Around Town

Zendesk ประเทศไทย ส่งมอบ Zendesk Support Suite ช่วยนำทางการบริการลูกค้าที่ดียิ่งขึ้นให้กับทุกธุรกิจ

1 Mins read

เมื่อเร็วๆ นี้ คุณญาณ์นิศา อังศุวัฒนานนท์ ผู้บริหาร Zendesk Thailand ซึ่งเป็นบริษัทฯ ผู้นำด้าน Omnichannel solution ได้กล่าวว่า “ทางบริษัทฯ ได้พัฒนา Zendesk Support Suite ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่จะช่วยนำทางให้ภาคธุรกิจและบริการสามารถบริหารจัดการประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า ผ่านการแสดงข้อมูลแบบลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ในการสื่อสารลูกค้าอย่างครอบคลุมทุกช่องทางแบบ omnichannel โดยผู้ใช้สามารถ สื่อสารกับลูกค้าได้ด้วยข้อมูลชุดเดียว และกระบวนการทำงานที่เหมือนกันในทุกช่องทาง ทั้งอีเมล แชท โทรศัพท์ และแม้แต่แอพรับส่งข้อความโซเชียลอย่าง Facebook,WhatsApp, Twitter, Instagram และ Line Official Account

ซึ่งซอฟต์แวร์ดังกล่าวฯ มีที่มาจากความเปลี่ยนแปลงของโลก ที่พฤติกรรมผู้บริโภคเป็นความเปลี่ยนแปลงที่คาดเดาได้ยากที่สุดสำหรับ ทุกภาคธุรกิจ และบริการ โดยเฉพาะทุกวันนี้ที่เทรนด์ผู้บริโภคได้เปลี่ยนแปลงไปเร็วยิ่งกว่าสิ่งใด ทำให้แต่ละหน่วยงานและองค์กรต้องคอยหาข้อมูลใหม่ๆ อัพเดทเทรนด์ต่างๆ ให้นำหน้าลูกค้าอยู่เสมอ และทางทีมบริการลูกค้าก็ต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เท่าทันต่อการแข่งขันในโลกปัจจุบัน ซึ่งการเก็บ ฐานข้อมูลประสบการณ์ของลูกค้าถือเป็นสิ่งมีค่า และนับเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการประเมินและสร้างคุณค่าในภาคธุรกิจและบริการ ให้ตรงกับความ ต้องการของลูกค้ามากที่สุด

ในโลกใบใหม่ที่สินค้าและบริการมีให้ลูกค้าสามารถเลือกสรรได้มากมาย หลายแบรนด์มีสินค้าและบริการที่คล้ายคลึงกัน การบริการลูกค้าอย่างมีคุณภาพมีความสำคัญมากกว่าที่เคย ซึ่งจากข้อมูลสถิติของประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่าลูกค้าถึง 1 ใน 3 ราย มีโอกาสไม่กลับมาใช้บริการซ้ำ และจะละทิ้งแบรนด์นั้นๆ ทันที หลังจากมีประสบการณ์ที่เลวร้ายเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว สิ่งนี้ทำให้หลายบริษัทในสหรัฐอเมริกาขาดทุนมากกว่า 75 พันล้านดอลลาร์ทุกปี ในทางกลับกันถ้าคุณปฏิบัติกับลูกค้าอย่างถูกต้อง มีคุณค่าเหมาะสม และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้เกิดขึ้น ลูกค้าจะไม่ได้แค่ใช้สินค้าและบริการของคุณต่อ แต่จะรู้สึกถึงคุณค่าจากการให้บริการที่ตรงใจ และยินดีที่จะจ่ายมากขึ้นเพื่อการก้าวเป็นลูกค้ากลุ่มพิเศษสำหรับธุรกิจของคุณอย่างแน่นอน

Zendesk support suite ช่วยนำทางการบริการลูกค้าที่ดียิ่งขึ้นให้กับทุกธุรกิจ

คุณญาณ์นิศา ยังได้กล่าวต่อไปว่า “แล้วคุณค่าเหล่านั้นจะสร้างขึ้นได้จากอะไร และอะไรจะเป็นเข็มทิศนำทางไปสู่ภาคธุรกิจและบริการให้สามารถสร้างการบริการลูกค้าที่ดียิ่งขึ้นได้ สิ่งนั้นก็คือฐานข้อมูลประสบการณ์จากลูกค้า (X-data) ที่จะสามารถนำมาพัฒนาการให้บริการได้ตอบโจทย์ และตรงใจลูกค้ามากที่สุด เพราะข้อมูลประสบการณ์ คือความเชื่อ อารมณ์และความคิดของลูกค้า แม้ว่าข้อมูลส่วนใหญ่ที่ธุรกิจนำมาพิจารณาจะมุ่งเน้นไปที่ “สิ่งที่เกิดขึ้น” แต่เราเรียกสิ่งนี้ว่าข้อมูลการดำเนินงาน (O-data) แต่ X-data สามารถเปิดเผย “เหตุผล” ที่อยู่เบื้องหลังได้ ตัวอย่างเช่น O-data อาจบอกคุณได้แค่ว่าลูกค้าได้ทิ้งออเดอร์รถเข็นบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณ ซึ่ง X-data สามารถอธิบายได้ว่าที่เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นเนื่องจาก ลูกค้ารู้สึกหงุดหงิดกับขั้นตอนหนึ่งในกระบวนการชำระเงิน ปัจจุบันนี้หลายๆ แบรนด์จึงหันมาให้ความสนใจกับข้อมูลในส่วน X-data มากขึ้น เพราะทำให้สามารถเข้าใจลูกค้าได้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง

