SAT หรือ Scholastic Aptitude Test (บางคนจะเรียก Scholastic Assessment Test) เป็นข้อสอบเพื่อใช้วัดความถนัดในด้านวิชาคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษของการเรียนในระดับอุดมศึกษาตามแนวทางของประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นข้อสอบตามมาตรฐานระดับสากลที่ทั่วโลกให้การยอมรับ จุดประสงค์หลักของผู้ที่เข้าสอบก็คือเพิ่มโอกาสการเรียนต่อในมหาวิทยาลัยที่ตนเองคาดหวัง โดยเฉพาะการเรียนต่อในสหรัฐฯ ที่หลาย ๆ สถานศึกษาจะดูจากคะแนนตัวนี้เป็นหลัก ส่วนในเมืองไทยเองมีหลายมหาวิทยาลัยชื่อดัง รวมถึงบรรดาคณะอินเตอร์ก็จะใช้คะแนน SAT เป็นตัวชี้วัดด้วย คำถามที่น่าสนใจคือ ควรเลือกเรียน SAT ที่ไหนดี เพื่อให้ตนเองทำคะแนนสอบได้ตามเป้าที่วางเอาไว้ ลองมาดูแนวทางดี ๆ ไปพร้อมกันเลย
เลือกเรียน SAT ที่ไหนดี ต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง
1. เลือกสถาบันที่ผ่านการยอมรับ
ข้อแรกถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ผู้เรียนได้ความรู้ตามที่ตนเองคาดหวังเอาไว้ โดยพยายามมองหาสถาบันที่ผ่านการยอมรับจากผู้เรียนว่ามีมาตรฐานจริง ตรงนี้เรื่องชื่อเสียงก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่อย่ามองแค่เรื่องดังกล่าวเพียงอย่างเดียว เพราะบางสถาบันขึ้นอยู่กับตัวของคนที่เรียนด้วย หากเป็นคนมีพื้นฐานอยู่แล้วก็ไม่ใช่เรื่องยาก จึงอยากให้เน้นไปในส่วนของเนื้อหาที่ระบุเอาไว้ชัดเจนว่าจะสอนเรื่องไหนบ้าง หากเลือกสถาบันที่เหมาะสมย่อมทำให้คะแนนดีขึ้นมากกว่าเดิม
2. รูปแบบคอร์สที่เปิดสอน
หากถามว่าเรียน SAT ที่ไหนดี ก็ต้องมองลึกลงไปยังคอร์สที่เปิดสอน ด้วยพื้นฐานการสอบของ SAT คือ เน้นวิชาคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษ ดังนั้นคอร์สที่เลือกเรียนควรเน้นเฉพาะไปยังรายวิชาที่ต้องใช้สอบจริง ๆ ไม่ใช่แค่บอกว่ามีเรียนคณิตศาสตร์และอังกฤษ แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดใด ๆ เลยว่าเรียนด้านไหนบ้าง แนะนำให้ลองสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากสถาบันที่ตนเองสนใจได้เลย หรือถ้าหากเข้าไปตามเว็บไซต์แล้วมีระบุเอาไว้ชัดเจนว่าแต่ละคอร์สเรียนเรื่องใดบ้างก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ ทั้งนี้คอร์สในปัจจุบันก็มีทั้งเรียนโดยตรงกับสถาบันหรือเรียนออนไลน์ ลองเลือกในแบบที่เหมาะสมกับตนเองดู
[catlist id=59 numberposts=5 excludeposts=this]
3. ราคาเป็นสิ่งที่ห้ามมองข้าม
เรื่องของราคาก็เป็นอีกสิ่งสำหรับหลาย ๆ คนที่กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะเลือกเรียน SAT ที่ไหนดี เพราะแต่ละสถาบันเองก็มีค่าใช้จ่ายในการเรียนต่างกันออกไป ตรงนี้ลองมองงบประมาณของตนเองเป็นหลักก่อน หากมั่นใจว่ามีเงินเพียงพอกับคอร์สของสถาบันนั้น ๆ ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าหากมองแล้วงบน้อย หรือรู้สึกว่าแพงเกินไป ก็ให้ลองศึกษาข้อมูลด้านอื่น ๆ เพิ่มเติม พร้อมเปรียบเทียบกับสถานบันอื่นว่าราคาของคอร์สเรียนอยู่ประมาณเท่าไหร่ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่ากับตนเองมากที่สุด
4. ข้อมูลของผู้สอนเป็นสิ่งสำคัญ
ผู้สอนหรือติวเตอร์ก็นับว่าเป็นอีกปัจจัยที่หลาย ๆ คนเลือกว่าต้องการเรียนที่ไหน จึงอยากแนะนำให้ลองศึกษาข้อมูลของบรรดาติวเตอร์เหล่านี้เอาไว้ด้วย เช่น การศึกษา, ประสบการณ์ ฯลฯ เพราะมันช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเข้าเรียนได้เป็นอย่างดี หากติวเตอร์คนดังกล่าวมีความรู้ความสามารถที่ระบุไว้ชัดเจน ย่อมเพิ่มโอกาสในการสอบให้ผ่านง่ายขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัวได้ไม่ยาก
5. รีวิวจากคนที่เคยเรียนจริง
อีกประเด็นในการมองหาว่าจะเลือกเรียน SAT ที่ไหนดี ก็ให้ดูจากบรรดารีวิวต่าง ๆ ของคนที่เคยเรียนมาว่าเป็นอย่างไรบ้าง ตรงนี้อาจต้องมองหาจากพวกเว็บบอร์ดหรือกลุ่ม Social Media ที่มีคนเขียนเอาไว้ว่าเป็นอย่างไรบ้างกับการเรียนที่สถาบันแห่งนี้ หากแนวโน้มไปในทิศทางที่ดี หลายคนสอบได้คะแนนสูง ก็ถือว่าเป็นเครื่องยืนยันในการตัดสินใจสมัครเรียนได้ในระดับหนึ่งเลย
6. มีแบบทดลองเรียน
ท้ายที่สุดหากสถาบันไหนมีรูปแบบให้ทดลองเรียนได้ฟรี ตรงนี้นับว่าคุ้มค่าและช่วยให้การตัดสินใจง่ายขึ้นกว่าเดิม เพราะมันทำให้คำถามทุกอย่างตอบได้หมดว่า ผู้สอนเป็นอย่างไร, มีแผนการสอนเน้นเรื่องใดเป็นหลัก ฯลฯ แม้เป็นการทดลองเรียนเบื้องต้นระยะเวลาไม่กี่นาทีก็ช่วยให้มั่นใจในการเลือกเรียนได้แล้ว
แต่สำหรับคนที่กำลังคิดอยู่ว่าจะเลือกเรียน SAT ที่ไหนดี อยากแนะนำให้รู้จักกับสถาบันชั้นนำที่พร้อมนำเสนอความรู้โดยติวเตอร์ที่มีความเชี่ยวชาญ มากด้วยประสบการณ์อย่างสถาบัน INTERPASS เลือกเรียนได้ทั้งในสถาบันและคอร์สออนไลน์ ราคาไม่แพง มีรูปแบบทดลองเรียนฟรีให้ได้พิจารณาความเหมาะสม พร้อมเป็นผู้ช่วยให้การสอบ SAT ของทุกคนได้คะแนนตามที่คาดหวัง
