ในยุคที่ข้อมูล (Data) จัดเป็นทรัพยากรที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับภาคธุรกิจ ในแง่ของการวิเคราะห์ วางแผน หรือใช้งานเพื่อการดำเนินธุรกิจ แต่เนื่องด้วยปริมาณของข้อมูลที่มาก แหล่งจัดเก็บข้อมูลจึงนับว่าสำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อไม่ได้เกิดความผิดพลาดและความเสียหายต่อข้อมูล และด้วยปริมาณของข้อมูลที่มากนี้เอง อาจทำให้การจัดเก็บข้อมูลแบบธรรมดามีข้อจำกัด “Cloud Server” จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อตอบโจทย์การดำเนินการธุรกิจและข้อมูลจำนวนมาก โดยการวิจัยและสำรวจจาก International Data Group ระบุว่าในปี 2019 มีผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมต่างๆ หันมาใช้ Could Technology มากถึง 69% แต่หากอยากรู้ว่าธุรกิจไหนควรใช้บริการ Cloud Server บ้าง ตามลงไปอ่านด้านล่างได้เลย
Cloud Server คืออะไร
Cloud Server เป็นการรวมกันของ Physical Server ที่เชื่อมต่อกันหลายๆ ตัว และทำงานร่วมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำหน้าที่จัดเก็บข้อมูลและประมวลผลข้อมูล รองรับปริมาณข้อมูลที่มากขึ้น โดยจะให้บริการในรูปแบบ Virtual Server หรือเซิร์ฟเวอร์เสมือน ที่มีหลักการทำงานคล้ายกันกับ VPS (Virtual Private Server) แต่มีความแตกต่างเล็กน้อยตรงที่ VPS จะใช้เครื่องเซิร์ฟเวอร์เพียงเครื่องเดียว แต่ Cloud Server จะใช้เครื่องเซิร์ฟเวอร์หลายเครื่องในการช่วยทำงาน ทำให้หากเซิร์ฟเวอร์เครื่องใดเสียก็ยังมีเซิร์ฟเวอร์เครื่องอื่นที่ยังคงทำงานได้อยู่ รวมถึง Cloud Server ยังมีชั้นจัดเก็บข้อมูลที่ใช้ SAN Storage ที่เป็นการจัดเก็บข้อมูลแบบแยก Disk ออกมาจากเครือข่ายหลัก ทำให้มีเสถียรภาพและความเร็วสูง
Cloud Server มีประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างไร
เนื่องจาก Cloud Server เป็นเทคโนโลยีที่มีความเสถียรและความเร็วในการจัดเก็บและเรียกใช้งานข้อมูลที่มีศักยภาพสูง สามารถขยายพื้นที่ได้อย่างไม่จำกัด และการใช้งาน Cloud Server ยังเป็นการลงทุนที่สามารถจ่ายเท่าที่ใช้ ผ่านการเช่า Cloud Server จากผู้ให้บริการ ทำให้ต้นทุนก็จะขึ้นอยู่กับปริมาณพื้นที่ที่ต้องการใช้ได้ เหมาะกับธุรกิจหลากหลายรูปแบบตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ที่ข้อมูลเป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจและวิเคราะห์ทิศทางธุรกิจ รวมไปถึงการบริการลูกค้าในด้านต่างๆ ด้วยเช่นกัน
ธุรกิจประเภทไหนควรใช้บริการ Cloud Server
1. ธุรกิจค้าปลีก
โดย Cloud Server และ Cloud Technology สามารถเปลี่ยนโฉมการทำงานของธุรกิจค้าปลีกให้สะดวกขึ้นด้วยการขยายและปรับระบบโครงสร้างพื้นฐานเพื่อจัดการรายการสิ่งของ การขายสินค้าหรือข้อมูลลูกค้า นอกจากนี้การใช้ Cloud Server ยังสามารถช่วยจัดการข้อมูลในเรื่องธุรกรรมการเงิน ฐานข้อมูลลูกค้า เพื่อประกอบการตัดสินใจในการจัดโปรโมชั่นหรือแคมเปญสนับสนุนการขายได้อีกด้วย
2. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ Cloud Server จะมีประโยชน์ในแง่ของการอำนวยความสะดวกเพื่อความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ความร่วมมือ และการบริหารจัดการข้อมูล ซึ่งในส่วนนี้ Cloud Server จะมีประโยชน์ในแง่ของการทำธุรกรรม การจัดเก็บเอกสาร หรือแม้กระทั่งการบริหารจัดการทรัพย์สิน ซึ่งการที่ข้อมูลในส่วนนี้สามารถเข้าถึงได้ทันที จากทุกที่ทุกเวลา ถือว่ามีประโยชน์ในการนำข้อมูลวิเคราะห์ตลาดเชิงลึก
3. ธุรกิจยานยนต์
อุตสาหกรรมยานยนต์ถือว่าเป็นอีกธุรกิจที่ต้องทำงานกับข้อมูลเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นการจัดการระบบคลังสินค้าและการเชื่อมโยงข้อมูลกับตำแหน่งให้บริการต่างๆ ที่การใช้งานระบบ Cloud Server จะช่วยให้การจัดการและเข้าถึงข้อมูลในตำแหน่งที่ตั้งต่างกันทำได้ง่ายขึ้น ช่วยทั้งอำนวนความสะดวกในการทำงานและอำนวยความสะดวกในการบริการลูกค้า เพิ่มโอกาสการซื้อขายให้สำเร็จได้มากขึ้น
4. ธุรกิจสื่อและความบันเทิง
การใช้งาน Cloud Server จะเปลี่ยนโฉมธุรกิจสื่อและความบันเทิงด้วยการสร้าง จัดเก็บ และเผยแพร่สื่อในรูปแบบต่างๆ ทั่วโลก นอกจากนี้ การใช้งาน Cloud Server ยังทำให้ทุกขั้นตอนในการผลิตสื่อง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการ Streaming หรือการอัพโหลด Content ต่างๆ ลงบนโลกออนไลน์
5. ธุรกิจในกลุ่มเกษตรกรรม
ต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีเกษตรกรรมในปัจจุบันมีความทันสมัยขึ้นมาก ยกตัวอย่างเช่น การใช้โดรนเพื่อการเกษตร ทำให้การนำเทคโนโลยีมาช่วยเรื่องการเกษตร จึงพ่วงมาด้วยข้อมูลจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นการเก็บข้อมูล การจัดการข้อมูล หรือการวิเคราะห์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการทำเกษตรกรรม เช่น การติดตามการเจริญเติบโตของพืชผลทางการเกษตร การวิเคราะห์สภาพอากาศ เป็นต้น ทำให้ Cloud Server เอง สำคัญกับธุรกิจกลุ่มเกษตรกรรมไม่น้อยไปกว่าธุรกิจอื่นๆ
และนี่คือตัวอย่างของ 5 ธุรกิจที่การใช้ Cloud Server จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการจัดการ รวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งการเช่า Cloud Server จากผู้ให้บริการที่ดีและน่าเชื่อถือ เป็นอีกทางเลือกที่จะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการข้อมูลอย่างแน่นอน