก็ได้โทรไปบอกคุณแม่ว่าเดี๋ยวจะขอลองใช้ชีวิตอยู่ในเมืองไทยดูและก็ยาวจนถึงตอนนี้ครับ

ภาพ เคลลี่

ถาม แล้ว เคลลี่ ธนะพัฒน์ เป็นลูกครึ่งไหม

เคลลี่ ธนะพัฒน์ ไม่ครับ ลูกเป็นไทย – จีน คือผมโตที่อเมริกา 22  ปี คือ คุณพ่อคุณแม่ไปเจอกันที่อเมริกาเลยแต่งงานกันที่นั่น แต่คุณแม่เขาอยากให้ผมเป็นคนที่นี่ก็เลยบินมาคลอดผมที่นี่ แล้วผมกลับไปใช้ชีวิตที่อเมริกาตั้งแต่ป. 1 ครับ จนจบมหาวิทยาลัยครับ เพราะฉะนั้นตอนอยู่ที่นั่นคือผมไม่ได้เรียนภาษาไทยเลย พอกลับมาตอนแรกๆก็อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ พูดไม่ชัดอีก ไม่รู้จักใครเลยพอกลับมาเมืองไทยแรกๆคือก็มีน้าผมที่ผมไปอยู่กับคุณน้า เขาก็พาผมไปเที่ยวที่นั่นที่นี่ แต่ไม่มีเพื่อนฝูงเลยครับ

ถาม สมัยอยู่ที่อเมริกาตอนวัยรุ่นเป็นอย่างไร เกเรไหม 

เคลลี่ ธนะพัฒน์ ตอนที่อยู่อยู่ ลอสแอนเจลิส เกเรไหม  ?? ก็มีบ้างเพราะว่าผมเป็นคนที่รักเพื่อนมาก เพราะฉะนั้นเวลาที่เพื่อนมีปัญหาผมจะเป็นคนที่ลุยคนแรกเลยใช้ชีวิตแบบผู้ชายเนอะครับ เราก็ไปต่อยกับเขาบ้างมีเรื่องแต่ก็ต้องบอกว่าไม่เคยไปก่อเรื่องก่อนนะ แต่ชอบไปช่วยเพื่อนเพื่อนมีปัญหาต่อยกับใคร เราก็จะไปช่วยมีครั้งหนึ่งก็หนักเหมือนกันมีคนมาขโมยของจากรถเพื่อนเขามาหยิบของ เราก็ไปห้ามเขาก็เกิดต่อยกันก็นึกว่ามาคนเดียวกลายเป็นเขามาเป็นแก๊งต่อยกันวันนั้นโดนไปหมัดหนึ่งหัวฟาดกับพื้นเลือดออกเลือดคั่งในสมองคือน็อกไปเลยจริงๆแล้ว เขาจะไปเอาปืนมายิงผมซ้ำด้วยเพราะเหมือนว่าเพื่อนเขาในแก๊งก็โดนยิงไป 1 คน เหมือนเขาก็ยังแบบแค้นอยู่ จากที่ต่อยกันครั้งนั้นก็ต้องลาออกจากการเรียนในเทอมนั้นเพราะว่าเราต้องรักษาตัว

ถาม แล้วตอนอยู่ที่อเมริกามีความรักไหม 

เคลลี่ ธนะพัฒน์ มีครับ เพราะว่าผมอยู่ตั้งแต่เด็กจนโตครับ อยู่ที่โน้นไม่เคยมีแฟนเป็นคนไทยเลยครับ แต่แฟนที่คบแบบจริงๆจังๆคนแรกก็เป็นคนต่างชาติย้ายมา ลอสแอนเจลิสจากนิวยอร์ก แล้วเขาเรียนอีกโรงเรียนหนึ่งแต่ก็ได้เจอกันผ่านเพื่อนอีกคนเราก็จีบเขาก็คบกันนะครับ คบกัน 4 ปี คบกันยาวเหมือนกัน เขาเป็นคนที่น่ารักมาก เขาเป็นชาวอเมริกัน แต่เขาก็พยายามที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมไทย เขาก็พยายามทำอาหารไทยให้เรา คือที่เราไม่ได้เคยมีแฟนเป็นคนไทยในตอนนั้นเพราะว่าผมไม่เคยใช้ชีวิตอยู่กับสังคมไทย พูดไทยกับคนอื่นที่ไม่ใช่ที่บ้านก็จะลำบากเพราะขนาดตัวเองยังไม่ถูกเลยว่าจะคุณ หรือ ผมดีในตอนนั้นนะครับ เพราะผมก็จะพูดภาษาอังกฤษตลอดเพราะฉะนั้น การที่มีแฟนเป็นชาวต่างชาติเป็นอเมริกันคือ มันก็ปกติ 

