ออกสตาร์ทไม่กี่ตอน ความสนุก เนื้อหาเข้มข้นชวนติดตามจัดเต็ม สำหรับละครเรื่อง “รถรางเที่ยวสุดท้าย” ผลิตโดย ไทยพีบีเอส (ThaiPBS) ร่วมกับ บริษัท สตาร์ฟีนิกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด บทประพันธ์/บทโทรทัศน์โดย สมเกียรติ์ วิทุรานิช และกำกับโดยผู้กำกับฝีมือดี จีรภา ระวังการณ์ ซึ่งได้เสียงตอบรับจากแฟนผู้ชมเป็นอย่างดี เพราะเนื้อหาที่สะท้อนถึงเรื่องราวในครอบครัว รวมถึงได้นักแสดงคุณภาพ ทั้งนักแสดงรุ่นใหญ่ และนักแสดงรุ่นใหม่ มาปะทะฝีมือด้านการแสดงกันในละครเรื่องนี้ด้วย
![อาหนิง-นิรุตต์ และ อาหมู-สมภพ โดนใจบทบาทที่รับ ย้ำ!!! “รถรางเที่ยวสุดท้าย” ความสนุกที่ให้แง่คิดคนดู 1 Q05 4410](https://media.newsplus.co.th/2024/02/Q05_4410-1024x682.jpg)
สองนักแสดงชั้นครูอย่าง อาหนิง-นิรุตติ์ ศิริจรรยา กับบท “อารักษ์” และ อาหมู-สมภพ เบญจาทิกุล กับบท “บริพัตร” ที่ทั้งสองเป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่วัยเรียน จนกระทั่งเรียนจบและแยกย้ายกันไป กลับมาเจอกันอีกครั้งก็ล่วงเลยไปกว่า 40 ปีแล้ว แต่ความเป็นเพื่อนก็ยังไม่จางหาย และผุดขึ้นอีกครั้ง!!!
![อาหนิง-นิรุตต์ และ อาหมู-สมภพ โดนใจบทบาทที่รับ ย้ำ!!! “รถรางเที่ยวสุดท้าย” ความสนุกที่ให้แง่คิดคนดู 2 Q05 4483](https://media.newsplus.co.th/2024/02/Q05_4483-682x1024.jpg)
โดย อาหนิง เผยถึงคาแรกเตอร์ “อารักษ์” พร้อมอยากให้ทุกวัยได้ดู “รถรางเที่ยวสุดท้าย” เป็นเรื่องความทรงจำกับเรื่องราวของคนสองวัย
“อารักษ์ เป็นผู้ชายมีอายุคนหนึ่ง แล้วก็มีครอบครัว มีร้านอาหาร และมีเรื่องในอดีตที่มันเกิดเมื่อ 40 ปีก่อน มีลูกชายที่ไม่ค่อยเอาไหน เหมือนพ่อกับลูกที่ไม่ค่อยลงรอยกัน ซึ่งมันก็จะเป็นคติธรรมที่สอนว่ามนุษย์เราเมื่ออยู่ใกล้ชิดกับใคร บางทีก็มักจะมองไม่เห็นความดีของเขา แม้แต่ลูกที่ดูแลเรา คนใกล้ชิดเรา หรือแม้แต่พ่อกับแม่ ซึ่งเรื่องนี้เหมือนจะสอนว่าวันหนึ่ง เราจะนึกได้ว่าสิ่งที่เราทำลงไปมันถูกหรือไม่
![อาหนิง-นิรุตต์ และ อาหมู-สมภพ โดนใจบทบาทที่รับ ย้ำ!!! “รถรางเที่ยวสุดท้าย” ความสนุกที่ให้แง่คิดคนดู 3 9P4A1277](https://media.newsplus.co.th/2024/02/9P4A1277-1024x682.jpg)
ละครเรื่องนี้มีหลายมุมมอง ที่ต้องติดตามชม ด้วยเรื่องวัฒนธรรมของอาหารไทย วัฒนธรรมของความเป็นเพื่อน ซึ่งห่างกันไปแล้วก็ยังดูแลกันอยู่ แล้วเราก็ไปเจอเด็กหนุ่มรุ่นใหม่ที่เขาสนใจในสิ่งที่เรามีอยู่ แต่ลูกเราที่เขาอยู่กับเรา เขากลับไม่สนใจสิ่งที่เรามี นั่นเป็นการสะท้อนสังคมในยุคปัจจุบัน ที่บางคนหนีห่างจากสังคมที่เรามีร่วมกัน แต่คนข้างนอกที่เขาไม่มี เขากลับอยากที่จะเข้ามาอยู่ร่วมกับสิ่งที่เรามี