[catlist id=59 numberposts=5 excludeposts=this]

โดยจากสถิติของ CX Champions of Asia Pacific ซึ่งเป็นการจัดเก็บข้อมูลประสบการณ์ลูกค้าจากแบรนด์ต่างๆ กว่า 250 แห่ง ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก โดยความร่วมมือระหว่าง Zendesk ร่วมมือกับ ESG Research เพื่อศึกษาเกี่ยวกับประสบการณ์ของลูกค้า สามารถจัดแบรนด์ต่างๆ ออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่

(1) The Champions ธุรกิจที่มีการดำเนินงานเกี่ยวกับประสบการณ์ของลูกค้าที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว
(2) The Risers ธุรกิจที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
(3) The Starters ธุรกิจที่เสี่ยงต่อการล้มเหลว

หากพวกเขายังดำเนินงานตามแผนปัจจุบัน ซึ่งได้พบข้อมูลที่น่าสนใจว่าประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนั้น ค่อนข้างล้าหลังในการประสบความ สำเร็จในการพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้า โดยร้อยละ 27 ขององค์กรที่ถูกสำรวจเป็น The Champions อีก 34% เป็น The Risers และ 39% เป็น The Starters และพบว่า The Champions มีโอกาสสูงกว่ากลุ่ม The Starters ถึง 3.6 เท่าที่จะไม่ประสบปัญหาเดิมซ้ำ ซึ่งในการบริการ ลูกค้าและตัวแทนของกลุ่มองค์กรใน The Champions มีประสิทธิผลมากกว่าตัวแทนกลุ่ม The Starters ถึง 2.3 เท่า

11 2

โดยกลยุทธ์สำคัญของกลุ่ม The Champions ก็คือการที่องค์กรหรือแบรนด์นั้นๆ มีความพร้อมสูง ในการตอบกลับ และเข้าถึงทุกความต้องการของ ลูกค้าอย่างทันท่วงที จะนำไปสู่ความเป็นเลิศด้านประสบการณ์ของลูกค้า ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับกลุ่ม The Starters แล้วนั้น กลุ่ม The Champions มีความรวดเร็วในการตอบกลับบทสนทนาแรกของลูกค้ามากกว่าถึง 1.3 เท่า นอกจากนั้นยังมีการเพิ่มบริการแบบ one – touch ให้ลูกค้าถึงร้อยละ 9 และมีรายงานว่าพบการเกิดปัญหาเดิมซ้ำน้อยกว่า 1% ซึ่งโดยรวมแล้วสรุปได้ว่า กลุ่ม The Champions ตอบโจทย์ ตรงใจ ทันใจลูกค้ามากกว่าและส่วนสำคัญคือการเข้าใจลูกค้า มีกลยุทธ์ในการสื่อสารที่ดี และสร้างประสบการณ์ในการบริการของลูกค้าให้ดี

ซึ่งจากข้อสรุปในผลการสำรวจที่อ้างอิงมานั้น ก็ใช่ว่าทุกองค์กรจะสามารถนำมาปรับใช้ และทำความเข้าใจได้ง่าย เพราะในปัจจุบันนี้ช่องทางการ สื่อสารกับลูกค้าก็มีมากมาย ความต้องการของผู้คนนั้นก็ไร้ขีดจำกัด และการทำความเข้าใจกับอารมณ์และความรู้สึกของลูกค้านั้นก็ยากเกิน กว่าที่จะฝึกฝนให้พนักงานทุกคนเข้าใจและรับมือได้”

โดยองค์กรหรือหน่วยงานที่สนใจ สามารถเข้ามาร่วมทดลองใช้ Zendesk Support Suite ซอฟต์แวร์ช่วยเหลือ ที่จะส่งมอบประสบการณ์สนับสนุนที่ใช้งานง่าย เชื่อมต่อกับลูกค้าได้ในทุกช่องทาง ปรับใช้งานก็สะดวก ปรับขยายก็ง่าย

เปิดตัวให้ทดลองใช้ฟรีแล้วที่ https://www.zendesk.com/th/support-suite/ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป