รศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต หัวหน้าคณะที่ปรึกษาศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC by MQDC) เปิดเผยว่า RISC by MQDC มุ่งมั่นในการดำเนินงานวิจัยสำหรับสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืนให้กับสรรพสิ่งบนโลก หรือ For All Well-Being พร้อมทั้งมีความตั้งใจที่จะเป็นศูนย์วิจัยเพื่อเผยแพร่องค์ความรู้สู่สาธารณชน โดยในแต่ละปีมีหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา นักวิจัย และประชาชน เข้าศึกษาดูงานที่ RISC by MQDC เฉลี่ยสูงถึง 10,000 คน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในทุกๆปี ภายใต้งานวิจัยใน 7 ด้านหลัก มีความสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN Sustainable Development Goals) มากถึง 12 ข้อ จากทั้งหมด 17 ข้อด้วยกัน เพื่อร่วมแนวคิดในการเปลี่ยนโลก ตระหนักถึงชุมชน สังคม ทรัพยากร สิ่งแวดล้อมและการร่วมมือกันทุกภาคส่วน เพื่อนำเป็นพื้นฐานของกระบวนความคิดและการวิจัยภายใต้การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ยั่งยืน ได้แก่
![RISC by MQDC ตอกย้ำกุลยุทธ์‘For All Well-Being’ ประกาศงานวิจัย 7 ด้านหลักเพื่อความยั่งยืน สอดรับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ 1 Assoc. Prof. Dr. Singh Intrachooto Chief Advisor of Research Innovation for Sustainability Center RISC by MQDC](https://media.newsplus.co.th/2020/09/Assoc.-Prof.-Dr.-Singh-Intrachooto-Chief-Advisor-of-Research-Innovation-for-Sustainability-Center-RISC-by-MQDC.jpg)
ข้อ 3 การรับรองการมีสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคนทุกช่วงอายุ (Good Health and Well-Being) ข้อ 4 การรับรองการศึกษาที่เท่าเทียมและทั่วถึง ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแก่ทุกคน (Quality Education) ข้อ 5 การบรรลุความเท่าเทียมทางเพศ พัฒนาบทบาทสตรีและเด็กผู้หญิง (Gender Equality) ข้อ 6 การรับรองการมีน้ำใช้ การจัดการน้ำและสุขาภิบาลที่ยั่งยืน (Clean Water and Sanitation) ข้อ 7 การรับรองการมีพลังงาน ที่ทุกคนเข้าถึงได้ เชื่อถือได้ยั่งยืน ทันสมัย (Affordable and Clean Energy) ข้อ 9 พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง ส่งเสริมการปรับตัวให้เป็นอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนทั่งถึง และสนับสนุนนวัตกรรม (Industry Innovation and Infrastructure) ข้อ 11 การทำให้เมืองและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์มีความปลอดภัยทั่วถึง พร้อมรับความเปลี่ยนแปลง และการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Cities and Communities) ข้อ 12 รับรองแผนการบริโภค และการผลิตที่ยั่งยืน (Responsible Consumption and Production) ข้อ 13 การดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบ (Climate Action) ข้อ 14 การอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากมหาสมุทรและทรัพยากรทางทะเล เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Life Below Water) ข้อ 15 การปกป้อง ฟื้นฟู และส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศทางบกอย่างยั่งยืน (Life on Land) และ ข้อ 17 สร้างพลังแห่งการเป็นหุ้นส่วน ความร่วมมือระดับสากลต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Partnerships for the Goals) ซึ่งงานวิจัย 7 ด้านหลักของ RISC by MQDC ประกอบด้วย
