เป็นระยะกว่า 22 ปีที่ “มูลนิธิดำรงชัยธรรม” ได้มอบโอกาสทางการศึกษาให้กับเยาวชนไทย ภายใต้โครงการ “ทุนสร้างคน สร้างบัณฑิต” ชมรมบัณฑิตทุนมูลนิธิดำรงชัยธรรม จึงเป็นผลผลิตหนึ่งของต้นไม้ใหญ่ ที่มีแนวคิดและความตั้งใจอันดี ที่เหล่าบัณฑิตนักเรียนทุนจะสร้างสรรค์สิ่งดีงาม กลับคืนแก่สังคมร่วมกัน ตามเจตนารมณ์การมอบทุนการศึกษาของคุณไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาด้วยการมอบทุนการศึกษาต่อเนื่องครบวงจรจนจบปริญญาตรีให้กับเยาวชนไทย ที่ตั้งใจเรียน มีความประพฤติดี กิจกรรมเด่น แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในการศึกษา โดยทางมูลนิธิดำรงชัยธรรมเล็งเห็นความสำคัญในการให้โอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียมกันของเยาวชนมาโดยตลอด ดังนั้นทุนการศึกษาที่มอบให้กับเยาวชนจะครอบคลุมในทุกส่วนที่มีความจำเป็นต่อการศึกษาและการดำรงชีพ ได้แก่ ค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายเกี่ยวเนื่องกับการศึกษา ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ค่าที่พัก ค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น โดยทางมูลนิธิฯ ไม่มีเงื่อนไขว่าจะต้องกลับมาตอบแทนใดๆทั้งสิ้น ขอให้เป็นคนดีของสังคมและสามารถช่วยเหลือผู้อื่นต่อได้
ปัจจุบันมูลนิธิฯ มีนักเรียนทุนซึ่งสำเร็จการศึกษาเป็นบัณฑิตคุณภาพออกสู่สังคมได้เป็นผลสำเร็จแล้วทั้งหมด 18 รุ่น จำนวน 486 คน จากหลากหลายสถาบันการศึกษาชั้นนำ อาทิ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยมหิดล, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, มหาวิทยาลัยศิลปากร, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ รวมถึงมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศ ฯลฯ และได้ออกไปต่อยอดให้สังคมแล้วในหลากหลายสาขาอาชีพ อาทิ แพทย์, วิศวกร, เภสัชกร, ครู, อาจารย์ ฯลฯ
ภายในงานนอกจากจัดให้มีพิธีทำบุญเลี้ยงพระเพื่อความเป็นสิริมงคลแล้ว ยังได้จัดกิจกรรมแนะนำบัณฑิตใหม่ โดยในปีนี้มีบัณฑิตจากมูลนิธิดำรงชัยธรรมที่จบการศึกษา ทั้งหมด 15 คน รวมทั้งมีการมอบเกียรติบัตร และให้โอวาทโดยคุณไพบูลย์ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและแนวทางในการดำเนินชีวิตต่อไป พร้อมกันนี้ยังมีนักเรียนทุนรุ่นล่าสุดมาร่วมแสดงความยินดีแก่เหล่าบัณฑิตอีกด้วย นอกจากนี้ยังได้จัดกิจกรรม “น้องอยากรู้ พี่อยากแชร์” โดยรุ่นพี่บัณฑิตร่วมถ่ายทอดเทคนิคขจัดอุปสรรค เพื่องานที่ฝัน ให้กับน้องบัณฑิต เพื่อเตรียมพร้อมสู่โลกการทำงานและชีวิตจริง ปิดท้ายด้วยพิธีผูกข้อมือ และมอบของที่ระลึกจากพี่สู่น้อง
[catlist id=59 numberposts=5 excludeposts=this]
