Around Town

คีเลชั่นบำบัด ทางเลือกใหม่ของการกำจัดสารพิษ ที่ทำให้ย้อนวัยได้ ในวันที่ย้อนเวลาไม่ได้

1 Mins read

การใช้ชีวิตในแต่ละวันของเราทุกคนคงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า มีสารพิษโลหะหนักอยู่รอบตัว เช่น ตะกั่ว ปรอท แคทเมียม อลูมิเนียม สารหนู  เป็นต้น  ซึ่งเรารับเข้าสู่ร่างกายทั้งที่รู้และไม่รู้ตัวจากหลากหลายที่มา “น้ำที่ทาน อากาศที่หายใจ ไม่ได้บริสุทธิ์เสมอไป” จากสารเคมี มลภาวะ โลหะหนักชนิดต่างๆที่ปนเปื้อนมากับอาหาร น้ำดื่ม เครื่องใช้อุปโภคบริโภค ที่มีโอกาสหลุดเข้าร่างกายผ่านทางการกิน ดื่ม หายใจ สัมผัส ในแต่ละวัน และที่น่าแปลกใจอย่างยิ่งก็คือ สารบางชนิด ร่างกายไม่สามารถกำจัดออกโดยวิธีการทางธรรมชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มของ “โลหะหนัก” จึงทำให้ ปริมาณสารต่างๆที่ตกค้างในร่างกาย นับวันยิ่งสะสมในร่างกายสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเมื่อร่างกายได้รับสารเหล่านี้สะสมเป็นเวลานาน จะมีผลทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง เกิดความเสื่อมหรือชำรุดในระดับเซลล์ และเมื่อเกิดความเสียหายหลายๆ เซลล์จนกลายเป็นระดับเนื้อเยื่อ เมื่อถึงเวลานั้นจะมีผลทำให้เกิดอาการ หรือโรคต่างๆ ตามมาได้“แพทย์หญิงณัฐชนากานต์ ณัฐกิตติ์โภคิน”

IMG 6585

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและศาสตร์แห่งการชะลอวัย ผู้ก่อตั้ง 24th Wellness Clinic Page : 24th Clinic, 24th Wellness Clinic, Doctor24th หรือที่คนไข้เรียกกันติดปากว่า “หมอหยิน” ได้ตระหนักและเล็งเห็นถึงการตรวจหาปริมาณโลหะหนักที่สะสมในร่างกาย จะเหมาะกับผู้ที่มีภาวะเสี่ยงที่จะได้รับสารพิษโลหะหนักมากกว่าคนปกติ อันเนื่องมาจากสิ่งแวดล้อม ทำงานโรงงาน อยู่ใกล้แหล่งผลิตแร่, เหมือง หรือมีภาวะเสี่ยงที่อาจเป็นโรคต่างๆ ที่เกิดจากพิษของโลหะหนักได้ เช่น โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ความดันโลหิตสูง กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เบาหวาน นอกจากนี้ คนทั่วไปก็สามารถที่จะตรวจหาได้ตั้งแต่เนิ่นๆ แม้จะยังไม่มีอาการดังที่กล่าวไว้ข้างต้น  จนกระทั่งพบทางออกล่าสุดที่สามารถนำเอาสารพิษโลหะหนักเหล่านี้ออกจากร่างกายได้โดยง่ายและปลอดภัย เมื่อเราได้ทำการตรวจหาปริมาณโลหะหนักที่ตกค้างในร่างกายแล้ว การรักษาด้วยวิธี “คีเลชั่น” จะเข้ามามีบทบาทในการดูแลสุขภาพของคุณ“คีเลชั่น” คือการนำสารบางชนิดที่มีคุณสมบัติในการจับกับโลหะหนักที่ตกค้างตามเนื้อเยื่อของร่างกายหรือในหลอดเลือด ในที่นี้คือรูปแบบ EDTA โดยผ่านการนำเข้าสู่ร่างกายมีหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นผ่านทางหลอดเลือดดำ, การดูดซึมผ่านทางเดินอาหาร หรือทางการเหน็บทวารหนัก

โดยโมเลกุลสารนี้สามารถจับกับโลหะหนักและขับออกทางกระแสเลือด และสารนี้จะถูกขับออกในรูปของปัสสาวะพร้อมกับโลหะหนักที่จับได้ภายในวันต่อๆ มา โดยประโยชน์ของการทำ “คีเลชั่น” คือ รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่าขึ้น อาการปวดเรื้อรังลดลง ผื่นผิวหนังที่เคยเป็นเรื้อรังเริ่มลดลงหรือหายไป อาการบวมตามส่วนต่างๆของร่างกายลดลง อาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลียเรื้อรังลดลง  ลดความเสี่ยงของโรคที่เกี่ยวกับระบบหัวใจและหลอดเลือด  ลดความเสี่ยงของโอกาสเกิดอัลไซเมอร์และสำหรับใครบ้างที่เหมาะกับการทำ “คีเลชั่น” ก็คือผู้ที่ตรวจพบสารโลหะหนักในเลือด เนื้อเยื่อ หรือในปัสสาวะ  ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการได้รับสารพิษในปริมาณมาก เนื่องมาจากอาชีพ หรือสิ่งแวดล้อมที่มีผลกระทบ

IMG 6586

รวมถึงผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรคที่เกี่ยวกับระบบหัวใจ และหลอดเลือด เช่น เส้นเลือดหัวใจตีบ, เบาหวาน เป็นต้น ผู้ที่มีภาวะเครียดสะสมเป็นเวลานาน ทั้งทางกายและทางจิตใจ (Physical and Mental Stress) และมีพฤติกรรมสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์โดยขั้นตอนในการทำ “คีเลชั่น” คือ แพทย์จะทำการผสมตัวยาคีเลชั่น วิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ ที่จำเป็นในขวดน้ำเกลือขนาด 100 ml.  และนำยาคีเลชั่นและสารน้ำดังกล่าวให้ผู้รับบริการผ่านทางหลอดเลือดดำ เหมือนการให้วิตามินทั่วไป ประมาณ 20-30 นาที ระหว่างทำสามารถนอนพักผ่อนตามอัธยาศัย หรือสามารถดูหนัง เล่นโทรศัพท์ อ่านหนังสือ รับประทานอาหารได้ตามปกติ และทำซ้ำได้ทุกๆ 1-2 สัปดาห์ โดยทำต่อเนื่องอย่างน้อยติดกัน 10-20 ครั้ง โดยจะตรวจหาปริมาณสารโลหะหนักซ้ำหลังทำการรักษาต่อเนื่องอย่างน้อย 10 ครั้งการทำคีเลชั่น เป็นหนึ่งในขั้นตอนของการกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย ซึ่งถือว่าเป็นขั้นตอนที่จำเป็นและมีความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ ก็เพราะว่า เซลล์ร่างกายคนเรา จะสามารถรับอาหารหรือวิตามินได้อย่างเต็มที่มีประสิทธิภาพนั้น ก็ต่อเมื่อร่างกายได้ขจัดสารตกค้าง สารอนุมูลอิสระออกเต็มที่ จึงจะทำให้วิตามินและเกลือแร่ต่างๆ ส่งผลต่อการทำงานของเซลล์ได้อย่างเต็มที่ มีประสิทธิภาพและเป็นวิธีไม่ลับฉบับของแพทย์หญิงของยุคนี้