Around Town

วิธีเตรียมตัวก่อนไปฉีดสเต็มเซลล์หน้าเด็กหน้าใส ย้อนวัยให้ผิว

1 Mins read

beautician doing filler injection female client 0

วิธีเตรียมตัวก่อนไปฉีดสเต็มเซลล์หน้าเด็กหน้าใส ย้อนวัยให้ผิว

            อยากมีผิวหน้าใส ผิวหน้าเด็ก ทำไมต้องเลือกฉีดสเต็มเซลล์หน้าใส สเต็มเซลล์ทำแล้วให้ผลดีแค่ไหน มีเอฟเฟ็คไหม สเต็มเซลล์หน้าใสราคาเท่าไหร่ และต้องเตรียมตัวอย่างไรหากอยากจะไปฉีดสเต็มเซลล์หน้าเด็กหน้าใส วันนี้ เราจะมาพาทุกคนไปรู้จักกับวิทยาการสุดล้ำในการฟื้นฟูผิวด้วยสเต็มเซลล์  พร้อมด้วยเคล็ดลับวิธีการเตรียมตัวก่อนไปฉีดสเต็มเซลล์เพื่อย้อนวัยให้ผิว

    ไขความลับ “สเต็มเซลล์” ช่วยหน้าใส ย้อนวัยให้ผิวได้จริงหรือ?

            ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ต้นตอสำคัญที่ทำให้ผิวของเราหมองคล้ำ เหี่ยวย่นนั้น เกิดจากการเสื่อมสลายของเซลล์ผิวซึ่งเป็นไปตามกลไกของร่างกาย ดังนั้น วิทยาการสมัยใหม่ที่ช่วยในการฟื้นฟูผิวโดยการซ่อมแซมเซลล์ผิวที่สึกหรอหรือสูญเสียไปโดยตรงด้วยสเต็มเซลล์ จึงเป็นวิธีการที่ให้ผลดีที่สุดในการฟื้นฟูผิวหน้าให้กลับมากระจ่างใส ย้อนวัยให้เรามีผิวเด็กอย่างเป็นธรรมชาติ

            สเต็มเซลล์ (Stem Cell) หรือ เซลล์ต้นกำเนิด เป็นเซลล์ตัวอ่อนที่สามารถแบ่งตัวได้อย่างไม่มีขีดจำกัด และสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองไปเป็นเซลล์อื่นๆ ที่ช่วยซ่อมแซมส่วนสึกหรอของร่างกายได้อย่างไม่จำกัด ในเวลาที่เราเจ็บป่วยหรือเซลล์บางส่วนเกิดการบาดเจ็บ stem cell ก็จะทำหน้าที่ซ่อมแซมบาดแผล และสร้างเซลล์ใหม่เพื่อมาทดแทนเซลล์เก่าที่ตายไป ในวงการความงาม เวชศาสตร์ชะลอวัย เราจึงใช้ stem cell ในการฟื้นคืนผิวที่เหี่ยวย่น มีร่องรอยตามวัยให้กลับมากระชับ แลดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยการฉีดสเต็มเซลล์เข้าไปในร่างกายเพื่อสร้างเซลล์ใหม่ ที่ช่วยแก้ไขส่วนบกพร่องบนใบหน้า เช่น ช่วยเติมเต็มริ้วรอย ช่วยให้ผิวพรรณสดใส กระชับ โดยการฉีดสเต็มเซลล์หน้าเด็กหน้าใส ย้อนวัยผิวนั้นให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและถาวร แลดูเป็นธรรมชาติมากกว่าหัตถการอื่นๆ