นั่นคือความแตกต่างของสังคมในปัจจุบัน สมัยก่อนลูกก็จะทำตามสิ่งที่พ่อแม่ปู่ย่าตายายพาทำ แต่เดี๋ยวนี้จะฉีกออกไปแล้วไปทำอย่างอื่น เนื่องจากยุคของสังคมใหม่และโซเชียลใหม่ ที่มีแต่คนที่ตามกัน อยากจะเป็นกระแสแล้วก็ทำตาม ซึ่งตัวเองอาจจะมีพรสวรรค์อะไรที่ดีกว่า แต่ไม่ถูกนำเอามาใช้ ไม่เคยถูกคิด ไม่เคยถูกนำมาใช้ มันก็จะหายไป อยากบอกว่าเป็นละครที่ดี ที่ผมอยากจะฝากละครเรื่องนี้ให้ติดตามกันด้วยครับ”
![อาหนิง-นิรุตต์ และ อาหมู-สมภพ โดนใจบทบาทที่รับ ย้ำ!!! “รถรางเที่ยวสุดท้าย” ความสนุกที่ให้แง่คิดคนดู 4 Q05 4491](https://media.newsplus.co.th/2024/02/Q05_4491-682x1024.jpg)
ด้าน อาหมู พูดถึงคาแรกเตอร์ “บริพัตร” พร้อมย้ำชัดว่า “รถรางเที่ยวสุดท้าย” เป็นละครสร้างสรรค์สังคมที่ทุกครอบครัวควรดู!!!
“บริพัตร เป็นคนที่มองโลกในแง่ดี มองคนอื่นในแง่ดี แล้วเข้าใจวิธีการคิดของคนรุ่นใหม่ จริงๆ ผมกับตัวละคร บริพัตร เหมือนชีวิตจริงของผม คล้ายกันตรงที่ว่าเป็นคนที่ไม่ยึดติดกับอะไรมากมาย มองโลกในแง่ดี มองคนอื่นในแง่ดี ก็ตามอายุของชีวิตจริงนะ
สิ่งที่คนดูจะได้จากละครเรื่องนี้ ถ้าดูตามแล้วคิด นอกจากความบันเทิงแล้ว จะได้ข้อคิดที่เรียกว่า ชีวิตแต่ละคน อย่าเอาแต่ความตั้งใจของตัวเองมาเป็นที่ตั้งเหมือนกับ อารักษ์ (หนิง นิรุตต์) ที่เขาเอาความตั้งใจของตัวเอง เอาประสบการณ์ของตัวเอง จนไม่ไว้ใจใคร ไม่ยอมใคร จริงๆ ต้องให้เขาเรียนรู้และแก้ปัญหาเอง เมื่อเขาแก้ไม่ได้ เราถึงจะเข้าไปช่วย
![อาหนิง-นิรุตต์ และ อาหมู-สมภพ โดนใจบทบาทที่รับ ย้ำ!!! “รถรางเที่ยวสุดท้าย” ความสนุกที่ให้แง่คิดคนดู 5 9P4A3930](https://media.newsplus.co.th/2024/02/9P4A3930-1024x682.jpg)
ละครเรื่องนี้จะสะท้อนให้เห็นว่าคนยุคใหม่กับยุคเก่าสามารถจะเข้ากันได้ อย่าง บริพัตร คุยกับ ภราดร (ปอนด์-พลวิชญ์) ที่เราคุยกันได้ ก็เพราะว่าเรายอมรับฟังเขา แล้วในเรื่องนี้สอนหมดเลย ถ้าเราไม่รับฟังเขาก็เหมือนอยู่กันคนละโลก ละครเรื่องนี้ให้ข้อคิดและคติดีมาก เป็นเรื่องของชีวิตจริงของคนปัจจุบัน ถึงจะเป็นคนละรุ่น แต่ถ้าเราต่างรับฟังกันเข้าใจกัน อาจจะผิดจะถูกแต่รับฟังกัน มันถึงจะไปด้วยกันได้ แต่ถ้าพูดแล้วเขาไม่รับฟัง ออกคำสั่งอย่างเดียว มันก็ไปกันไม่ได้ครับ”
ติดตามรับชมละคร “รถรางเที่ยวสุดท้าย” ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทางไทยพีบีเอส ช่องหมายเลข 3 และยังสามารถติดตามชมอีกครั้งได้ที่ www.VIPA.me พร้อมทั้งสามารถติดตามไทยพีบีเอสทุกช่องทางออนไลน์ ได้ที่
Social Media Thai PBS : Facebook, YouTube, X (Twitter), LINE, TikTok, Instagram Website : www.thaipbs.or.th Application : Thai PBS