![RISC by MQDC ตอกย้ำกุลยุทธ์‘For All Well-Being’ ประกาศงานวิจัย 7 ด้านหลักเพื่อความยั่งยืน สอดรับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ 2 1.สุขภาพและสุขภาวะที่ดี Health Wellness](https://media.newsplus.co.th/2020/09/1.สุขภาพและสุขภาวะที่ดี-Health-Wellness.jpg)
1.สุขภาพและสุขภาวะที่ดี (Health & Wellness) สอดคล้องกับหลักการของสหประชาชาติในเรื่องของ Good Health and Well-Being, Clean Water and Sanitation, Sustainable Cities and Communities, และ Life on Land ซึ่งจากผลการศึกษาพบว่า ในแต่ละวันเราใช้เวลาอยู่ในอาคารมากกว่า 90% จึงเป็นโจทย์ที่ท้าทายของ RISC ในการทำให้อากาศภายในอาคารมีคุณภาพที่ดี รวมถึงมีอุณหภูมิ ความชื้น และแสงที่เหมาะสม สำหรับภายนอกอาคารทาง RISC ได้พัฒนาหอฟอกอากาศระดับเมือง หรือ “ฟ้าใส” และ เครื่องฟอกอากาศแบบไฟฟ้าสถิต หรือ “Fresh One” เพื่อจัดการปัญหามลภาวะฝุ่นพิษ PM 2.5 และ PM 10 รวมถึงวิจัยในประเด็นของแสงและสีในที่อยู่อาศัยที่มีผลกระทบต่อร่างกาย สุขภาพจิต และสภาวะสมอง ซึ่งทำให้มีแนวโน้มการเจ็บป่วยโดยไม่รู้ตัว
![RISC by MQDC ตอกย้ำกุลยุทธ์‘For All Well-Being’ ประกาศงานวิจัย 7 ด้านหลักเพื่อความยั่งยืน สอดรับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ 3 2.วัสดุและการใช้ทรัพยากร Materials Resources](https://media.newsplus.co.th/2020/09/2.วัสดุและการใช้ทรัพยากร-Materials-Resources.jpg)
2.วัสดุและการใช้ทรัพยากร (Materials & Resources) สอดคล้องกับหลักการของ Clean Water and Sanitation, Affordable and Clean Energy, Responsible Consumption and Production, Climate Action, Life Below Water และ Life on Land ซึ่งภายใต้ MQDC Standard คือ หลีกเลี่ยงการใช้วัสดุก่อสร้างบางอย่างเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในระยะยาว เช่น วัสดุจากไม้จริง (Solid wood) เพื่อรักษาแหล่งต้นน้ำธรรมชาติและระบบนิเวศ และหลีกเลี่ยงวัสดุบางชนิดเพื่อลดแนวโน้มความเจ็บป่วย เช่น วัสดุจากใยหิน ใยแก้ว หินธรรมชาติ จากแหล่งมีแร่ยูเรเนียม อันเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งปอด ไม่ใช้วอลเปเปอร์เพื่อลดความชื้นอันเป็นสาเหตุของอาการภูมิแพ้ รวมถึงการนำขยะที่มีอยู่แล้วมาใช้เป็นวัสดุก่อสร้างในโครงการต่างๆ (Upcycling) เพื่อลดปริมาณขยะและทำเป็นทางเดินเท้า และขอบคันหิน ตลอดจนความพยายามในการออกแบบที่เที่ยงตรงให้ได้มากที่สุด เพื่อลดขยะในกระบวนการก่อสร้าง รวมถึงการลดใช้พลังงานไฟฟ้าและน้ำ โดยการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่และหมุนเวียนในโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ (THE FORESTIAS)
![RISC by MQDC ตอกย้ำกุลยุทธ์‘For All Well-Being’ ประกาศงานวิจัย 7 ด้านหลักเพื่อความยั่งยืน สอดรับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ 4 3.ความหลากหลายทางชีวภาพ Biodiversity](https://media.newsplus.co.th/2020/09/3.ความหลากหลายทางชีวภาพ-Biodiversity.jpg)
