ไทยลีก 2020 ผ่านพ้นครึ่งทางอันแสนยาวนานไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากเปิดประเดิมซัดกันนัดแรกตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ แต่มีปัญหาโควิด-19 ที่ทำให้ลีกหยุดพักไปร่วม 6 เดือน และต้องปรับเปลี่ยนระยะเวลาการแข่งขัน ตลอด 15 นัดที่ผ่านมาในช่วงเลกแรกเกิดอะไรที่น่าสนใจมามาย้อนกันดู
เรื่องแรกที่ต้องพูดถึงคือฟอร์มการเล่นอันร้อนแรงของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด จ่าฝูงที่จบเลกแรกด้วยการเป็นแชมป์ แถมด้วยสถิติไร้พ่ายไม่แพ้ใครตลอด 15 นัดที่ผ่านมา ปัจจัยสำคัญที่พา “กระต่ายแก้ว” บินสูงคือแผงรับอันแข็งแกร่ง หลังเสียไปเพียง 8 ประตูเท่านั้น นอกจากนี้ คู่หูเซ็นเตอร์แบ็กอย่าง วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ และอันเดรส ตูเญซ ยิงรวมกันไป 15 ประตูเป็นดาวซัลโว และรองดาวซัลโวของทีมในเวลานี้
การที่ลีกต้องเบรกเป็นระยะเวลา 6 เดือน ย่อมส่งผลถึงฟอร์มการเล่นไม่มากก็น้อย แต่มี 2 ทีมที่หลังจากหยุดพักฟอร์มการเล่นพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ทีมแรกคือ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 4 นัดแรกพวกเขามาด้วยการเก็บชัยชนะ 4 เกมรวด ยิงรวมกันไป 10 ประตู รั้งตำแหน่งจ่าฝูงในเวลานั้น แต่หลังจากจากเบรก “แข้งเทพ” ชนะคู่แข่งเพียง 2 นัดจาก 11 นัด จากทีมลุ้นแชมป์ กลายเป็นจบเลกด้วยอันดับ 9 อีกทีมคือ สมุทรปราการ ซิตี้ แต่เป็นการพลิกฟอร์มไปในทางที่ดี เพราะ 4 เกมแรกพวกเขา แพ้ 3 เสมอ 1 แต่หลังจากการหยุดเพราะ โควิด-19 “เขี้ยวสมุทร” แพ้เพียง 2 นัดจาก 11 นัด และไต่อันดับขึ้นมาอยู่อันดับ 6 ในเวลานี้ นอกจากนี้ ชลบุรี เอฟซี ยังคงเป็นทีมที่เน้นการปั้นดาวรุ่งอย่างต่อเนื่อง เพราะตลอด 15 เกม “ฉลามชล” ส่งเด็กอายุต่ำกว่า 21 ปีลงสนามถึง 5 คน
มาเจาะกันที่ฟอร์มรายบุคคลกันบ้าง ตารางดาวซัลโวหัวแถวยังคงถูกบรรดาเหล่ากองหน้าต่างชาติจับจองกัน ไล่ตั้งแต่ เดนนิส มูริลโล่ ที่ซัดแฮตทริก 2 เกมติดยิงรวมไป 11 ประตู ตามมาด้วยจอห์น บาจโจ้ และวิลเลี่ยน โมต้า ที่ยิงไป 10 และ 9 ประตูตามลำดับ สิ่งที่น่าสนใจคือ ทั้ง 3 คนมาจากทีมที่อยู่ในโซนล่างของตาราง ส่วนนักเตะไทยมี “เจ้ากอล์ฟ” อดิศักดิ์ ไกรษร กองหน้าจากการท่าเรือ ควงคู่กับ ฟิลิป โรลเลอร์ แบ็กจากราชบุรี ที่ยิงเท่ากันที่ 8 ประตู
ส่วนนักเตะจอมแอสซิสต์ เป็น จักรพันธ์ แก้วพรม กองกลางจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่สลัดอาการบาดเจ็บยาวในฤดูกาลที่แล้วมาได้ และส่งให้เพื่อนซัดไปแล้ว 7 ครั้ง เท่ากับสตีเว่น ล็องจิล ปีกจาก “ราชันมังกร” ฝั่งเกมรับ ฉัตรชัย บุตรพรม ผู้รักษาประตูจาก บีจี ปทุม เก็บคลีนชีทมากที่สุด 9 เกมจาก 15 เกมที่ลงเล่น แม้จะแข่งไปเพียงเลกเดียว แต่สถิติไปเท่ากับสถิติคลีนชีตมากที่สุดในฤดูกาลที่แล้วของ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ที่เฝ้าเสาให้สุพรรณบุรี เอฟซี
ประเด็นสุดท้ายที่จะต้องพูดถึงคือเรื่องราวของ เฮดโค้ช เพราะไทยลีกขึ้นชื่อว่าเป็นลีกกินโค้ช เลกแรกของฤดูกาลนี้มีการเปลี่ยนแปลงโค้ชระหว่างการแข่งขันไปแล้ว 10 ครั้ง โดยรายแรกที่แยกทางคือ โค้ชชู ชูศักดิ์ ศรีภูมิ ที่ลาออกจากระยอง เอฟซี หลังแข่งไปได้เพียง 3 เกม ส่วนทีมที่ใช้ผู้จัดการทีมเยอะที่สุดคือ ระยอง เอฟซี, ราชบุรี มิตรผล เอฟซี และการท่าเรือ เอฟซี ทีมละ 3 ราย
ส่วนโค้ชที่โชว์ผลงานโดดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้น สระราวุฒิ ตรีพันธ์ เฮดโค้ชคนที่ 3 ของการท่าเรือในปีนี้ เพราะ “โค้ชอู๊ด” คุมท่าเรือชนะ 8 จาก 8 นัดที่ได้รับโอกาสคุมทีมในไทยลีก หรือสถิติชนะ 100% และพา “สิงห์เจ้าท่า” เข้าไปเล่นรอบแบ่งกลุ่มในศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปีหน้าได้สำเร็จ
[catlist id=74 numberposts=5 excludeposts=this]