ภาพ เคลลี่ พูดคุยในรายการ

ถาม แล้วสเปก เคลลี่ เป็นแบบไหน

เคลลี่ ธนะพัฒน์ จริงๆผมชอบผู้หญิงที่ขายาว ผมชอบผู้หญิงที่หน้าผากกว้าง ส่วนนิสัยใจคออันนี้ต้องค่อยๆเรียนรู้กันนะครับ คือ ผมเข้าใจว่าคนมองว่าทำไมนักแสดงจะต้องจีบกันเองเป็นแฟนกันเพราะว่าเราทำงานด้วยกันเราจะเห็นคนนี้  6 เดือน 1 ปี จนเรารู้แล้วว่าเขาเป็นคนอย่างไร จากการร่วมงานกัน จากการใช้ชีวิตด้วยกัน 6 เดือนถึง 1 ปี มันก็ทำให้เรารู้จักเขามากกว่าถ้าเราไปเจอคนข้างนอกไม่รู้จัก ไปดินเนอร์กันไม่กี่ครั้ง เพราะฉะนั้นเลยเราก็จะรู้แล้วว่าคนนี้เราก็ชอบสไตล์เขานะ เขาน่ารักดี นิสัยเราก็พอรู้ในระดับหนึ่งในระดับที่เราได้ร่วมงานกัน แล้วอีกอย่างหนึ่งเราทำงานสองเรื่องเราก็ถ่ายละคร 7 วัน มันไม่มีเวลาไปเจอคนอื่นเลย แล้วทุกครั้งที่ผมมีแฟนคือ ผมเปิดตลอดครับ ผมคบกับใครถ้าใช้คำว่า แฟน ผมไม่เคยปิดบัง แต่ก็ไม่ใช่ว่าออกไปประกาศนะครับว่านี่คือ แฟนผม แต่ถ้าจะไปดูหนังไปทานข้าวก็ทำตัวปกติครับ เพราะผมไม่เคยได้มองถึงว่ากลัวเรตติ้งจะตกไหมถ้าเปิดตัวหรืออะไร เพราะว่าผมไม่ได้มองตัวเองว่าผมเป็นนักแสดงเพราะว่าผมอยากได้ชื่อเสียง ผมไม่เคยมองตัวเองว่าผมจะต้องเป็นพระเอก ผมเป็นดารา ผมบอกอย่าใช้คำนี้กับผมเลยนะครับ คือ การที่ผมมาเข้าวงการนี้มันคืออาชีพ แล้วผมอยากให้ทุกคนมองผมคือนักแสดง เพราะฉะนั้นเรื่องเรตติ้งไม่ใช่สิ่งที่สำคัญกับตัวผมเลย อย่างที่บอกเราไม่ได้เคยมองตัวเองเจ้าชู้เพราะผมก็ไม่ได้ต้องการมี แฟน หลายคน ผมยอมรับผมเป็นคนขี้เหงาแต่ไม่ใช่มีใครก็ได้ เพราะฉะนั้นถ้าผมคบกับใครเป็นแฟนผมจะชอบอยู่กับแฟน ผมจะอยากใช้ชีวิตกับแฟน แต่ผมไม่ชอบที่จะคบคนนี้แล้วมีคนนู้น แล้วมีอีกคนมันอาจจะยุ่งยากไปสำหรับผม

ถาม เป็นคนที่มีความสัมพันธ์ยาวไหม ถ้าเกิดเราจะคบกับใครสักคน 

เคลลี่ ธนะพัฒน์ คนที่ผมคบเป็นแฟนไม่เคยต่ำกว่า 4 ปี ที่อเมริกาคบ 2 คนก่อนจะย้ายมาที่เป็นแฟนนะครับ คนแรกก็สี่ปี คนที่สองก็สี่ปี พอมาเมืองไทยแฟนคนแรกที่เป็นนางแบบก็สี่ปี น้องที่เราเพิ่งพูดถึงก็สี่ปี ถึง สี่ปีกว่าๆ

