Around Town

ทีเอ็มบีสร้างความเชื่อมั่นลูกค้าประกัน ดูแลเหมือนเดิม แม้เปลี่ยนพันธมิตรแบงก์แอสชัวรันส์ พร้อมเผย “เฟล็กซี่ ไลฟ์ โพรเทค 15/5 (ยูนิตลิงค์)” โดนใจตลาด เบี้ยโต 500 ล้าน หลังเปิดขาย 6 เดือน

1 Mins read

ทีเอ็มบีเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าที่ซื้อประกันชีวิตของเอฟดับบลิวดีจากธนาคาร ชี้การเปลี่ยนพันธมิตรแบงก์แอสชัวรันส์ ไม่มีผลกระทบใด ๆ กับลูกค้า และกรมธรรม์ที่ซื้อไป ย้ำพร้อมดูแลและให้บริการเช่นเดิม ด้านประกันชีวิตควบการลงทุน “เฟล็กซี่ ไลฟ์ โพรเทค 15/5 (ยูนิตลิงค์)” ตอบโจทย์ตลาดลงตัว ส่งผลเบี้ยรับเติบโต 500 ล้านบาท หลังเปิดขาย 6 เดือน 

นายชวมนต์ วินิจตรงจิตร หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์ธุรกิจประกัน ทีเอ็มบี หรือ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า จากข้อตกลงเปลี่ยนแปลงพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ด้านประกันชีวิต หรือ แบงก์แอสชัวรันส์  ซึ่งทีเอ็มบีจะเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตของ บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 นั้น ทีเอ็มบีขอเรียนว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไม่มีผลกระทบกับลูกค้าที่ซื้อประกันชีวิตของเอฟดับบลิวดีจากทางธนาคารแต่อย่างใด สิทธิประโยชน์และความคุ้มครองของลูกค้ายังคงเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์เหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยลูกค้าไม่จำเป็นต้องดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารใด ๆ เพิ่มเติม และยังคงได้รับสิทธิประโยชน์จากโปรโมชั่นส่งเสริมการขายต่าง ๆ ที่เคยได้รับอย่างต่อเนื่องตามเงื่อนไขเดิม ทีเอ็มบีให้ความสำคัญกับลูกค้า และขอให้วางใจว่าธนาคารยังคงดูแลและให้บริการหลังการขายกับลูกค้าทุกคนเช่นเดิม

[catlist id=21 numberposts=5 excludeposts=this]

ทั้งนี้ ลูกค้าที่ซื้อกรมธรรม์ของเอฟดับบลิวดีจากทีเอ็มบียังคงใช้บริการจากช่องทางต่าง ๆ ของธนาคารได้อย่างสะดวกคล่องตัวเหมือนเดิม เช่น สามารถตรวจสอบกรมธรรม์และชำระค่าเบี้ยฯ  ผ่านแอปพลิเคชัน TOUCH หรือสอบถามรายละเอียดความคุ้มครองและบริหารจัดการกรมธรรม์ได้ที่สาขาของทีเอ็มบี หรือ Contact Center โทร. 1558

นายชวมนต์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ทีเอ็มบีมุ่งมั่นสร้างชีวิตทางการเงินของลูกค้าให้ดีขึ้น ด้วยการเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า เพื่อออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมตรงใจลูกค้ามากที่สุด ซึ่งได้การตอบรับด้วยดีเสมอมา โดยเฉพาะประกันชีวิตควบการลงทุน “เฟล็กซี่ ไลฟ์ โพรเทค 15/5  (ยูนิตลิงค์)” ที่เปิดขายเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 มีเบี้ยประกันภัยรับเติบโตที่ 500 ล้านบาท ภายในช่วงเวลา 6 เดือน เนื่องจากตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการความคุ้มครองสูงได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเจ้าของกิจการ หรือครอบครัวที่มีลูกเล็ก โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นในด้านความคุ้มครองสูง แต่จ่ายเบี้ยประกันระยะสั้นเพียง 5 ปี ไม่เป็นภาระระยะยาว และสามารถนำค่าเบี้ยประกันไปหักลดหย่อนภาษีได้ตามเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด ผลตอบรับที่ดีจากลูกค้าสะท้อนความเชื่อมั่นและไว้วางใจในผลิตภัณฑ์ประกันจากทีเอ็มบีได้เป็นอย่างดี

“ทีเอ็มบียังคงเดินหน้าสร้างหลักประกันที่มั่นคงเพื่อส่งเสริมชีวิตทางการเงินที่ดีให้กับลูกค้า และพร้อมดูแลและให้บริการลูกค้าประกันของธนาคารอย่างดีที่สุด สำหรับแผนดำเนินธุรกิจด้านประกันชีวิต ธนาคารวางสัดส่วนของประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองต่อประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ที่ 50:50 ซึ่งปัจจุบันยังเป็นไปตามแผนที่วางไว้” นายชวมนต์ กล่าว