AIS PLAY ชวนแฟนบอลชาวไทยเชียร์ทัพ “ช้างศึก” คว้าชัย รอบชิงฯ ซูซูกิคัพลุ้นแชมป์สมัย 6 ตอกย้ำเจ้าอาเซียนตัวจริง ปะทะเดือด “ทีมชาติอินโดนิเซีย”พร้อมกันนัดแรก 29 ธันวาคม นี้ ดูฟรีทุกเครือข่าย
เข้าสู่จุดไคล์แม็กซ์กันแล้ว สำหรับศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อได้ 2 ชาติ อย่างทีมชาติไทย และ ทีมชาติอินโดนิเซียที่โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยม จนผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ได้สำเร็จ โดยในนัดชิงชิงชนะเลิศยังคงฟาดแข้งกันทั้งหมด 2 นัด เพื่อหาทีมที่ทำผลงานดีที่สุดครองตำแหน่งแชมป์ เจ้าแห่งอาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 AIS PLAY ขอเป็นส่วนหนึ่งของการส่งใจเชียร์ทัพช้างศึกให้คว้าแชมป์ ตอกย้ำความเป็นที่ 1 ตัวจริงของอาเซียน ด้วยการถ่ายทอดสดแบบจัดเต็มทั้ง 2 แมตช์ในรอบชิงชนะเลิศ ให้แฟนบอลชาวไทยได้รับชมฟรีทุกเครือข่ายบน AIS PLAY ในทุกช่องทาง นัดแรก วันที่ 29 ธันวาคม 2564 และนัดที่ 2 เตะกันวันปีใหม่ วันที่ 1 มกราคม 2565 เวลาไทย 19.30 น. ทั้ง 2 นัด
สำหรับ ทีมชาติไทย ในศึกชิงแชมป์อาเซียน ยิ่งเล่นยิ่งเข้าขา มาโน โพลกิ้ง กุนซือใหญ่ สั่งเดินเกมรุกเต็มพิกัด ส่วนเกมรับก็เหนียวแน่น ขณะที่นักเตะในทีม นำโดย “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ กัปตันทีม พร้อมด้วย “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา และ “กัน” ธนวัฒน์ ซึ้งจิตรถาวร ต่างกระหายชัยชนะ รอดูกันว่า “ช้างศึก” จะยืดระยะการคว้าแชมป์รายการนี้ได้มากที่สุด ต่อไป เป็นสมัยที่ 6 ได้หรือไม่ ขณะที่ ทีมชาติอินโดนีเซีย ภายใต้การคุมทัพของ ชิน แต ยอง ก็ไม่ธรรมดา มุ่งมั่นเกินร้อย หวังคว้าแชมป์รายการนี้ ให้ได้เป็นสมัยแรก หลังจากก่อนหน้านี้ เข้าชิงชนะเลิศ มา 5 ครั้ง แต่พลาดท่า ได้รองแชมป์ ทั้งหมด
แฟนบอลชาวไทย ห้ามพลาดเด็ดขาด ติดตามชมการถ่ายทอดสด พร้อมไฮไลท์แบบเต็มอิ่มจุใจใน ศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 รอบชิงชนะเลิศ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ดวลเดือดกับ “อิเหนา” ทีมชาติอินโดนีเซีย ได้ทั้ง 2 นัด เริ่มนัดแรก วันที่ 29 ธันวาคม 2564 และนัดที่ 2 วันที่ 1 มกราคม 2565 ทาง AIS PLAY ทุกช่องทาง ดูฟรีทุกเครือข่าย เริ่มเวลา 19.30 น. ทั้ง 2 นัด
#
เกี่ยวกับ AIS
บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ผู้นำด้าน Digital Life Service Provider อันดับ 1 ที่มีคลื่นความถี่ในการให้บริการมากที่สุดรวม 1420 MHz และมีจำนวนผู้ใช้งานมากที่สุดกว่า 43.7 ล้านเลขหมาย (ณ กันยายน 2564) พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยเทคโนโลยี 5G ที่ครบ 77 จังหวัดแล้วเป็นรายแรกผ่าน 3 สายธุรกิจ ได้แก่ โทรศัพท์เคลื่อนที่, อินเทอร์เน็ตบ้านความเร็วสูงภายใต้แบรนด์ AIS Fibre และบริการดิจิทัล 5 ด้าน ได้แก่ วิดีโอ คลาวด์ ดิจิทัลเพย์เมนท์ อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) และบริการร่วมกับพาร์ทเนอร์ตลอดจนขยายสู่กลุ่มธุรกิจใหม่ อาทิ AIS eSports, AIS Insurance Service ทั้งหมดนี้เพื่อสนับสนุนความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศขยายขีดความสามารถของภาคอุตสาหกรรม และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยไปพร้อมกัน พบกับเราได้ที่ www.ais.th