การเตรียมตัวก่อนไปฉีดสเต็มเซลล์

เข้ามาปรึกษาพูดคุย ศึกษาข้อมูลกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ   การทำหัตถการด้วยการฉีดสเต็มเซลล์หน้าเด็กหน้าใส ย้อนวัยให้ผิว ถือเป็นวิทยาการด้านการแพทย์เพื่อความงามที่ก้าวหน้าที่สุดรูปแบบหนึ่ง ดังนั้น สิ่งที่เราต้องเตรียมตัวก่อนการฉีดสเต็มเซลล์คือการเข้าไปปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้แพทย์ได้ศึกษาข้อมูลรายละเอียด วัตถุประสงค์และผลลัพธ์ที่เราอยากจะได้จากการฉีดสเต็มเซลล์  รวมทั้งแพทย์จะได้ให้คำแนะนำกับเราด้วย ในขั้นตอนนี้ เราจะได้ทราบในเบื้องต้นด้วยว่า ค่าบริการสเต็มเซลล์หน้าใสราคาเท่าไหร่

แจ้งโรคประจำตัวก่อนเข้ารับการฉีด

หากมีโรคประจำตัวหรือยารักษาโรคประจำตัวที่ทานประจำควรบอกแพทย์ผู้ดูแลก่อนการเข้ารับการฉีด เพื่อให้แพทย์พิจารณาในการแนะนำอย่างละเอียด ทั้งนี้ โดยทั่วไปแล้วก่อนเข้ารับการฉีดสเต็มเซลล์หน้าใส แพทย์จะแนะนำให้งดการทานวิตามิน หรือผลิตภัณฑ์อาหารเสริมต่างๆ ก่อนการฉีดสเต็มเซลล์ประมาณ 2 สัปดาห์

close up woman lip filler procedure 0

นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 – 10 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายของเรามีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการรับเซลล์ที่จะฉีดเข้าไป และช่วยให้ประสิทธิภาพในการทำงานของเซลล์ดีที่สุด

งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  งดเว้นการสูบบุหรี่ ประมาณ 2 สัปดาห์ ก่อนฉีดสเต็มเซลล์เพื่อการดูแลผิวหน้า เนื่องจากการดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ มีแนวโน้มกระตุ้นหรือทำให้ร่างกายเกิดการสึกหรอ เกิดอาการอักเสบของส่วนต่างๆ ได้ง่าย การที่ร่างกายเกิดการอักเสบหรือบาดเจ็บสึกหรอในส่วนต่างๆ จะทำให้สเต็มเซลล์ที่เราฉีดเข้าไปนั้น กระจายไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย จึงอาจจะส่งผลให้การฉีดสเต็มเซลล์เพื่อฟื้นฟูผิวหน้าได้ผลลัพธ์ไม่เต็มประสิทธิภาพที่ควรจะได้

งดเว้นการออกกำลังกายหนักๆ

งดเว้นการออกกำลังกายที่หักโหม หรือการกระทำใดๆ ที่จะทำให้ร่างกายเกิดการบาดเจ็บหรืออักเสบ ทั้งนี้ก็เพื่อให้สเต็มเซลล์ที่เราฉีดเข้าไป พุ่งตัวไปฟื้นฟูได้ตรงจุดที่เราต้องการคือใบหน้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ  ไม่วิ่งเข้าไปฟื้นฟูในส่วนที่ร่างกายบาดเจ็บทดแทนนั่นเอง

หลีกเลี่ยงการทำหัตถการอื่นๆมาก่อน

ก่อนการฉีดสเต็มเซลล์เพื่อผิวหน้าใส ต้องหลีกเลี่ยงการทำหัตถการอื่นๆ เช่น โบท็อก การเติมฟิลเลอร์ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ หรือตามคำแนะนำของแพทย์

            จะเห็นได้ว่าการเตรียมตัวเพื่อฉีดสเต็มเซลล์หน้าใส ย้อนวัยให้ผิวนั้นมีขั้นตอนที่น้อยมาก เรียกได้ว่าแทบไม่ต้องทำอะไรเลย นอกจากดูแลรักษาสุขภาพให้ดี และปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน สำหรับผู้ที่สนใจ และอยากทราบว่าค่าบริการสเต็มเซลล์หน้าใสราคาเท่าไหร่นั้น ต้องบอกว่าการฉีดสเต็มเซลล์จะมีราคาแตกต่างกันออกไป โดยมีช่วงราคาประมาณ 100,000-200,000 บาท ซึ่งขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้บริการในการแก้ไขจุดบกพร่องบนใบหน้าและการประเมินร่วมกันของแพทย์