3.ความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity) สอดคล้องกับหลักการด้านSustainable Cities and Communities, Climate Action และ Life Below Water รวมทั้ง Life on Land ของสหประชาชาติ โดยทุกโครงการของ MQDC จะมีการศึกษาและสำรวจสิ่งมีชีวิตต่างๆ ก่อนเริ่มพัฒนาพื้นที่ เพราะเราเชื่อว่า หากโลกนี้ขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป คงจะไม่สมดุล ยกตัวอย่างเช่น ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านได้ลงพื้นที่สำรวจโครงการ THE FORESTIAS เพื่อหาแนวทางการดูแลและลดผลกระทบจากการพัฒนาพื้นที่ ให้มนุษย์และธรรมชาติสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ควบคู่กับเพิ่มพื้นที่ป่าในโครงการเพื่อเป็นบ้านของสัตว์และสิ่งมีชีวิต
![RISC by MQDC ตอกย้ำกุลยุทธ์‘For All Well-Being’ ประกาศงานวิจัย 7 ด้านหลักเพื่อความยั่งยืน สอดรับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ 5 4.เทคโนโลยีการออกแบบและการก่อสร้าง Smart Sensible Design Construction](https://media.newsplus.co.th/2020/09/4.เทคโนโลยีการออกแบบและการก่อสร้าง-Smart-Sensible-Design-Construction-.jpg)
4.เทคโนโลยีการออกแบบและการก่อสร้าง (Smart & Sensible Design & Construction) สอดคล้องกับหลักการของสหประชาชาติในด้าน Good Health and well-being, Industry Innovation and Infrastructure, Sustainable Cities and Communities และ Responsible Consumption and Production ซึ่งMQDC ถือเป็นภาคเอกชนรายแรกๆ ของไทยที่มีการนำระบบ Building Information Modeling (BIM) มาใช้ในการพัฒนาและบริหารจัดการก่อสร้างโครงการให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น โครงการ 101 ทรู ดิจิทัล พาร์ค ซึ่งยังเป็นโครงการที่มีการใช้เทคโนโลยีในการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแรงสั่นสะเทือนของการเดินและยังมีการออกแบบและก่อสร้างภายใต้ MQDC Standard ทุกโครงการ เพื่อการรับประกันได้นานถึง 30 ปี ใน 4 ด้านหลัก ได้แก่ การรั่วซึมของหลังคาหรือดาดฟ้าของอาคาร โครงสร้างอาคาร การใช้งานประตูหน้าต่าง และงานระบบท่อน้ำและสายไฟ เพื่อคุณภาพที่ดี ลดการซ่อมแซม ลดการใช้วัสดุทรัพยากรธรรมชาติตลอดช่วงอายุอาคาร
![RISC by MQDC ตอกย้ำกุลยุทธ์‘For All Well-Being’ ประกาศงานวิจัย 7 ด้านหลักเพื่อความยั่งยืน สอดรับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ 6 5.เทคโนโลยีและการควบคุมอัตโนมัติ Technology Automation](https://media.newsplus.co.th/2020/09/5.เทคโนโลยีและการควบคุมอัตโนมัติ-Technology-Automation.jpg)
5.เทคโนโลยีและการควบคุมอัตโนมัติ (Technology & Automation) สอดคล้องกับหลักการทางด้าน Good Health and well-being ของสหประชาชาติ โดยการนำระบบเติมอากาศแบบแลกเปลี่ยนอุณหภูมิ (ERV: Energy Recovery Ventilator) ทำให้สามารถหมุนเวียนอากาศที่ดีเข้ามาในที่อยู่อาศัย และเพิ่มปริมาณออกซิเจนในห้องปรับอากาศให้เหมาะสมกับปริมาณผู้อยู่อาศัย พร้อมทั้งทำงานร่วมกับระบบบ้านอัจฉริยะ (Home Intelligent System) อีกด้วย รวมถึงการนำระบบ Central Utilities Plant (CUP) และ “หุบความเย็น” (Cooling Basin) มาใช้ในโครงการ THE FORESTIAS ช่วยลดจำนวนคอยด์ทำความร้อนในที่อยู่อาศัย โดยระบบจะรวมความร้อนไปรวมที่จุดเดียว แล้วส่งน้ำเย็นเปลี่ยนเป็นแอร์เย็นหล่อเลี้ยงบ้านผู้อยู่อาศัย ดังนั้น ทำให้อุณหภูมิลดลง 2-3 องศา และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซต์สู่อากาศถึง 30,000 ตันต่อปี เทียบเท่ากับปลูกต้นไม้ 750,000 ต้น หรือ ปลูกป่าถึง 30,000 ไร่ และสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับโครงการทั่วไป
