การเลือกสีทาบ้านขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมหลาย ๆ อย่าง โดยเฉพาะการเลือกสีทาภายนอกกับสีทาภายใน ที่หลายคนยังเข้าใจผิดคิดว่าสามารถใช้แทนกันได้ แต่จริง ๆ แล้วไม่สามารถใช้แทนกันได้ เพราะสีทั้ง 2 ประเภท มีความแตกต่างทั้งในด้านสภาพอากาศและสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะสีทาภายในที่ใช้ภายในที่อยู่อาศัย นอกจากความชอบแล้ว คุณควรเลือกสีทาภายในโดยพิจารณาจากคุณภาพมาตรฐานของสี เพราะคุณสมบัติสีทาภายในที่ดีควรปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้พักอาศัย เช่น กลิ่นไม่ฉุน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย ฯลฯ วันนี้เราจะมาแนะนำเคล็ดลับการเลือกซื้อสีทาภายใน ว่าควรเลือกใช้อย่างไรให้เหมาะกับบ้านอย่างลงตัว
สีทาภายในกับสีทาภายนอก ต่างกันอย่างไร
สีทาภายใน ใช้สำหรับงานภายในโดยเฉพาะ ไม่มีคุณสมบัติทนแดด ทนฝน สีทาภายในส่วนใหญ่จะเป็นสีที่ปราศจากสารเคมีเจือปน เนื้อสีมีความละเอียดสูง และมีกลิ่นไม่ฉุนมาก หรือบางชนิดไม่มีกลิ่นเลย ปัจจุบันนวัตกรรมต่าง ๆ ได้มีการคิดค้นพัฒนาสีทาภายใน ออกมาหลากหลายรูปแบบให้เหมาะกับการใช้งาน เช่น สีที่สามารถเช็ดทำความสะอาดง่าย ทนต่อการสกปรกเปรอะเปื้อน ไม่มีส่วนผสมของสารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
สีทาภายนอก มีคุณสมบัติทนแดด ทนฝน ทนสภาพอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลง สีจะมีแรงยึดเกาะแน่น ไม่หลุดลอกง่าย อีกทั้งสามารถป้องกันอุณหภูมิความร้อน สะท้อนรังสียูวีจากดวงอาทิตย์ได้ ป้องกันความชื้นและคราบสกปรกต่าง ๆ และการเกิดเชื้อราบนผนังบ้านได้เป็นอย่างมีประสิทธิภาพ สีทาภายนอกที่ดีจะมีความทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน โดยสีไม่ซีดจาง
เคล็ดลับที่ควรรู้ก่อนเลือกสีทาภายใน
เลือกจากความชอบ
แน่นอนว่าคุณสมบัติข้อแรกในการเลือกสีนั้น คงต้องขึ้นอยู่กับรสนิยมความชอบของผู้ใช้งานเป็นหลัก บางคนอาจจะชอบสีโทนอ่อน ๆ ให้ห้องดูกว้างขวางสบายตา บางคนอาจจะชอบสีโทนเข้ม ให้ห้องดูโมเดิร์นทันสมัย มีมิติน่าค้นหา บางคนอาจจะชอบสีพาสเทล สีเอิร์ธโทน หรือบางคนอาจจะชอบสีที่มีความมันเงา หรือสีด้าน การเลือกสีทาภายในขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย รวมถึงดีไซน์ของบ้าน เพื่อให้ได้บรรยากาศการอยู่อาศัยมากที่สุด
เลือกให้ตรงกับวัสดุที่ใช้
สีทาภายในแต่ละชนิดผลิตออกมาเพื่อตอบสนองการใช้งานที่แตกต่างกัน ตามพื้นผิววัสดุของผนังบ้าน ตั้งแต่ผนังไม้แท้จากธรรมชาติ ไม้เทียม ผนังคอนกรีต ไปจนถึงวัสดุที่เป็นส่วนประกอบต่าง ๆ ของบ้าน เช่น เหล็ก เราควรเลือกสีสำหรับทาภายใน ให้ตรงกับวัสดุที่ใช้งานด้วยว่า เป็นวัสดุประเภทใด เพื่อใช้งานให้ตรงกับคุณสมบัติของสีทาภายใน ทำให้เกิดประสิทธิภาพ ทนทาน และเหมาะกับพื้นผิวของวัสดุนั้น ๆ มากที่สุด
