Around Town

การทำ icsi คืออะไร มีข้อดีอย่างไร และมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง

1 Mins read

ปัจจุบันคนส่วนใหญ่แต่งงานช้า และมีลูกช้าลง ทำให้มีปัญหาการมีบุตรยาก หลายคนต้องใช้บริการโรงพยาบาลที่ช่วยดูและให้คำปรึกษาเรื่องการมีบุตรยาก และหนึ่งในวิธีในการดูแลรักษาก็คือ การทำ ICSI แต่รู้หรือไม่ว่าการทำ ICSI คืออะไร และมีขั้นตอนในการทำอย่างไร ในบทความนี้มีคำตอบมาบอกกัน ไปดูกันเลย 

25 bdmswellness

การทำ ICSI คืออะไร 

ICSI ย่อมาจาก Intracytoplasmic Sperm Injection คือ การฉีดอสุจิเข้าสู่เซลล์ไข่โดยตรง   เป็นเทคนิคการผสมเทียมขั้นสูงที่ช่วยให้คู่รักที่มีปัญหาภาวะมีบุตรยากสามารถมีโอกาสตั้งครรภ์ได้มากขึ้น โดยแพทย์จะทำการคัดเลือกอสุจิที่แข็งแรงที่สุดเพียงตัวเดียว ฉีดเข้าสู่เซลล์ไข่โดยตรง 

การทำ ICSI ในปัจจุบันคือ วิธีการที่หลายคนนิยม เนื่องจากมีการคัดเลือกอสุจิที่มีความสมบูรณ์และแข็งแรง ทำให้เด็กที่เกิดมามีความสมบูรณ์และแข็งแรงตามไปด้วย 

การทำ ICSI เหมาะกับใคร 

              รู้จักกันไปแล้วว่าการทำ ICSI คืออะไร ขั้นต่อไปคือการไปดูว่าการทำ ICSI คือวิธีการที่เหมาะสมกับคู่ของเราหรือไม่ ซึ่งการทำ ICSI เหมาะสำหรับคู่รักที่มีปัญหาภาวะมีบุตรยาก ดังนี้

  • ฝ่ายชายมีจำนวนอสุจิน้อย อสุจิเคลื่อนที่ช้า หรืออสุจิผิดปกติ
  • ฝ่ายหญิงมีปัญหาการตกไข่ หรือมีท่อนำไข่ตัน
  • เคยทำ IVF มาแล้วหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ
  • ต้องการคัดกรองเชื้อพันธุกรรมก่อนการตั้งครรภ์

              อย่างไรก็ตาม การทำ ICSI ควรจะต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการมีบุตรยาก ว่าเป็นวิธีการที่เหมาะสมหรือไม่ โดยแพทย์จะทำการตรวจร่างกายและวินิจฉัยต่อไป

ข้อดีของการทำ ICSI คืออะไร

              สำหรับการทำ ICSI มีข้อดีหลากหลายประการ ดังต่อไปนี้ 

  • เพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในคู่รักที่มีปัญหาภาวะมีบุตรยาก
  • สามารถใช้กับอสุจิที่มีจำนวนน้อย อสุจิเคลื่อนที่ช้า หรืออสุจิผิดปกติ
  • สามารถคัดกรองเชื้อพันธุกรรมก่อนการตั้งครรภ์ ทำให้ลดปัญหาเรื่องโรคติดต่อทางพันธุกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ช่วยให้คู่รักที่มีภาวะมีบุตรยาก สามารถมีบุตรได้ 

ขั้นตอนการทำ ICSI

              กระบวนการทำ ICSI มีขั้นตอนคร่าว ๆ ดังต่อไปนี้ 

  1. กระตุ้นการตกไข่ แพทย์จะให้ยาฮอร์โมนเพศหญิงแก่ฝ่ายหญิง เพื่อกระตุ้นให้รังไข่ผลิตไข่หลายใบ
  2. เก็บไข่ แพทย์จะทำการเก็บไข่โดยใช้เข็มดูดไข่ผ่านช่องคลอด
  3. เตรียมอสุจิ ฝ่ายชายจะเก็บตัวอย่างน้ำเชื้อ แพทย์จะคัดเลือกอสุจิที่แข็งแรงที่สุด และไม่มีปัญหาเรื่องโรคทางพันธุกรรม 
  4. ฉีดอสุจิเข้าสู่เซลล์ไข่ แพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กฉีดอสุจิ 1 ตัวเข้าสู่เซลล์ไข่ 1 ใบ
  5. เลี้ยงตัวอ่อน ตัวอ่อนที่เกิดจากการผสมเทียมจะถูกเลี้ยงในห้องปฏิบัติการ เป็นเวลา 3-5 วัน
  6. ย้ายตัวอ่อน แพทย์จะคัดเลือกตัวอ่อนที่สมบูรณ์แข็งแรง ย้ายกลับเข้าสู่โพรงมดลูกของฝ่ายหญิง

การทำ ICSI คือ เทคนิคการผสมเทียมที่ซับซ้อน แต่ก็เป็นอีกวิธีที่ได้รับความนิยมสูง สามารถช่วยแก้ไขปัญหาการมีบุตรยากได้ และมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าเทคนิคอื่น ๆ