แต้ว ณฐพร เผยสภาพจิตใจหลังสูญเสียพ่อดีขึ้นมาก ช่วงนี้ตระเวณพาคุณแม่ทำบุญ ไม่อยากให้ท่านเหงา ยึดคำสอนคุณพ่อในการใช้ชีวิตว่าทุกอย่างย่อมมีการเปลี่ยนแปลง ปัดเปิดตัวอย่างเป็นทางการควงไฮโซณัยทานข้าวร่วมครอบครัว แจงเป็นภาพในอินตราแกรมคนอื่น ส่วนตัวไม่อยากรีบ ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ไม่กดดันคนจับตามองเยอะ ไม่ขอใช้คำว่าแฟน แค่รู้สึกว่าฝ่ายชายเป็นคนที่หวังดีกับเรา ยังมอง ต้น อดีตหวานใจเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว เมินกระแสโซเชียลด้านลบไม่จบ ลั่นขอแคร์คนที่อยู่รอบตัวดีกว่า
ถือเป็นการให้สัมภาษณ์สื่อครั้งแรกหลังจากสูญเสียคุณพ่อไป สำหรับนางเอกสาว “แต้ว ณฐพร” แถมล่าสุดสาวแต้วก็ได้เปิดตัวรักครั้งใหม่กับ “ไฮโซณัย ประณัย” ออกสื่ออีกด้วย โดยวันนี้สาวแต้วได้มาร่วมงาน Central International Watch Fair 2020 ทางผู้สื่อข่าวก็อดที่จะอัพเดตเรื่องราวของเธอไม่ได้
“ตอนนี้เหรอคะ ค่อยๆ รับรู้ความเป็นจริง ก็โอเคนะคะ แต้วได้คำสอนจากพ่อมาเยอะ ในเรื่องของการมองโลกในความป็นจริง คำสอนทำให้เรามีสติ ยิ่งเวลาเราเศร้าก็นึกถึงคำสอนของพ่อ ก็ช่วยได้เยอะ ส่วนคุณแม่ก็จิตใจเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ ก็พาตระเวนทำบุญ พรุ่งนี้เป็นวันครบรอบ 50 วัน ก็จะไปทำบุญ ถวายสังฆทานค่ะ คุณพ่อสอนมาเยอะ สอนให้เราไม่ประมาทกับชีวิต ตระหนักอยู่เสมอว่าเกิดความเปลี่ยนแปลงในชีวิตได้ ชีวิตไม่แน่นอน ก็เลยทำให้เรารู้สึกว่ามันช่วยได้ ก็ช่วยมากเลยนะคะ กับการที่เราได้ทำงาน กลับมาโฟกัสเรื่องงานไม่จมอยู่กับความเศร้า แต่ถามว่าก็ยังเศร้าอยู่”
พอถามถึงเรื่องที่สาวแต้ว ชวนไฮโซณัยมาทานข่าวร่วมครอบครัว ว่าเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการหรือเปล่านั้นสาวแต้วก็ขอชี้แจงว่าไม่ได้เป็นการเปิดตัวแต่อย่างใด แค่อยากพาคุณแม่ออกมาทานข้าวนอกบ้านเลยชวนฝ่ายชายด้วย ส่วนที่เห็นภาพกันก็เป็นไอจีสตอรี่ของคนอื่น ตอนนี้ขอค่อยๆศึกษากันแบบค่อยเป็นค่อยไป มองฝ่ายชายเป็นคนที่หวังดีกับตน และครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ตนพาไฮโซณัยมาทานข้าวกับที่บ้าน
ส่วนเรื่องที่หลายคนชมอดีตแฟนอย่าง ต้น อาร์ช ว่าในวันงานศพดูแลครอบครัวสาวแต้วดีมากนั้น ทางสาวแต้วก็บอกว่ายังรู้สึกว่าฝ่ายชายเป็นคนในครอบครัวคนนึง รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ รู้สึกว่าเขาเป็นคนที่หวังดีกับเรา และเราก็หวังดีกับเขา
ถามถึงกระแสด้านลบในโซเชียลที่ไม่ยอมจบ สาวแต้วเลยขอยอมรับว่าตนเห็นตลอด แต่ไม่ได้เอามาคิดอะไรมาก “ แต้วเข้าใจว่าทุกคนมีสิทธิ์ที่จะพูด แต่แต้วคิดว่าเป็นการตัดสินใจของเราในทุกๆ เรื่อง กว่าจะมาถึงวันนี้มันก็ใช้เวลาทั้งตอนที่เรามีปัญหา ใช้เวลาในการแก้ไข จนถึงวันนี้ ถามว่าเสียใจมั้ย เราก็เสียใจ แต่ทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความทุกข์ หรือความสุข เราก็เรียนรู้ที่จะก้าวออกมา อย่าไปทุกข์นาน
เรื่องที่ทุกข์ที่สุดในชีวิต กลัวมากๆ คือการเสียคุณพ่อ เราก็ต้องมูฟออนออกมาให้เร็ว เพราะต้องออกมาใช้ชีวิตเหมือนเดิม หรือเวลาเรามีความสุขมากๆ ก็พยายามอยู่กับตรงนี้ อนาคตจะเป็นอย่างไร ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ พยายามมีสติ คนจะพูดอะไรก็ไม่ตัดสิน แต้วก็ฟรีๆ ไม่สามารถห้ามใครได้ และใครก็ห้ามแต้วไม่ได้เหมือนกัน เพราะเป็นการตัดสินใจของเราที่จะรับผลกระทบ”