ร้อยตรี ธนา ภัทรภาษิต บัณฑิตทุนรุ่น 11 นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปัจจุบันประกอบอาชีพ อัยการผู้ช่วย (ข้าราชการอัยการชั้น ๑) สถาบันพัฒนา ข้าราชการฝ่ายอัยการ ดำรงตำแหน่ง อัยการประจำกอง (ข้าราชการอัยการชั้น ๒) สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการ เปิดเผยว่า
“มูลนิธิดำรงชัยธรรมให้เรามากกว่าทุนการศึกษา และเป็นมากกว่าบ้าน ถ้ามีโอกาสก็อยากจะกลับมาเยี่ยมเยียนพี่ๆน้องๆอยู่เสมอ อยากให้ทุกคนรักษาโอกาสครั้งสำคัญนี้ไว้และตั้งใจทำอย่างเต็มที่ เพราะโอกาสมักจะนำสิ่งดีๆมาให้เราเสมอ ในภายภาคหน้าหากเราอยากทำอาชีพอะไร เราต้องศึกษาถึงหลักเกณฑ์และรายละเอียดต่างๆ รวมถึงสามารถวิเคราะห์ข้อดีหรือข้อด้อยของอาชีพนั้นๆได้ ควรวางระบบชีวิตให้ดี และควรมีแผนสำรองในอนาคตอยู่เสมอ และสิ่งสำคัญที่สุดที่อยากจะฝากไว้ก็คือ ในครั้งหนึ่งเราทุกคนในที่นี้เคยขาดโอกาส และได้รับโอกาสที่ดีจากมูลนิธิฯ หากเรามีโอกาสที่จะเป็นผู้ให้กลับคืนบ้าง ก็อย่าลืมที่จะตอบแทนสังคมด้วยนะครับ”
นายพิรเดช ช่วยนุกูล บัณฑิตทุนรุ่น 15 สำเร็จการศึกษา เกียรตินิยมอันดับ 1 จากคณะพาณิชยศาสตร์และการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เปิดเผยว่า
“รู้สึกดีใจมากครับ เนื่องจากความฝันที่อยากจะช่วยแบ่งเบาภาระของแม่ได้กลายเป็นจริงแล้ว โอกาสทางการศึกษาของตัวผมเองก็เปิดกว้างยิ่งขึ้น ทุกคนในมูลนิธิมีความเป็นกันเอง ดูแลกันแบบพี่น้อง เมื่อมีปัญหาก็สามารถติดต่อขอคำแนะนำได้ตลอด จนรู้สึกได้ว่ามูลนิธิดำรงชัยธรรมนั้น เป็นเหมือนบ้านที่อบอุ่นอีกหลังหนึ่ง หากไม่ได้รับทุน อนาคตทางการศึกษาของผม คงจะแตกต่างไปจากตอนนี้อย่างมาก และอาจจะไม่มีโอกาสได้เรียนในสิ่งที่ตนเองรักจริงๆ คำขอบคุณเป็นร้อยครั้งพันครั้งก็คงไม่พอสำหรับโอกาสที่ได้รับนี้ ผมคิดว่าการขอบคุณที่ดีที่สุดคือการเป็นคนที่คิดดี ทำสิ่งดีๆตอบแทนสู่สังคมครับ”
[catlist id=28 numberposts=5 excludeposts=this]
นางสาวพัศราภรณ์ สุวรรณวโรดม บัณฑิตทุนรุ่น 15 สำเร็จการศึกษา จากคณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่า
“รู้สึกภูมิใจทุกครั้ง เมื่อได้บอกใครต่อใครว่าเป็นนักเรียนทุนมูลนิธิดำรงชัยธรรม และมักจะมีคำถามต่อเนื่องหลังจากได้รู้ว่า “ทำอย่างไรถึงได้” ต้องตอบคำถามเหล่านี้อยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่เคยเบื่อที่จะเล่า อยากให้ทุกคนได้รู้จักมูลนิธินี้ ที่เป็นมากกว่ามูลนิธิ แต่นี่คือครอบครัว เป็นบ้านหลังใหญ่ ทุกครั้งที่กลับมาเยี่ยมเยียน จะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นเสมอมา สิ่งที่อยากฝากอยากบอกถึงน้องรุ่นหลังๆ ก็คือ ยินดีต้อนรับทุกคนที่จะได้มาเป็นครอบครัวเดียวกัน และเมื่อได้รับโอกาสแล้วขอให้ทำอย่างเต็มที่ ทำตามสโลแกนของมูลนิธิฯ คือ “ไม่ใช่แค่ให้โตได้ แต่อยากให้โตดี” ตั้งใจเรียนให้จบ และเมื่อมีโอกาสอย่าลืมตอบแทนสังคมด้วยนะคะ”