เดินเรื่องมาถึงตอนอวสานกันแล้ว สำหรับละครแอ็คชั่น คอมเมดี้ เรื่อง “พยัคฆ์ยี่เก” กำกับการแสดงโดย ทองก้อน ศรีทับทิม ผู้กำกับคู่บารมีของ พรพิมล มั่นฤทัย แห่งค่ายโคลีเซี่ยม อินเตอร์กรุ๊ป ในเมื่อเนื้อหาของเรื่องเกี่ยวกับลิเก ตอนจบซึ่งเป็นฉากหวานๆ จึงจบลงที่บนเวทีลิเกเช่นกัน สำหรับฉากนี้ บังอร (แก้ม ญาณิศา) ตำรวจหญิงสาวบู๊ ที่ไม่เคยได้ใส่กระโปรง หรือชุดหวานๆสวยๆกับเขาเลย ยอมโดดขึ้นเวทีลิเก แปลงร่างเป็นผู้หญิงหวานสุดสวย ที่แทบเอาหัวใจของ บุญเอก (ริส วิชญพงศ์) พระเอกลิเกหนุ่มแทบระทวย หลังจากที่เป็นคู่กัดคู่ลุยกันมาตลอด สาเหตุที่บังอรยอมมาเป็นนางเอกลิเกคู่กับบุญเอก ก็เพราะ สารวัตรเดชา(ซัน วงศธร)ได้ไปบนขอให้ อินทิรา(อลิศ ธนัชศลักษณ์) หายป่วยจากการถูกยิง เพราะเธอถูกผู้ร้ายคดีปล้นเพชร จับเอาไปเป็นตัวประกัน โดยเดชาบนให้บังอรมาเล่นลิเกด้วย เพราะบังอรตามจับคดีเรื่องเพชรเช่นกัน ทีแรกบังอรจะไม่ยอม พอทราบเหตุผลที่เดชาบอกจึงต้องยอม
โดยบุญเอกขันอาสาจะเป็นคนซ้อมลิเกให้บังอรเอง พอถึงวันเล่นลิเกแก้บน บังอรจึงได้รับการดูแลเอาใจใส่ จากบุญเอกเป็นอย่างดี พร้อมพาเธอไหว้พ่อแก่ครูที่ชาวลิเกให้ความเคารพนับถือ ใช่ว่าบังอรจะได้รับการดูแลเรื่องแต่งตัวตามเรื่องเท่านั้น แต่เบื้องหลังสาวแก้ม ก็จะมีฝ่ายเสื้อผ้า หน้าผม มาจัดแจงแต่งองค์ทรงเครื่องให้เธอจนสวยงามจริงๆ เรียกว่าสวยหวานเป็นผู้หญิงแค่ฉากนี้ฉากเดียวทั้งเรื่องก็ว่าได้ ก่อนที่จะมีการถ่ายทำให้ตอนกลางคืน ก่อนพระอาทิตย์จะตกดิน สาวแก้ม พร้อมทั้งหนุ่มริส อลิศ ซัน จึงต้องมาซ้อมร้องลิเก และซ้อมร้องเพลงกันก่อน โดยมีคุณพ่อและคุณแม่ของหนุ่มซัน ซึ่งเป็นเจ้าของคณะลิเกตัวจริง มาช่วยสอนให้อย่างเต็มที่ เพราะละครเรื่องนี้ ถ้าหากเป็นเรื่องของลิเก คุณพ่อและคุณแม่ จะช่วยดูแลเรื่องคำร้องและท่ารำ พร้อมทั้งเป็นครูสอนให้ทุกคน แต่เพราะในเรื่องนี้สาวแก้ม ไม่เคยมีฉากที่ต้องเล่นลิเกแม้แต่ฉากเดียว จึงถูกติวเข้มเป็นพิเศษ และด้วยเสียงที่เล็กแหลมเวลาร้องด้วย จึงต้องมีการปรับการจูนให้ทุกอย่างออกมาดีที่สุด
เมื่อได้เวลาถ่ายทำสาวแก้ม ก็จะเป็นคนที่ออกมาร่ายรำและร้องลิเกก่อน ถึงแม้จะมีการซ้อมมาแล้ว แต่พอถ่ายจริงก็ยังต้องมีเทคหลายครั้ง หลังจากนั้นก็จะมีหนุ่มริส อลิศ และซัน ก็มาร้องกันต่อ พร้อมทั้งมีฉากสำคัญที่ นาย มงคล หรือ นาย คอมเมเดียน ถูกปรับเปลี่ยนบทจากตัวร้ายกลายเป็นพระราชา พร้อมทั้งพูดตัดสินแบบมัดมือชก ให้สาวแก้มกลายเป็นแฟนของริสเอาดื้อ พอพระราชาและทุกคนลาเข้าหลังฉากไป ก็จะเหลือพระ-นางแค่ 2 คู่ แต่เรื่องยังไม่ยอมจบแค่นั้น เพราะ อนุชิต(ฟอร์ม ชลพิพรรธน์) ได้ออกมาปรากฎตัว พร้อมทั้งเปิดตัวว่า ทับทิม(มายด์ มาริสา)เป็นแฟน พร้อมขอเชิญให้เธอขึ้นมาบนเวทีด้วย งานนี้จึงจบลงอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง ถือว่าเป็นการถ่ายทำฉากสุดท้ายของละครเรื่องนี้อย่างจริงๆ เมื่อสิ้นเสียงคัทของผู้กำกับ ทุกคนต่างก็พร้อมใจกับปรบมือจนดังกึกก้อง หลังจากนั้น รัญชน์ เมืองลพ โปรดิวเซอร์ ก็ได้ประกาศเชิญผู้กำกับ และ พรพิมล มั่นฤทัย ในฐานะผู้จัดละครเรื่องนี้ ขึ้นมาพูดขอบคุณทีมงานทุกฝ่าย และนักแสดง พอพูดจบผู้จัดใจแม่น้ำ ก็ได้มอบเงินให้กับนักแสดง และทีมงานทุกคน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับละครเรื่องนี้ ทำเอาทุกคนถึงกับยิ้มหน้าบานไปตามๆกัน
โปรดติดตามชมตอนอวสาน ที่มีความสนุกสนานของละครเรื่อง “พยัคฆ์ยี่เก” ได้ในวันอังคารที่ 12 เมษายนนี้ เวลา 18.45 น. ทางช่อง 7 HD.