เลือกจากคุณสมบัติพิเศษของสี
คุณสมบัติทั่ว ๆ ไปของสีคือ ความสวยงามและความทนทาน แต่สีทาภายในหลาย ๆ ยี่ห้อก็ได้มีการพัฒนาสีที่มีส่วนผสมพิเศษ ให้เลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสม เช่น สีที่ช่วยป้องกันการเกิดคราบสกปรกบนผนัง ป้องกันรอยขีดข่วน หรือแม้กระทั่งสีทาภายในชนิดแห้งเร็วและไม่มีกลิ่นฉุน ทาเสร็จแล้วพร้อมเข้าอยู่ได้ทันที หรือสีที่มีคุณสมบัติเช็ดล้างทำความสะอาดได้บ่อย ๆ โดยไม่ทำให้ผนังหลุดลอก หรือซีดจาง รวมทั้งยังมีสีทาภายในที่มีคุณสมบัติที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น สีที่ช่วยป้องกันความชื้น ป้องกันเชื้อรา และแบคทีเรีย เป็นต้น
เลือกจากความปลอดภัยในการอยู่อาศัย
การดูแลสุขภาพและสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนต้องใส่ใจ การเลือกสีทาภายในก็เช่นเดียวกัน สีทาภายในที่ดีต้องช่วยปกป้องสุขภาพของผู้อยู่อาศัยภายในบ้านให้ปลอดภัยมากที่สุดด้วย ดังนั้น การเลือกสีทาภายในบ้านควรเลือกสีที่ปลอดสารพิษ ปราศจากสารระเหยต่าง ๆ เช่น สารปรอท สารตะกั่ว สารฟอร์มัลดีไฮด์ หรือสารก่อมะเร็ง สารโลหะหนักเป็นอันตรายต่อร่างกาย ปริมาณค่า VOCs หรือสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (Volatile Organic Compounds) ของสีควรมีค่าเป็น Low หรือ Zero
เลือกจากการดูแลทำความสะอาดง่าย
หากเป็นครอบครัวใหญ่ หรือมีเด็ก ๆ อาศัยอยู่ด้วย คุณอาจจะพิจารณาสีทาภายในที่มีคุณสมบัติดูแลและทำความสะอาดได้ง่าย เนื่องจากการทำกิจกรรมต่าง ๆ ภายในบ้านอาจส่งผลให้ผนังสกปรก เช่น รอยปากกา คราบจากการขีดเขียน หรือเขม่าควันจากการทำอาหาร ซึ่งร่องรอยต่าง ๆ เหล่านี้ มักเกิดขึ้นได้เสมอโดยไม่ทันคาดคิด สีทาภายในที่สามารถทำความสะอาดได้ง่าย โดยไม่ทิ้งคราบและรอยด่างดำ เป็นทางเลือกที่ดี ในการช่วยลดปัญหาผนังบ้านสกปรกได้เป็นอย่างดี
หลายคนอาจจะคิดว่าการเลือกสีทาภายใน ไม่เห็นจะต้องยุ่งยากอะไร แต่อย่าลืมว่าหากเลือกสีที่เหมาะสมและลงตัวกับความต้องการ ก็ช่วยให้ทุกองค์ประกอบในบ้านมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น และยังมีความปลอดภัยสำหรับทุกคนในครอบครัวอีกด้วย ใครกำลังมองหาข้อมูลดี ๆ เพิ่มเติม หรืออยากเลือกผลิตภัณฑ์ใช้งานที่หลากหลาย แนะนำให้เข้าไปที่เว็บไซต์ TOA ที่ได้รวมสาระความรู้ต่าง ๆ ที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ เพื่อการตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ให้ตอบโจทย์ความต้องการได้มากที่สุด