ถาม ซึ่ง เคลลี่ ก็เป็นคนที่อยากจะแต่งงานมีครอบครัวที่สมบูรณ์มาก

เคลลี่ ธนะพัฒน์ : ก็อยากแต่งงานนะครับเพราะว่ามีคนถามเราก็บอกว่าก็อยาก แต่ทีนี้พ่อแม่ผมเขาเลิกกันตั้งแต่ผมเด็กตั้งแต่ผมอายุ 12-13 ปี ผมก็จะฝังใจอยู่ตรงนี้ว่าถ้าผมจะแต่งงานถ้าผมจะมีครอบครัว ผมอยากให้ชัวร์ ผมไม่อยากเลิก แล้วถ้าแต่งงานแล้วถ้ามีลูกแล้วต้องมาเลิกกัน แล้วให้ลูกต้องมาโตด้วยการไม่มีพ่อแม่ที่สมบูรณ์ที่อยู่เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ ผมไม่อยากให้เป็นแบบนั้น คือ อย่างผมโตมาผมอยู่แต่กับคุณแม่ ผมมีน้องชาย ซึ่งน้องชายห่างกันกับผมประมาณ 13 ปีครับ พอหลังจากมีน้องชายผมพ่อแม่ก็เลิกกัน ผมก็ต้องเป็นคนที่ดูแลน้อง เราก็คิดนะครับทำไมเราก็อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์มีคุณพ่อคุณแม่ที่อยู่ด้วยกันอบอุ่นเราก็อยากมีครอบครัวแบบนั้นครับ

ถาม จนมาถึงความรักครั้งล่าสุดกับอดีภรรยาตอนนั้นเจอกันยังไง

เคลลี่ ธนะพัฒน์ ตอนที่เจอกันที่คุยกันตอนนั้นผมนั่งอยู่ในร้านอาหารญี่ปุ่น คือ เป็นร้านที่ผมนั่งอยู่เป็นแบบ 6 เดือน หรือ 7-8 เดือนครับ ซึ่งที่เราชอบที่นี่ที่เรานั่งที่ร้านนี้เพราะเราก็ได้ไปนั่งกินคุยกับพนักงานจนกลายเป็นเพื่อนผมหมด คือผมชอบเพราะว่าเขาก็ไม่ได้มารู้สึกเกี่ยวกับชีวิต เขาก็ไม่ได้มาก้าวก่าย เราก็ไม่อยากจะมาคุยเรื่องงาน เราก็ไม่ได้อยากจะมาคุยเรื่องส่วนตัว เพราะเราอยู่ในวงการเราเจอคนเยอะ บางทีเราก็อยากจะเจอคนที่ ไม่ได้มาพูดคุยเกี่ยวกับงานเรา ไม่ได้มาพูดคุยเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวคุยไปเรื่อยเปื่อยอะไรก็ได้ บางทีไม่มีสาระมันก็สนุก มันก็ผ่อนคลายดี จนน้องที่เขาทนไม่ไหวบอกว่า พี่เคลลี่ หนูไม่ไหวแล้วเห็นพี่นั่งอยู่แต่ที่นี่ วันนี้มีงานวันเกิดพวกเพื่อนๆหนูจะแนะนำให้รู้จักพี่ไปกับหนูนะ ผมก็อะๆเดี๋ยวดูก่อนครับ ซึ่งวันที่เขาชวนผมก็ไม่ไปสักทีจนมีพวกรุ่นน้องผมมาแล้วเขาก็ชวนไปที่เดียวกับน้องที่เขาชวนไปงานวันเกิดเราก็เลยไปก็ได้แต่พวกคุณต้องแวะไปที่โต๊ะนี้กับไอหน่อยนะเพราะว่าเขามาชวนไปงานวันเกิด ผมไม่กล้าไปคนเดียวผมก็เขิน ก็เลยไปแล้วก็ได้ไปเจอน้องแล้วเขาก็เขามาทักว่าอ๋อ … เขาเล่นละครอยู่กับทางช่อง 7 เหมือนกันเราเคยเจอกันแล้วในงานบุญที่บริษัท แล้วเราก็ได้คุยกับน้องเขาเราก็คุยถูกคอกัน แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ได้คิดจีบ แต่ผมคิดว่าเขาก็เป็นคนแรกที่ผมเปิดใจคุยแล้วรู้สึกอยากคุยต่อ แล้วเช้าวันรุ่งขึ้นเขาก็ต้องถ่ายละครเขาก็เลยต้องกลับก่อน ตอนกลับผมก็เอาอย่างไรดีๆ เราจะได้เจอน้องเขาอีกไหม เราจะได้คุยอีกหรือเปล่า ผมก็เลยขอไลน์เขา ผมก็บอกเขาว่าพรุ่งนี้เดี๋ยวยังไงตื่นไปถ่ายละครยังไงแล้วจะทักไปหาหน่อยแล้วกันนะ แล้ววันรุ่งขึ้นเขาก็ทักมา เราก็รู้สึกดีเขาทักมา เขาก็น่ารักดีแล้วหลังจากนั้นก็ค่อยๆคุยกัน แล้วผมก็จีบเขา เวลาที่ผมจีบผมก็จะทุ่มเท ชอบดูแลเอาใจใส่ ผมก็สั่งอาหารให้ไปส่งที่กอง บางทีก็ให้คนรถเอาอาหารไปให้