![RISC by MQDC ตอกย้ำกุลยุทธ์‘For All Well-Being’ ประกาศงานวิจัย 7 ด้านหลักเพื่อความยั่งยืน สอดรับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ 7 6.การลดผลกระทบจากการเดินทาง Active Low impact Mobility](https://media.newsplus.co.th/2020/09/6.การลดผลกระทบจากการเดินทาง-Active-Low-impact-Mobility-.jpg)
6.การลดผลกระทบจากการเดินทาง (Active & Low impact Mobility) สอดคล้องกับหลักการของสหประชาชาติในเรื่องของ Good Health and well-being และ Climate Action โดยการออกแบบเพื่อลดการใช้รถยนต์ ลดการตัดถนน ส่งเสริมพฤติกรรมการเดิน ซึ่งจะช่วยลดมลภาวะจากการใช้รถยนต์ลงได้ อย่างโครงการ 101 True Digital Park ได้มีการสร้างสกาย วอล์ค เชื่อมต่อเข้าสู่โครงการ และยังมีการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางที่ส่งเสริมการเดิน การใช้จักรยาน หรือแม้แต่มีการติดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้า (EV Charger) รวมถึงโครงการ THE FORESTIAS ที่จะมีการออกแบบพื้นที่ปิดชัดเจน รถยนต์ไม่สามารถเข้าถึงได้ ออกแบบสร้างพื้นที่การเรียนรู้ และพักผ่อนหย่อนใจที่มีความร่มรื่น ส่งเสริมให้เกิดการเดินและใช้ชีวิตภายนอกอาคารมากขึ้น
![RISC by MQDC ตอกย้ำกุลยุทธ์‘For All Well-Being’ ประกาศงานวิจัย 7 ด้านหลักเพื่อความยั่งยืน สอดรับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ 8 7.การสร้างชุมชน เผยแพร่ความรู้ และความเข้าใจคนทุกวัยทุกชนชาติ Community Intergens](https://media.newsplus.co.th/2020/09/7.การสร้างชุมชน-เผยแพร่ความรู้-และความเข้าใจคนทุกวัยทุกชนชาติ-Community-Intergens-.jpg)
7.การสร้างชุมชน เผยแพร่ความรู้ และความเข้าใจคนทุกวัยทุกชนชาติ (Community & Intergens) สอดคล้องกับหลักการของสหประชาชาติในเรื่องของ Quality Education, Gender Equality และ Partnerships for the Goals โดยการศึกษาทำความเข้าใจทุกการเปลี่ยนแปลงของมนุษย์เพื่อนำมาสู่การพัฒนาที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมกับทุกช่วงวัย ตั้งแต่เริ่มมีชีวิตในท้องแม่ จนเติบโตเข้าสู่วัยเรียน วัยทำงาน และวัยชรา เพื่อที่จะได้ออกแบบที่รองรับกับการเปลี่ยนแปลงของคนทุกช่วงวัย และส่งเสริมความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว ดังเช่น การศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ที่พบว่า ความสุข คือ การได้มีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับผู้อื่น ทำให้การออกแบบโครงการเน้นการมีพื้นที่ส่วนกลางให้เกิดกิจกรรมร่วมกัน อาทิ โครงการภายใต้แบรนด์ Mulberry Grove มีการออกแบบเพื่อให้ทุกเจนเนอเรชั่นสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ลดความขัดแย้งภายในครอบครัว รวมทั้ง RISC ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดล ทำการศึกษาการทำงานของสมองโดยใช้เครื่องมือวัดคลื่นสมองว่าแต่ละสภาพแวดล้อมมีผลต่อการรับรู้อย่างไร เพื่อมาออกแบบเป็นที่อยู่อาศัยที่สร้างความสุขให้กับลูกบ้านยิ่งขึ้น
“RISC by MQDC ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยแห่งแรกของเอเชียที่มุ่งเน้นด้านการส่งเสริมสุขภาวะและความเป็นอยู่ที่ดีของทุกสรรพสิ่งบนโลก หรือ ‘For All Well-Being’ มีความพร้อมในการทำงานวิจัย 7 ด้านหลัก เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืนให้กับทุกชีวิต และสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN Sustainable Development Goals) ทั้ง 12 ข้อ และขยายเป็น 17 ข้อในอนาคต” รศ.ดร.สิงห์ กล่าว