“ปั่นไปไม่ทิ้งกัน ปี 2” ก้าวสู่วันที่ 14 “สุพรรณบุรี-นครปฐม” ระยะทาง 96 กิโลเมตร

“ปั่นไปไม่ทิ้งกัน  No One Left Behind ปี 2”  วันที่ 14 เริ่มปล่อยตัวจากหอคอยบรรหาร-แจ่มใส โดยมี นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี นายสุวิทย์ อินต๊ะวิกุล ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา 5 จังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ เข้าร่วมพิธีปล่อยขบวนนักปั่นผู้พิการทางสายตาและนักปั่นจิตอาสา จำนวนกว่า 70 ชีวิต เพื่อเดินทางต่อไปยังจังหวัดนครปฐม ซึ่งถือเป็นวันสุดท้ายของภารกิจระดมทุนสานฝัน "ศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียนเชียงดาว"

พิธีปล่อยตัวในช่วงเช้าเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชน ตัวแทนภาคเอกชน องค์กรการกุศล และกลุ่มชมรมจักรยานต่างๆในจังหวัดสุพรรณบุรีมารอต้อนรับ จำนวนกว่า 300 คน นอกจากนี้ยังมีนางฟ้านักปั่นคนสวยมาช่วยเพิ่มสีสัน รวมทั้งขบวนกลองยาวจากนักเรียนโรงเรียนสุพรรณบุรีปัญญานุกูล บรรเลงบทเพลงขับกล่อมบรรยากาศให้สนุกสนานครื้นเครง

ขณะเดียวกันได้รับมอบเงินบริจาคจากชาวจังหวัดสุพรรณบุรีเป็นจำนวนเงินกว่า 459,739 บาท (สี่แสนห้าหมื่นสองพันหนึ่งร้อยเก้าสิบเก้าบาท) โดยมี นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นตัวแทนส่งมอบเงินจำนวนดังกล่าว เพื่อสนับสนุนการก่อสร้างศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ให้แล้วเสร็จ ซึ่งจะเป็นต้นแบบศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอย่างครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างอาชีพที่ยั่งยืนให้กับผู้พิการ สำหรับยอดเงินบริจาคจากช่องทางต่างๆที่ได้รับทั้งสิ้นในขณะนี้ อยู่ที่ประมาณ 5.9 ล้านบาท (ห้าล้านเก้าแสนบาท)

นายสุวิทย์ อินต๊ะวิกุล ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา 5 จังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนให้โครงการ “ปั่นไปไม่ทิ้งกัน  No One Left Behind ปี 2” เดินทางจนถึงจุดหมาย

"เราเป็นหน่วยงานที่ทำงานพัฒนาศักยภาพคนพิการด้านการศึกษาอยู่แล้ว แต่โครงการปั่นไปไม่ทิ้งกัน  No One Left Behind ปี 2 นี้ มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการทั้งระบบ ด้วยการสร้างศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน เพื่อให้คนพิการได้มีทักษะในการทำงานหาเลี้ยงชีพ สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น พวกเราชาวจังหวัดสุพรรณบุรี ขอเป็นกำลังใจให้ทางมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการทำตามเป้าหมายได้สำเร็จ"

เส้นทางการปั่นจักรยานของวันที่สิบสี่ เริ่มเคลื่อนขบวนจากหอคอยบรรหาร-แจ่มใส ก่อนมุ่งหน้าไปยังจุดแรกที่วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร และจุดที่สอง ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง สุพรรณบุรี  จากนั้นปั่นต่อไปยังวัดอาน อำเภอบางปลาม้า แล้วแวะพักรับประทานอาหารที่วัดไผ่โรงวัว อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งตรงจุดนี้ ได้มีการมอบพุ่มผ้าป่าเงินบริจาคแก่โครงการปั่นไปไม่ทิ้งกัน โดยมี นายวิศิษฐ์ อนันต์วรปัญญา นายอำเภอสองพี่น้อง เป็นประธานในพิธี เสร็จแล้วช่วงบ่ายเหล่านักปั่นจึงปั่นผ่านไปยังจุดที่ห้า องค์การบริหารส่วนตำบลบางไทรป่า และจุดที่หก เมืองรัตติยา อำเภอบางเลน สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดนครปฐม ก่อนจะถึงจุดหมายปลายทางที่ศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการ อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม รวมระยะทางทั้งสิ้น 96 กิโลเมตรโดยคาดว่าจะถึงในเวลา 16.00 น.

อย่างไรก็ตามช่วงเย็นวันนี้จะมีพิธีปิดโครงการปั่นไปไม่ทิ้งกัน No One Left Behind ปี 2 อย่างเป็นทางการ  ณ ศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม โดยมี นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมเป็นประธานในพิธี พร้อมมอบเงินสนับสนุนโครงการฯ จากประชาชนชาวจังหวัดนครปฐม โดยมี ศาสตราจารย์วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ประธานมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ กล่าวสรุปผลการดำเนินการโครงการในครั้งนี้ด้วย

โครงการปั่นไปไม่ทิ้งกัน No One Left Behind ปี 2 ถือเป็นครั้งที่สองของประเทศไทย ที่ผู้พิการตาบอดจำนวน 20 ชีวิต ร่วมกับนักปั่นจิตอาสาปั่นนำอีก 20 ชีวิต จะรวมพลังสามัคคีปั่นจักรยานเป็นระยะทางรวมกว่า 1,500 กิโลเมตร 14 วัน 15 จังหวัด ระหว่างวันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ถึงวันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 โดยเริ่มต้นจากกรุงเทพมหานคร ผ่านจังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดจันทบุรี จังหวัดตราด จังหวัดสระแก้ว จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดลพบุรี จังหวัดสระบุรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสุพรรณบุรี และจังหวัดนครปฐม เพื่อหาทุนสนับสนุนการก่อสร้าง ศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน ที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ และศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน ที่อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ภายใต้ความมุ่งหวังที่จะสร้างงานสร้างอาชีพให้ผู้พิการอย่างยั่งยืน และยังเป็นการสานต่องานที่ “พ่อ” ทำ ด้วยการเปลี่ยน “ภาระ” ให้กลายเป็นอีกหนึ่ง “พลัง” ในการพัฒนาและสร้างสรรค์สังคม