ภาพ เคลลี่ เดี่ยว

ถาม อะไรทำให้ความสัมพันธ์ของคนนี้ไปถึงขั้นแต่งงาน

เคลลี่ ธนะพัฒน์ พอคบไปสักพักพอเข้าปีที่ 3 เราก็คิดแล้วเข้าปีที่ 3 เดี๋ยวกำลังจะเข้าปีที่ 4 เราเลิกกันแน่เลยเป็นเลขอาถรรพ์มากเอายังไงดี แล้วอีกอย่างหนึ่งเรามองว่ามันก็ถึงอายุแล้วที่ควรจะ ถ้าจะมีครอบครัวก็ควรจะมีได้แล้ว แล้วน้องเอวเขาก็พูดหลายครั้งว่าเขาอยากแต่งงานอยากมีน้องเพราะเพื่อนเขาหลายคนแต่งงานแล้วมีน้องแล้ว ก็เป็นคนแรกเลยที่เคยพูดอย่างนี้กับเรา เราก็รู้สึกว่าเขาก็พร้อมที่จะมีครอบครัวที่จะแต่งงาน แล้วในเวลานั้นแม่ผมเป็นมะเร็ง แม่ผมป่วยหนัก ผมก็มองว่าผมอยากแต่งงานให้แม่ผมเห็น ให้แม่ผมไม่ต้องห่วงผม ถ้าผมแต่งงานแล้วผมมีครอบครัวแม่ผมจะสบายใจด้วย เพราะตอนนั้นผมรู้ว่าแม่ของผมก็เวลาน้อยครับ ก็เลยตัดสินใจตอนนั้นก็จะขอหมั้นที่โรงพยาบาลที่ห้องที่คุณแม่อยู่ แต่ก็ไม่ทันคุณแม่ก็เสียก่อน คือ ตอนคุณแม่เสียคือผมร่วงเลยเพราะท่านคือเสาหลักในใจผมมากๆเพราะก่อนที่คุณแม่จะเสียผมก็บอกท่านว่าไม่ต้องห่วงนะเดี๋ยวผมจะแต่งงาน ซึ่งอย่างน้อยในวันที่คุณแม่เสียวันนั้นเราก็ได้มีครอบครัวใหม่เข้ามา เขาก็ได้ต้อนรับเราอย่างดี ทำให้เรารู้สึกอบอุ่นเราก็ได้มีอีกครอบครัวหนึ่งที่อาจจะมาทพแทน ในบางส่วนที่จะทดแทนได้ครับ

ถาม แล้วตอนที่มาถึงที่สุดแล้วความสัมพันธ์ของการแต่งงานเป็นอย่างไร ถึงขั้นไม่คุยกันเลยไหมอยู่ในบ้านเดียวกัน 

เคลลี่ ธนะพัฒน์ : ใช่ครับไม่ได้คุยเลย เลยตัดสินใจว่าลองห่างกันสักพัก แต่พอห่างแล้วก็เลยรู้ว่าถ้ากลับไปแล้วคงไม่ได้กลับไปเหมือนเดิมมันไม่มีอะไรที่มันจะดีขึ้น แล้วความสัมพันธ์ที่จบลงอบาจจะเพราะ ถ้าเราเลิกในบางครั้งเพราะเราปากไม่ดีเอง บางทีเวลาทะเลาะกันเขาบอกมาว่าจะ เลิก เราก็บอกว่าเลิกก็ได้ถ้ามีปัญหานักอยากเลิกก็เลิก แต่สุดท้ายพอเขาจะเลิกแบบเอาจริงขึ้นมา เราก็ตกใจนะครับ ว่าทำไมและผมก็เสียน้ำตาทุกครั้ง การแต่งงานไม่ใช่จุดจบแก้ปัญหาต่างๆได้ มันไม่เหมือนในหนังในละครที่แต่งงานกันแล้ว Happy Ending แต่งงานแล้วมีอะไรอีกเยอะที่จะต้องเจอการใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันมันไม่ใช่สิ่งที่ง่าย ผมก็อยากเจอใครที่จะมาอยู่กับผมจนแก่ อยู่กับผมไปชั่วชีวิตเราก็อยากมีไม่ได้อยากต้องมาคบกับใครแล้วเลิก

