Around Town

 ISO คืออะไร มีประวัติความเป็นมาอย่างไร รู้ที่นี่!

1 Mins read

ISO คืออะไร มีประวัติความเป็นมาอย่างไร?”

ISO ย่อมาจาก International Organization for Standardization แปลเป็นไทยว่า องค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการมาตรฐาน เป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ไม่แสวงหาผลกำไร ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2489 มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ปัจจุบันมีสมาชิก 167 ประเทศ

วัตถุประสงค์ ของ ISO คือ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาและเผยแพร่มาตรฐานสากล ในทุกสาขา ยกเว้นด้านไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นหน้าที่ของ IEC (International Electrotechnical Commission)

4 wolfcb

มาตรฐาน ISO คือเอกสารที่กำหนดข้อกำหนด ข้อตกลง หรือแนวทางปฏิบัติ สำหรับสินค้า บริการ กระบวนการ ระบบ หรือบุคคล เพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สร้างความมั่นใจ ให้เกิดความเข้าใจตรงกัน และสร้างความโปร่งใส ในการค้าระหว่างประเทศ

ประวัติความเป็นมา

ISO ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2489 โดย 25 ประเทศ ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2  มีจุดประสงค์เพื่อสร้างมาตรฐานสากล  replacing the multitude of national standards that had proliferated before the war.

ในช่วงแรก ISO มุ่งเน้นไปที่การพัฒนามาตรฐานสำหรับวิศวกรรม เช่น มาตรฐานสำหรับเกลียว เกลียว สกรู และท่อ

ต่อมา ISO ขยายขอบเขตการทำงานไปยังสาขาอื่นๆ

  • ปี พ.ศ. 2503 ISO เริ่มพัฒนามาตรฐานระบบบริหารคุณภาพ
  • ปี พ.ศ. 2524 ISO เริ่มพัฒนามาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม
  • ปี พ.ศ. 2535 ISO เริ่มพัฒนามาตรฐานด้านความปลอดภัยของอาหาร
  • ปี พ.ศ. 2543 ISO เริ่มพัฒนามาตรฐานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม

ปัจจุบัน ISO มีมาตรฐานมากกว่า 23,000  ครอบคลุมทุกแง่มุมของชีวิต

ตัวอย่างมาตรฐาน ISO ที่เป็นที่รู้จัก

  • ISO 9001: คือมาตรฐานระบบบริหารคุณภาพ
  • ISO 14001: มาตรฐานระบบบริหารสิ่งแวดล้อม
  • ISO 22000: คือมาตรฐานระบบบริหารความปลอดภัยของอาหาร
  • ISO 27001: มาตรฐานระบบบริหารความปลอดภัยสารสนเทศ
  • ISO 45001: คือมาตรฐานระบบบริหารความปลอดภัยและอาชีวอนามัย

ประโยชน์ของการใช้มาตรฐาน ISO

  • เพิ่มประสิทธิภาพ
  • ลดต้นทุน
  • เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
  • สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า
  • เข้าถึงตลาดใหม่
  • สร้างภาพลักษณ์ที่ดี

การขอรับรอง ISO

องค์กรที่ต้องการขอรับรอง ISO  ต้องดำเนินการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

  1. ศึกษาและเลือกมาตรฐาน ISO ที่เหมาะสม
  2. พัฒนาระบบตามข้อกำหนดของมาตรฐาน ISO
  3. เตรียมเอกสารและหลักฐาน
  4. ยื่นขอรับรองกับหน่วยงานรับรอง
  5. ตรวจประเมินโดยหน่วยงานรับรอง
  6. ได้รับใบรับรอง ISO

ตัวอย่างการประยุกต์ใช้มาตรฐาน ISO

ISO 9001: มาตรฐานระบบบริหารคุณภาพ เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงคุณภาพสินค้าและบริการ

ตัวอย่าง: บริษัทผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ได้รับการรับรอง ISO 9001 ช่วยให้มั่นใจว่าชิ้นส่วนยานยนต์ที่ผลิตได้มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล

ISO 14001: มาตรฐานระบบบริหารสิ่งแวดล้อม เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการมุ่งเน้นไปที่การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ตัวอย่าง: โรงแรม ได้รับการรับรอง ISO 14001 ช่วยให้มั่นใจว่าโรงแรมมีการใช้น้ำและพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