ภาพรวม

ถาม ในวันที่เรามานั่งอยู่ตรงนี้ตกตะกอนพอสมควรแล้ว คิดว่าเรียนรู้อะไรจากความผิดพลาดที่พอจะเป็นครูให้กับใครหลายๆคนได้เข้าใจมันมากขึ้นว่าต้องเตรียมตัวอะไร ต้องเรียนรู้อะไรบ้าง

เคลลี่ ธนะพัฒน์ ความรักมันไม่ได้ง่าย การที่เป็นแฟนกันแล้ววันหนึ่งกลายเป็นสามีภรรยากันมันต้องไปเรียนรู้อะไรอีกเยอะมันมีรายละเอียดอีกเยอะเกี่ยวกับความรักที่เป็นสามีภรรยากัน แล้วการแต่งงานไม่ใช่จุดจบแก้ปัญหาต่างๆได้ เพราะมันไม่เหมือนในหนังในละครเวลาแต่งงานแล้ว Happy Ending พอแต่งงานแล้วมันต้องมีอะไรอีกเยอะที่จะต้องเจอเพราะการใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันมันไม่ใช่สิ่งที่ง่าย ผมก็อยากได้นะ อยากเจอใครที่จะมาอยู่กับผมจนแก่อยู่กับผมจนชั่วชีวิต เราก็อยากมีไม่ได้อยากต้องมาคบกับใครแล้วเลิกต้องพูดว่ามันเป็นความทุกข์นะที่คนจะมองว่าเรา เจ้าชู้ มันไม่เท่ากับเราเองว่า ผมมีความรักนะ ผมล้มเหลวผมก็ต้องเลิกแล้วผมก็ต้องเริ่มต้นใหม่นี่มันเป็นความทุกข์สำหรับผมนะครับ ที่ต้องเป็นแบบนั้น แต่ถามว่ารู้สึกหมดหวังกับความรักไหม แม้จะผิดหวังนะครับ แต่ว่าความรักเป็นอะไรที่งดงามและสำหรับกับผมมาก เป็นสิ่งที่ผมไม่ได้ถึงขั้นว่าท้อแล้วจะไม่มีความรักอีกแล้ว แต่เราถือว่าเป็นประสบการณ์หนึ่งที่เราเคยผ่านมา แล้วความรักในทุกครั้งก็ต้องขอบคุณที่เราได้เคยใช้ชีวิตกับคนนี้ เราก็พยายามจำในสิ่งดีๆที่ผ่านมาที่เกิดขึ้น อะไรที่ทำให้เรามีปัญหาหรือต้องเลิกกันเราก็ต้องกลับไปเป็นประสบการณ์นะบางทีก็ต้องแก้ไข ผมไม่เคยมองว่าความรักเป็นเรื่องเล่นๆแต่ก็ยังคิดว่าวันหนึ่งเราก็ต้องเจอเนื้อคู่ของเราครับ ซึ่งเลิกทุกครั้งคือผมก็มาทบทวนว่าที่เราเลิกกับคนนี้เพราะอะไร ที่เราเลิกกับคนนี้เพราะอะไร อย่างล่าสุดที่เราเลิกมันเพราะอะไรผมรู้อะไรที่เราปรับได้แล้วเราควรจะปรับ เราก็บอกกับตัวเองแล้วก็พยายามที่จะปรับมัน แต่บางสิ่งบางอย่างก็เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถปรับได้

ถาม มาถึงวันนี้พร้อมเปิดใจกับความรักครั้งใหม่ไหม ??

เคลลี่ ธนะพัฒน์ ยังไม่ถึงขนาดนั้นครับ แต่ถ้าถามว่าผมพร้อมที่จะมีคำว่า แฟนคบเพื่อคนนี้จะเป็นคนที่ผมจะใช้ชีวิตอาจจะแต่งงานอีกครั้งหรือจะใช้ชีวิตไปจนแก่จนตาย ยังไม่ถึงขั้นนั้นยังไม่ได้พร้อมครับ แต่ยอมรับว่าผมก็กลัวๆบ้างในการที่จะไปเปิดใจใหม่

สามารถชมคลิป ย้อนหลัง ได้ในรายการ CLUB FRIDAY SHOW ผลิตโดย CHANGE2561 ทางยูทูป :

หนุ่มวายสาววายไม่อยากพลาดความเคลื่อนไหวคลับYเพิ่มเพื่อน หมวดซี่รี่ย์Y https://lin.ee/lBAOXiY
คอละคร!ห้ามพลาดเกาะติดความเคลื่อนไหวเพิ่มเพื่อน หมวดละคร https://lin.ee/GMiL8hx